Plern (เพลิน) เผยยอดดาวน์โหลดแอปฯ พุ่งกว่า 1,000,000 ครั้ง หลังเปิดตัวได้ 3 เดือน

Plern (เพลิน) เผยยอดดาวน์โหลดแอปฯ พุ่งกว่า 1,000,000 ครั้ง หลังเปิดตัวได้ 3 เดือน

Plern (เพลิน) แอปพลิเคชันฟังเพลง มียอดดาวน์โหลดแอปฯ มากกว่า 1,000,000 ครั้ง ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 3 เดือนนับจากเปิดตัว อย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ แอปฯ Plern ยังขึ้นอันดับ 1 ของแอปฯ ฟรียอดนิยมบน Play Store ตอกย้ำความเป็นที่สุด ของแอปฯฟังเพลง ที่เข้าใจและตอบโจทย์คอเพลงชาวไทยได้อย่างตรงจุด พร้อมทลายทุกข้อจำกัด และสร้างประสบการณ์ การฟังเพลงรูปแบบใหม่ ที่ดีกว่าเดิม

แอปพลิเคชัน Plern ได้ออกแบบมาอย่างมีเอกลักษณ์และโดดเด่น ด้วยฟีเจอร์ที่หลากหลาย ตอบโจทย์คนไทย ที่มีแนวการฟังเพลงที่แตกต่างที่ทำให้คนฟังเพลงสามารถโลดแล่นและเพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงในรูปแบบของตัวเองได้ทุกที่ทุกเวลา โดยหลังจากเปิดตัว แอปฯ Plern ได้รับความสนใจจากผู้ใช้ชาวไทยเป็นอย่างมาก เนื่องจากภายในระยะเวลาเพียงแค่ 3 เดือนนับตั้งแต่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แอปฯ Plern มีผู้ใช้งานดาวน์โหลดแอปฯ ไปแล้วกว่า 1,000,000 ครั้ง และมียอดสตรีมเพลงภายในแอปฯ ไปแล้วกว่า 600,000 ครั้ง ซึ่งเทียบเท่ากับการเดินเท้าฟังเพลงรอบโลกได้ถึง 72 รอบ นอกจากนี้ ยังพบว่าคนไทยใช้แอปฯ Plern ฟังเพลงไปแล้วกว่า 20 ล้านครั้ง (Feb 2022) ซึ่งปรากฎการณ์ดังกล่าว ส่งให้แอปฯ Plern ขึ้นแท่นอันดับ 1 ของแอปฯ ฟรียอดนิยมบน Play Store ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2565

LINE SHOPPING จับมือ ZORT ส่งโซลูชันเสริมร้านค้าออนไลน์ขยายกิจการรับ Social Commerce โต
‘จาลัน เบซาร์’ ย่านลับใจกลางเมืองสิงคโปร์ ที่จะพาทุกคนไปสัมผัสกลิ่นอายในยุค 1900s

แอปฯ Plern เป็นแอปที่ถูกพัฒนาขึ้นจากข้อมูลเชิงลึกในการวิจัยทางการตลาด (Market Research) และพฤติกรรมของผู้ใช้งานจริง (Usability Testing) ของคนไทย และได้ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การฟังเพลง ของคนไทยโดยเฉพาะ เพื่อมุ่งทลายปัญหาเดิมๆที่คนไทยมักพบเจอในการฟังเพลง ไม่ว่าจะเป็น การที่ผู้ฟังไม่สามารถ ล็อกหน้าจอ หรือสลับหน้าจอ เพื่อทำกิจกรรมอย่างอื่น ระหว่างฟังได้ ปัญหาจากการใช้งานอินเทอร์เน็ต วันละหลาย ๆ ชั่วโมง ที่สิ้นเปลือง และมักทำให้แบตเตอรี่โทรศัพท์หมดเร็ว รวมถึงปัญหาโฆษณาคั่นกลางเพลง หรือระหว่างเลื่อนเพลง ที่ทำให้ประสบการณ์ฟังเพลงต้องสะดุด หรือดีไซน์การใช้งานของแอปฯสตรีมมิงที่ใช้งานยาก และคอนเทนต์เพลง ที่ไม่ครอบคลุมในทุกความต้องการของคนไทยที่ไม่ใช่แค่คนเมือง

