นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงที่ผ่านมาทยอยฟื้นตัวตามการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดของโรค COVID-19 ทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่สถานการณ์ COVID-19 ที่ยืดเยื้อและกลับมาระบาดซ้ำในหลายประเทศทำให้แนวโน้มการฟื้นตัวในระยะข้างหน้าล่าช้ากว่าที่เคยประเมินไว้ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว
เศรษฐกิจไทยในปี 2563 คาดว่าจะหดตัวที่ร้อยละ 7.8 ดีกว่าที่ประเมินไว้เล็กน้อย โดยผลกระทบจากมาตรการปิดเมืองน้อยกว่าที่ประเมินไว้ สะท้อนจากข้อมูลจริงในไตรมาส 2 ที่ดีกว่าคาด โดยมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐมีบทบาทสำคัญในการช่วยพยุงเศรษฐกิจในปีนี้
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ที่ยังมีความไม่แน่นอนและยืดเยื้อจะส่งผลต่ออุปสงค์ต่างประเทศทั้งการส่งออกสินค้าและภาคการท่องเที่ยว โดยคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะอยู่ที่ 9 ล้านคนในปี 2564 จึงประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2564 จะขยายตัวที่ร้อยละ 3.6 ลดลงจากการประเมินครั้งก่อน
อย่างไรก็ดี แนวโน้มของเศรษฐกิจในระยะถัดไปยังมีความไม่แน่นอนสูงและจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ที่สำคัญได้แก่ แนวโน้มเศรษฐกิจโลก มาตรการจ้างงานและการลงทุนของภาครัฐในด้านต่างๆ การปรับตัวของภาคธุรกิจและประชาชน และสถานการณ์โรค COVID-19 รวมถึงมาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ทั้งนี้คาดว่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสองปีก่อนที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมจะกลับสู่ระดับก่อนแพร่ระบาด โดยการฟื้นตัวจะแตกต่างกันมากระหว่างภาคเศรษฐกิจและผู้ประกอบการแต่ละกลุ่ม มาตรการภาครัฐจำเป็นต้องตรงจุดและทันการณ์มากขึ้น โดยจะต้องเร่งสนับสนุนการจ้างงาน การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง แต่ละภาคส่วนต้องบูรณาการมาตรการให้สอดคล้องและเชื่องโยงกัน เพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้อย่างยั่งยืน