บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็น กรุ๊ป จัดทัพใหญ่ ดึง “คิงมารีน ฟู้ดส์” และ “เซ็น แอนด์ โกสุม อินเตอร์ฟู้ดส์” เสริมทัพพอร์ทธุรกิจอาหารในเครือ เซ็น กรุ๊ป ให้มีขนาดใหญ่และแข็งแกร่งมากขึ้น พร้อมเปิดรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ร่วมทีมขยายธุรกิจให้เติบโตและแข็งแกร่งไปด้วยกัน ตั้งเป้าสิ้นปี 65 เซ็น กรุ๊ป ทำรายได้เพิ่มในส่วน Food Service กว่า 490 ล้านบาท
ยุพาพรรณ เอกสิทธิกุล กรรมการบริหารและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินและบัญชี บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “จากนี้ไปบริษัทฯ พร้อมทำตลาดเชิงรุก ด้วยการเดินหน้าขยายธุรกิจบริการอาหาร (Food Service) และธุรกิจค้าปลีก หลังดึง “คิงมารีน ฟู้ดส์” ซึ่งเป็นบริษัทฯ นำเข้าวัตถุดิบ ประเภทอาหารทะเล อาหารแปรรูป และ “เซ็น แอนด์ โกสุม อินเตอร์ฟู้ดส์” ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์จากปลาร้า เช่น น้ำปลาร้าและเครื่องปรุงรสต่างๆ เข้ามาเสริมทัพพอร์ทธุรกิจอาหารในเครือ เซ็น กรุ๊ป ให้มีขนาดใหญ่และแข็งแกร่งมากขึ้น ตั้งเป้าสิ้นปี 65 บริษัทฯ จะทำรายได้เพิ่มในส่วน Food Service กว่า 490 ล้านบาท”
–โรบินฮู้ด ดึงสตาร์บัคส์ขึ้นแพลตฟอร์ม เพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า
–ลาซาด้า ฉลองครบรอบ 10 ปี เปิดฟีเจอร์ Time Machine ให้นักช้อปย้อนเวลากลับไปถึงเหตุการณ์สำคัญที่มีร่วมกับลาซาด้า
ในการปิด 2 ดีลใหญ่ครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของ เซ็น กรุ๊ป ที่จะเติบโตได้เต็มศักยภาพ จากเดิมที่เน้นทำธุรกิจร้านอาหารและการบริหารแฟรนไชส์ สู่การต่อยอดมาธุรกิจบริการอาหาร (Food Service) ซึ่งจะช่วยเสริมทัพให้ เซ็น กรุ๊ป ขยายธุรกิจใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งต่อยอดธุรกิจที่มีอยู่ ควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานสินค้าในเครือให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
“สำหรับกลุ่ม Food Service เหล่านี้ ทาง เซ็น กรุ๊ป มีพื้นฐานการพิจารณาคัดเลือกจากธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีความใส่ใจในการพัฒนาธุรกิจและผลิตภัณฑ์ รวมทั้งบริหารงานอย่างโปร่งใส ทั้งคิงมารีน ฟู้ดส์ และ เซ็น แอนด์ โกสุม อินเตอร์ฟู้ดส์ มีคุณสมบัติครบถ้วน สอดรับกับความเชื่อของ เซ็น กรุ๊ป ที่มุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์ที่ดีในมื้ออาหาร รวมถึงการคัดสรรวัตถุดิบที่ดี เพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างเต็มที่”
“อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ทาง เซ็น กรุ๊ป จะเข้าถือหุ้นของ คิงมารีน ฟู้ดส์ 51% และ เซ็น แอนด์ โกสุม อินเตอร์ฟู้ดส์ 51% แต่เรายังให้สิทธิ์ผู้บริหารเดิม ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่และมีความเข้าใจในธุรกิจ ได้ดำเนินการบริหารต่อ และทาง เซ็น กรุ๊ป
