ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวช็อกวงการเทคโนโลยีอยู่ 2 ข่าว คือ Meta บริษัทแม่ของ Facebook ประกาศเลิกจ้างพนักงานกว่า 11,000 คน ขณะเดียวกัน Twitte คู่แข่งรายใหญ่ที่เพิ่งถูกซื้อโดย Elon Musk ก็ประกาศเลิกจ้างพนักงานจำนวนมากเช่นกัน
Meta จะเลิกจ้างพนักงาน 11,000 คน
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา(9 พ.ย. 65) Meta บริษัทแม่ของ Facebook ประกาศว่าจะเลิกจ้างพนักงานมากถึง 11,000 คน จากปัญหาด้านความท้าทายทั้งในด้านต้นทุนของธุรกิจหลัก การเปลี่ยนนโยบายไปใช้ Metaverse รวมไปถึงปัญหาด้านภาวะเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และความกังวลด้านเศรษฐกิจถดถอย
Mark Zuckerberg ได้เขียนในบล็อกโพสต์ถึงพนักงาน “ผมตัดสินใจลดขนาดทีมของเราลงประมาณ 13% และปล่อยให้พนักงานที่มีความสามารถของเรามากกว่า 11,000 คนไป”
–เปิดทุน ป.เอก-โทสาขาอวกาศ ปั้นกำลังคนติด 1 ใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย
สำหรับปัญหาด้านรายได้ของธุรกิจขายโฆษณาหลักของ Meta นั้นได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงความเป็นส่วนตัวของ Apple ขณะที่คู่แข่งรายใหม่ เช่น TikTok เข้ามาชิงส่วนแบ่งไปเช่นกัน นอกจากนี้ Meta ยังใช้เงินหลายพันล้านเพื่อสร้าง Metaverse ที่ยังไม่เห็นอะไรออกมาเป็นรูปเป็นร่างอย่างชัดเจน
ทั้งนี้หุ้นของ Meta เพิ่มขึ้น 5% ในการซื้อขายวันพุธหลังการประกาศ
และเช่นเดียวกันอีกหนึ่งยักษ์ใหญ่อย่าง Twitter คู่แข่งของ Facebook ได้ประกาศเลิกจ้างพนักงานหลัง Elon Musk เจ้าของคนใหม่เข้ามากุมบังเหียน
วิกฤติ Twitter.. Elon Musk เลิกจ้างพนักงานทั่วทั้งบริษัท
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา Twitter เลิกจ้างพนักงานหลายพันคนในแผนกต่างๆ ทั่วทั้งบริษัท ซึ่งเป็นการลดค่าใช้จ่ายครั้งใหญ่ซึ่งอาจส่งผลต่อการทำงานของหนึ่งในแพลตฟอร์มที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลกหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่มหาเศรษฐี Elon Musk ซื้อกิจการไป
พนักงาน Twitter จำนวนมากเริ่มโพสต์บนแพลตฟอร์มในคืนวันพฤหัสบดีและเช้าวันศุกร์ว่าพวกเขาถูกล็อกบัญชีอีเมลของบริษัทไว้ก่อนการแจ้งเตือนการเลิกจ้างที่วางแผนไว้
Simon Balmain อดีต Senior Community Manager ของ Twitter ที่ถูกปลดออกจากงานเมื่อวันศุกร์ ให้สัมภาษณ์กับ CNN ว่า เขาสูญเสียการเข้าถึง Slack อีเมล และระบบภายในอื่นๆ ประมาณ 8 ชั่วโมงก่อนที่จะได้รับอีเมลในเช้าวันศุกร์ที่แจ้งอย่างเป็นทางการว่าเขาถูกเลิกจ้าง และอีเมลเลิกจ้าง ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุที่ถูกเลิกจ้าง