ซึ่งแอปฯ Plern ก็ได้นำปัญหา (Pain Points) เหล่านี้มาใช้ในการออกแบบและพัฒนาฟีเจอร์ภายในแอปฯ อาทิ ฟีเจอร์ล็อกหน้าจอ (Lockscreen Play) ที่ช่วยให้ ผู้ฟังสามารถล็อกหน้าจอขณะฟังเพลงได้ หรือฟีเจอร์กดข้ามและสุ่มเพลงได้อย่างไม่มีจำกัด (Unlimited Skip & Shuffle) ที่ผู้ใช้งานสามารถกดข้าม และกดสุ่มเพื่อเพลิดเพลินไปกับการฟังเพลงได้อย่างไม่มีจำกัด นอกจากนี้สำหรับผู้ใช้งาน ที่ต้องการประสบการณ์การฟังเพลงที่เหนือกว่าเดิม สามารถอัปเกรดเป็น Plern Premium ที่มาพร้อมคุณภาพเสียงระดับ Lossless quality ความละเอียดเทียบเท่าการฟังเพลงผ่านแผ่นซีดี ฟีเจอร์ฟังเพลงแบบออฟไลน์ (Offline Play) ดาวน์โหลดเก็บเพลงไว้ฟังในโหมดออฟไลน์ได้ไม่จำกัดจำนวนเพลง เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเพลิดเพลินไปกับเพลงได้ แม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต และหมดปัญหาโฆษณาคั่น ช่วยให้เพลิดเพลินระหว่างการฟังเพลงได้โดยไม่มีสะดุด โดยการอัปเกรด Plern Premium ยังสามารถทำได้ผ่านวิธีการชำระเงินที่ง่าย หลากหลาย ตามความต้องการของผู้ใช้งาน โดยสามารถ เลือกจ่ายได้ตั้งแต่ รายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 5 บาทต่อวัน

นอกจากการทำข้อมูลเชิงลึกในการวิจัยทางการตลาด (Market Research) เพื่อพัฒนาแอปฯ ให้ตอบโจทย์ การใช้งานของคนไทยแล้ว ด้านการออกแบบโลโก้ของแอปฯ Plern นั้น ได้ดึงบริษัทออกแบบชั้นนำของคนไทยอย่าง Farm Group มาช่วยในการออกแบบ โดยโลโก้ของ Plern นั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากคลื่นที่เกิดจากการสั่นสะเทือน ของวัตถุอัดตัวและขยายตัว จนเกิดกลายเป็นคลื่นเสียงวิ่งเป็นเส้นสาย ส่งผ่านตัวกลางไปยังโสตประสาทของผู้คน ในส่วนของสีสันที่แตกต่างกันในโลโก้นั้น บ่งบอกถึงอารมณ์และแนวเพลงที่หลากหลายภายในแอปฯ และเมื่อนำทั้งสององค์ประกอบมารวมกันจึงทำให้เกิดแอปฯ ฟังเพลงอย่างแอปพลิเคชัน Plern ขึ้นมา

นอกจากนี้แอปฯ Plern ยังได้ร่วมมือกับค่ายเพลงระดับแนวหน้าของประเทศไทย เช่น บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน), บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน), เซิ้ง มิวสิก, Top Line Music, Sure Entertainment, เสียงสยาม แผ่นเสียง-เทป, ซาวด์มีแฮง เรคคอร์ด, BigLove Smile House, Solution One อาทิ Jaymidi, Khotkool Music, Khaosan Group, Mindset Mob, ได้หมดถ้าสดชื่น, พอดีม่วน Studio, บังเอิญ มิวสิค, MAN’R และ Believe International อาทิ YUPP, YoungOhm, Urboy TJ, ไหทองคำเรคคอร์ด, Sing Music, กีตาร์เรคคอร์ด รวมถึงค่ายอื่น ๆ อีกมากมายในอนาคต เพื่อนำเสนอคอนเทนต์เพลงที่หลากหลาย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การฟังเพลงที่หลากหลายของคนไทย และได้ดึงพันธมิตรระดับแนวหน้าของโลกอย่าง บริษัท Tuned Global เข้ามาช่วยพัฒนาแอปฯ เพื่อมอบประสบการณ์การฟังเพลงเทียบเท่ากับแอปพลิเคชันระดับโลก ให้แก่คนไทยทุกคน