จะคอยช่วยสนับสนุนให้ทั้ง 2 บริษัทฯ เติบโตขึ้นได้อย่างเต็มที่” ยุพาพรรณ กล่าวเพิ่มเติม
ด้าน ธีรทัศน์ บำเหน็จพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คิงมารีน ฟู้ดส์ จำกัด กล่าวว่า “การเข้ามาร่วมธุรกิจกับ เซ็น กรุ๊ป ในครั้งนี้ เพื่อมุ่งให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งในปีนี้ทางบริษัทฯ ก็ได้มีการพัฒนาแพลตฟอร์มขึ้นใหม่ ซึ่งจะสามารถเพิ่มความสะดวกในการสั่งสินค้า และเพิ่มความรวดเร็วในการจัดส่งสินค้าได้ภายในวันเดียวเพื่อให้ลูกค้าที่เรามีอยู่ในมือ ทั้งกลุ่มร้านอาหาร และกลุ่มรีเทล สามารถสานต่อธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทางบริษัทฯ และลูกค้าสามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น คาดว่าปี 65 บริษัทฯ จะมีรายได้รวมแตะ 240 ล้านบาท เติบโต 35% จากปี 64 ที่ทำยอดขายได้ 178 ล้านบาท กำไร 23 ล้านบาท หรือ 13%”
ขณะที่ วีรดาอร พึ่งโพธิ์เจริญพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซ็น แอนด์ โกสุม อินเตอร์ฟู้ดส์ จำกัด กล่าวว่า “การเข้ามาร่วมธุรกิจกับ เซ็น กรุ๊ป เพราะเป้าหมายของบริษัทฯ ที่ต้องการขยายธุรกิจให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น โดยได้มีการเพิ่มกำลังการผลิตสินค้า พร้อมรุกตลาดค้าปลีกด้วยการจับมือกับ Durbell บริษัทพันธมิตรที่เข้ามาช่วยกระจายสินค้าให้ครอบคลุมกว่า 30,000 ร้านค้าทั่วประเทศ เพื่อช่วยให้กลุ่มผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีการออกสินค้าใหม่ คือ น้ำปลาร้าสูตรพิเศษ ต่อยอดเป็นสินค้าส่งออกทั่วโลก และอาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุง (Ready-to-Cook) เช่น ผงแกงชนิดต่างๆ ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในปัจจุบันอีกด้วย”
“ธุรกิจน้ำปลาร้าของทางบริษัทฯ ผลิตจากโรงงานที่ได้มาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เจ้าแรกของวงการปลาร้า รวมถึงมาตรฐาน GMP และ HACCP เป็นรายแรก มีความสะอาด ปลอดภัย ซึ่งจากเดิมที่มียอดขาย 124 ล้านบาท กำไรสุทธิประมาณ 10% แต่ในปี 65 นี้ ทางบริษัทฯ ได้ตั้งเป้ายอดขาย 250 ล้านบาท เติบโตกว่า 100%” วีรดาอร กล่าวเพิ่มเติม
ศิรุวัฒน์ ชัชวาลย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจแบรนด์ไทย บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จุดแข็งของ 2 บริษัทฯ จะสามารถรองรับธุรกิจร้านอาหารในเครือ เซ็น กรุ๊ป ได้เป็นอย่างดี ช่วยทำให้ได้เปรียบเรื่องการบริหารจัดการต้นทุนให้ดียิ่งขึ้น พร้อมด้วยการใช้ฐานข้อมูลที่สำรวจความพึงพอใจของผู้บริโภคภายในร้านอาหารในเครือ (Big Data) นำมาต่อยอดเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ คิดค้นรูปแบบการให้บริการใหม่ และการนำเข้าวัตถุดิบใหม่ๆ ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคมากขึ้น อีกทั้งในอนาคตก็พร้อมเปิดกว้างรับและให้การสนับสนุนธุรกิจ เอสเอ็มอีไทย ที่มีศักยภาพ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในเครือ เซ็น กรุ๊ป ด้วยเช่นกัน”