เนสท์เล่ ประเทศไทย เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “ไมโล นมถั่วเหลือง” เจาะกลุ่มคุณแม่ยุคใหม่ที่มีลูกอยู่ในเจนอัลฟา 6-12 ปี และกำลังมองหาเครื่องดื่มทางเลือกใหม่ที่มีประโยชน์กับลูก
ในปี 2564 ภาพรวมตลาดนมพร้อมดื่มในประเทศไทยมีมูลค่ารวม 4.4 หมื่นล้านบาท หดตัวลง 7.5% จากผลกระทบทางเศรษฐกิจ ด้านส่วนแบ่งตลาดนมถั่วเหลืองมีมูลค่า 1.35 หมื่นล้าน หรือ 30% ของตลาดนมพร้อมดื่มทั้งหมด ทำให้เนสท์เล่ ประเทศไทย มองเห็นโอกาสในการเข้าสู่ตลาดนมถั่วเหลือง
–กระทรวงอุตฯ จับมือ ดีแทคเน็ตทำกิน นำดิจิทัลเชื่อมต่อภูมิปัญญาท้องถิ่น ตั้งเป้ารายได้กว่า 250 ล้านบาท
–ซิกน่าประกันภัย รุกบริการ Telemedicine ให้ลูกค้าเจ็บป่วยพบแพทย์ได้ทันที
“ปัจจุบันกระแสความนิยมเครื่องดื่มทางเลือกจากพืชในตลาดกำลังได้รับความนิยมทั้งในไทยและหลายประเทศทั่วโลก เราตั้งเป้าเข้ามาในตลาดนมถั่วเหลืองที่อยู่มานาน แต่ต้องหาวิธีสร้างเอกลักษณ์ใหม่ให้กับตลาด” ไชยงค์ สกุลบริรักษ์ ผู้อำนวยการบริหารธุรกิจผลิตภัณฑ์นม และโภชนาการ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าว
สำหรับ ไมโล นมถั่วเหลือง เปิดตัวในประเทศไทยเป็นประเทศแรก ใช้เวลาวิจัยและพัฒนากว่า 2 ปี และพบว่า
-แม่ยุคใหม่ต้องรับผิดชอบงาน และยังค้องดูแลสุขภาพคนในครอบครัวไปพร้อมกัน
-คนยุคใหม่คำนึงถึงโภชนาการและคุณประโยชน์ของสารอาหารที่ครบถ้วน
-คนในครอบครัวมีสวนร่วมในการเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุด ความสุขของลูกคือสิ่งสำคัญ
-ผู้บริโภคมีความรู้ความเข้าใจโภชนาการต่อสุขภาพองค์รวมมากขึ้น
-ตอบรับเทรนด์อาหารและเครื่องดื่มจากพืชที่ให้ประโยชน์
“เราวิจัยและพัฒนาออกมาเพื่อให้ถูกปากคนไทย ใช้งบประมาณ 150 ล้านบาท สำหรับการเปิดตัวในปีนี้ ตั้งแต่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ เปิดตัวพรีเซนเตอร์ ภาพยนตร์โฆษณา สื่อโฆษณานอกบ้าน กว่า 250 จุด และสื่อโฆษณาในร้านค้าที่จำหน่ายไมโลนมถั่วเหลือง รวมถึงการโฆษณาบนช่องทางออนไลน์ผ่านสื่อและอินฟลูเอนเซอร์ ตลอดจนการจัดกิจกรรมแจกเครื่องดื่มให้ผู้บริโภคได้ทดลองชิม”
สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักของ ไมโล นมถั่วเหลือง อยู่ที่อายุ 6-12 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่ใช้พลังงานมาก ผู้ปกครองจำเป็นต้องเติมพลังให้กับเด็กตลอดเวลา
นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นในด้านการเป็นนมถั่วเหลืองผสมมอลต์ มีปริมาณน้ำตาล โซเดียม ที่หมาะสม เด็กที่แพ้คนวัวก็ดื่มได้ ซึ่งเนสท์เล่แข็งแกร่งในตลาดเด็กวัยนี้
“เรามั่นใจว่าตลาดนมถั่วเหลืองมีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว พ่อแม่มองหาเครื่องดื่มที่หลากหลาย มองหาทางเลือกใหม่ๆ ให้ลูก ทำให้เห็นโอกาสในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อให้ตรงกับทางเลือกลูกค้า”
ไชยงค์ กล่าวในตอนท้ายว่า ตลาดนี้มีการแข่งขันสูง เราต้องส่งสินค้าที่ดีให้ลูกค้ารับรู้และมีโอกาสทดลอง เรามั่นใจว่าลูกค้าจะชื่นชอบในคุณภาพ สำหรับส่วนแบ่งการตลาด เบื้องต้นเราอยากติดอันดับ 1 ใน 5 ของตลาดนมถั่วเหลือง ก่อนจะเข้าไปชิง 1 ใน 3 และในอนาคตจะมุ่งศึกษาวิจัยผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในโลกยุคใหม่ต่อไป
สำหรับไมโล นมถั่วเหลือง ขนาด 180 มิลลิลิตร วางจำหน่ายแล้วในราคากล่องละ 13 บาท
