ปัจจุบันคนเริ่มมองการออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญมากขึ้น เป็นกระแสมากขึ้น เพราะการออกกำลังกายช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และยังช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
คนที่เคยออกกำลังกายที่ฟิตเนสเป็นประจำ เมื่อเกิดวิกฤติโควิด-19 ฟิตเนสต้องปิดสาขาชั่วคราว ส่งผลให้เกิดความยากลำบากในการออกกำลังกาย และเมื่อกลับเปิดสาขาได้ ก็มีคนกลุ่มหนึ่งรีบกลับเข้ามาใช้บริการเหมือนเดิม เพราะต้องการทำให้ร่างกายตัวเองแข็งแรง
สำหรับ เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ (Virgin Active) หลังจากกลับมาเปิดสาขาได้ปกติ ได้มีการวางมาตรการดูแลความสะอาด ความปลอดภัย เพื่อดึงลูกค้าเดิมกลับมาใช้บริการ รวมถึงจัดกิจกรรม เพิ่มคลาสใหม่ๆ เข้ามาในแต่ละสาขา ให้เกิดความแตกต่างจากคู่แข่งในธุรกิจ
ซึ่งที่ เซ็นทรัล เวสต์เกต หนี่งในสาขาของ เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ ปัจจุบันมีลูกค้าใช้บริการอยู่เพียง 1,500 คน ลดไปจากก่อนเกิดโควิด-19 พอสมควร ปัจจัยหนึ่งมาจากความมั่นใจเรื่องความปลอดภัย แต่อีกปัจจัยมาจากผลกระทบด้านรายได้ ที่ต้องสำรองเงินไว้ใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นก่อน
“การเปิดคลาสใหม่นั้นเพื่อจะบริการสมาชิกในปัจจุบัน ยังมีลูกค้าที่ไม่ได้กลับมาเล่น เพราะไม่มั่นใจเรื่องความปลอดภัย รวมถึงยังกังวลเรื่องสุขภาพของตัวเอง ซึ่งเราต้องพยายามออกมาตรการเพื่อจะสร้างความมั่นใจให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการ” ดร.วุธรวี จารุวัฒนะ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย บริษัท เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ กล่าว
ล่าสุด เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ ได้นำ “พิลาทีส รีฟอร์เมอร์” คลาสยอดนิยมที่เปิดมาแล้วใน 6 สาขา มีคนจองเล่นเต็มตลอด มาทดลองเปิดสอนในสาขาที่อยู่นอกเมืองอย่าง เซ็นทรัล เวสต์เกต และ เชียงใหม่ ซึ่งได้ผลตอบรับดี คนแน่นทุกคลาส ทำให้ปัจจุบันทั้ง 8 สาขาของ เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ มีสอน พิลาทีส รีฟอร์เมอร์ ครบทุกสาขาแล้ว
“เครื่องที่เรานำมาใช้มีราคา 1-2 แสนบาท ต่อเครื่อง สำหรับสาขาเซ็นทรัล เวสต์เกต มี 25 เครื่อง มีคนสอนทั้งหมดเกือบ 20 คน โดยแต่ละคลาสจะใช้ครูสอน 1 คน ซึ่งเราไม่ได้คิดค่าบริการเพิ่ม ลูกค้าสามารถเข้ามาใช้บริการกี่ครั้งก็ได้”
สร้างความแตกต่างทั้งออฟไลน์-ออนไลน์
ดร.วุธรวี กล่าวว่า จุดเด่นของ เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ คือการมีสถานที่ที่กว้างมาก สาขา เซ็นทรัล เวสต์เกต ที่ถือว่าเป็นสาขาเล็ก ยังมีพื้นที่ถึง 1,600 ตารางเมตร ขณะที่สยามดิสคัฟเวอรี่ มีพื้นที่ประมาณ 4,000 ตารางเมตร และที่ 101 (วันโอวัน) มีพื้นที่ถึง 8,000 ตารางเมตร