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แอปฯ Plern ยังได้จับมือร่วมกับ 4 ศิลปินนักวาดภาพรุ่นใหม่อย่าง Oreojimnom, NZYME, Sahred Toy และ Stupidnoobmacc สำหรับแคมเปญไทยเพลิน แคมเปญล่าสุดภายใต้แนวคิด “วิถีความเพลินแบบคนไทย” เพื่อตอกย้ำมิติใหม่แห่งการฟังเพลงด้วยการนำเสนอนิทรรศการศิลปะผ่านสตรีทอาร์ตลอยฟ้า (Plern Sky Art) บนขบวนรถไฟ BTS ขบวนเพลินที่สะท้อนถึงชีวิต และพฤติกรรมการฟังเพลงของคนไทย ตั้งแต่ช่วงเช้าจรดค่ำ

โดยภายในแคมเปญ ของไทยเพลินมีศิลปินรวมทั้งหมด 60 ศิลปินจากหลากหลายค่ายเพลง ได้แก่ Tilly Birds, Three Man Down, สิงโต นำโชค, ป๊อบ ปองกูล, กระแต อาร์สยาม, เบิร์ด ธงไชยและ เป๊ก ผลิตโชค เป็นต้น ที่จะมาร่วมสร้างสีสันความเพลิดเพลิน ให้แก่ชาวไทยที่มีสไตล์การฟังเพลงหลากหลายแนว นอกจากนี้ แคมเปญดังกล่าวยังช่วยส่งเสริมให้แอปฯ Plern มียอดผู้ ดาวน์โหลดเกิน 1 ล้านคนภายในระยะเวลาเพียง 3 เดือน รวมถึงแคมเปญนี้ยังคงดำเนินการไปจนถึงสิ้นเดือนมีนาคมปี 2565

อัศวิน โรจน์เมธาทวี รองกรรมการผู้อำนวยการ หน่วยงาน GMM Stream กล่าวว่า “จากปรากฎการณ์ในครั้งนี้ ทำให้เราเห็นว่าเราสามารถทลายข้อจำกัดในการฟังเพลง เข้าถึงความสุขของคนไทยอย่างชัดเจน และสามารถ มอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการฟังเพลงให้แก่ผู้ใช้ได้ โดยข้อมูลเชิงลึกในการวิจัยทางการตลาดได้บ่งบอกว่า ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ ปี 2565 มีผู้ใช้งานแอปฯ Plern ถึง 1.1 ล้านคน และมีอัตราการเติบโตสูงถึง 520% จากปี 2564

โดยแคมเปญไทยเพลินถือว่าประสบความสำเร็จและเป็นความสำเร็จแรกที่ช่วยให้ Plern สามารถเข้าถึงนักฟังเพลงชาวไทย ได้ดียิ่งขึ้น และนับเป็นก้าวสำคัญที่จะมาแอปฯ Plern มุ่งหน้าสู่การมีผู้ใช้งาน 5 ล้านยูสเซอร์ต่อเดือนภายในปีนี้ นอกจากนี้ ทางแอปฯ ยังมีแผนออกแคมเปญใหม่ ๆ ร่วมกับเหล่าศิลปินชื่อดังของเมืองไทยเพื่อเอาใจเหล่าแฟนเพลงอย่างต่อเนื่อง และถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากแคมเปญที่ผ่านมาอีกด้วย”

อัศวิน กล่าวเสริมว่า “เบื้องหลังความสำเร็จของแอปฯ Plern ในคราวนี้ ต้องขอบคุณทีมงานคนรุ่นใหม่จากหลายๆ สายงานที่มาร่วมกันออกแบบพัฒนาตัวแอปฯให้เกิดขึ้นจริง และออกแบบให้ตัวแอปฯ สามารถใช้งานได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ รวมถึงช่วยกันวางแผนออกแคมเปญใหม่ ๆ ที่ตอบรับความต้องการของคนไทยได้เป็นอย่างดี”

Scroll to Top