ในขณะที่พนักงานของ Twitter กำลังโพสต์เกี่ยวกับการถูกเลิกจ้าง Elon Musk ปรากฏตัวเพื่อให้สัมภาษณ์ในการประชุมนักลงทุนเมื่อวันศุกร์ และพูดคุยเกี่ยวกับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกลง และแผนการไปดาวอังคาร ในระหว่างการสัมภาษณ์ Elon Musk พูดถึง Twitter ว่า “ผมพยายามออกจากดีล” ก่อนเสริมว่า “ผมคิดว่า Twitter มีศักยภาพมากมายมหาศาล และอาจเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก”
และเมื่อถามถึงการเลิกจ้างพนักงานครึ่งหนึ่งของ Twitter ด้าน Elon Musk พยักหน้า แต่ไม่ได้แสดงความเห็นอะไร
ทั้งนี้ในการสัมภาษณ์ Elon Musk ดูเหมือนจะวางกรอบการปลดพนักงานครั้งใหญ่ว่าจำเป็นสำหรับบริษัทที่ประสบกับ “ความท้าทายด้านรายได้” เช่นเดียวกับบริษัทสื่อสังคมออนไลน์อื่น ๆ ก่อนที่เขาจะได้รับซื้อกิจการ เนื่องจากผู้ลงโฆษณาคิดใหม่เกี่ยวกับการใช้จ่ายท่ามกลางความกลัวภาวะเศรษฐกิจถดถอย
Elon Musk กล่าวในตอนท้ายว่า “ผู้ลงโฆษณารายใหญ่หลายรายหยุดใช้จ่ายบน Twitter” ในช่วงหลายวันนับตั้งแต่การเข้าซื้อกิจการของเขาเสร็จสิ้น
บริษัทยักษ์ใหญ่ถึงเวลาลด Size
หากลองมาดูเหตุผลจากทั้ง 2 บริษัท จะพบว่าปัญหาหลักของทั้งคู่นั้นมาจากการหดตัวของรายได้ ขณะที่ต้นทุนเท่าเดิม ประกอบกับภาวะเงินเฟ้อที่ดันอัตราดอกเบี้ยสูงเงิน รวมไปถึงความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย
แต่ในความเป็นจริงแล้ว การลดขนาดบริษัทของทั้งคู่ในครั้งนี้นั้นเกิดขึ้นเพราะการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา อย่าง Meta ที่มีพนักงานมากถึง 87,000 คน ในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าของจำนวนพนักงาน 48,268 คน ที่มีในช่วงเริ่มต้นของการระบาดโควิด-19 ในเดือนมีนาคม 2020
ซึ่งในช่วงวิกฤติโควิด-19 ที่ผ่านมาเคยมีกระแสการขาดแคลนพนักงานสายเทคเป็นจำนวนมาก เพราะอยู่ในช่วงเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ในวันนี้ วันที่หลายๆ อย่างกลับมาเป็นปกติ คนออกมาใช้ชีวิตปกติมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว ขณะที่ต้นทุนกับการจ้างพนักงานไม่ได้ลดลง มีแต่จะเพิ่มสูงขึ้นจากภาวะเงินเฟ้อ รวมไปถึงการที่แบรนด์ต่างๆ เริ่มคิดเรื่องการใช้เงินกับการลงโฆษณาผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ มากขึ้น และการเติบโตของ TikTok ที่เข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดไปมากขึ้น
ทั้งหมดนี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ทั้ง 2 บริษัทนี้ต้องตัดสินใจลดพนักงานลงเพื่อความอยู่รอด
..จากวิกฤติขาดแคลนคนเข้าทำงานในบริษัทเทคในช่วงก่อนหน้านี้ กำลังจะกลายเป็นบุคลากรล้นตลาดอีกครั้งหรือไม่ เพราะไม่เพียงแค่ 2 บริษัทนี้เท่านั้นที่ปลดพนักงาน แต่ยังมีบริษัทเทคโนโลยีอีกหลายบริษัทที่ต้องปลดพนักงานเพื่อความอยู่รอด
ที่มา edition.cnn.com/meta-facebook-layoffs , edition.cnn.com/twitter-layoffs