สำหรับเรื่องเทคโนโลยี ในสาขา 101 นั้นมีเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนเป็น สนามฟุตบอล สนามบาส หรือสนามแบดมินตัน ด้วยการกดปุ่มเดียว เส้นไฟในสนามก็จะเปลี่ยนไปตามที่ต้องการ ทำให้ใช้พื้นที่ได้หลากหลาย และยังทำให้การออกกำลังกายสนุกมากขึ้น มีความน่าสนใจมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีห้องนอนที่เรียกว่า Sleep Pod ที่สมาชิกสามารถเข้ามาชาร์จพลังผ่านการนอนหลับได้ และยังมีผาจำลองให้ปีนอีกด้วย
ด้านการพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ ดร.วุธรวี กล่าวว่า เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ ดำเนินการมาหลายปีแล้ว เพียงแต่ว่าวิกฤตโควิด-19 ทำให้แพลตฟอร์มออนไลน์มันโตเร็วขึ้น
“ปัจจุบันเราใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า Phygital เป็นการรวมคำระหว่าง Physical กับ Digital ซึ่งเป็นการผสานการออกกำลังกายในคลับ และ แพลตฟอร์มออนไลน์ ที่เราให้บริการ ไม่ว่าจะเป็น เทรนเนอร์ออนไลน์ หรือ คลาสออนไลน์ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมมากมายเพื่อจะเข้าถึงลูกค้าที่อยู่ที่บ้าน”
ดร.วุธรวี กล่าวต่อว่า เพราะการอยู่ที่บ้านนั้นมีปัจจัยหลายอย่างที่จะทำให้คนไม่ออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นขนมในตู้เย็น เตียงนอน หรือ แอปฯ ดูหนังต่างๆ เพราะฉะนั้นเราจึงพยายามนำการออกกำลังกายไปถึงที่บ้านได้ง่ายขึ้นผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล รวมถึงการส่งอุปกรณ์ออกกำลังกายไปถึงที่บ้าน
“เราพยายามทำให้ดีที่สุดในสิ่งที่เราถนัด”
ยังไม่เปิดสาขาเพิ่ม
ปัจจุบัน เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ มีทั้งหมด 8 สาขาในประเทศไทย และยังไม่มีแผนการเปิดสาขาเพิ่ม
“เรายังต้องพยายามดึงให้คนกลับมาใช้บริการเหมือนเดิมก่อน มีสมาชิกที่ยังขอหยุดการเป็นสมาชิกชั่วคราว เพราะไม่มั่นใจในมาตรการ เราอยากให้ลูกค้าเดิมมั่นใจในระบบการรักษาความปลอดภัยของเรา”
ในช่วงที่ปิดสาขาบริษัทมีการอบรมพนักงานเพิ่มเติมในทุกสัปดาห์เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับกับเหตุการณ์ต่างๆ มีนโยบายรองรับกรณีเจอคนติดโควิด-19 ในพื้นที่ เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับการทำงานของพนักงานรวมถึงสร้างความมั่นใจให้กับคนที่เข้ามาใช้บริการ
“ซึ่งการที่เรามีพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ ทำให้เราสามารถเว้นระยะห่างทางสังคมได้มากกว่าที่รัฐบาลกำหนด”
ดร.วุธรวี กล่าวต่อว่า หลังจากลูกค้ากลับมาเหมือนเดิมแล้วบริษัทจึงจะคิดเรื่องการเปิดสาขาเพิ่ม ซึ่งก็ได้มีการเจรจากับเจ้าของพื้นที่คู่ขนานไปด้วยแต่ยังไม่ได้ปิดดีลกับที่ใด
เตรียมนำคลาส Signature “Grid” เข้าไทย
ถึงแม้ว่าจะไม่มีแผนการเปิดสาขาเพิ่ม แต่เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ ก็มีแผนจะปรับปรุงคลาสต่างๆ เพราะจากสถิติสมาชิกที่อยู่นานที่สุด คือ สมาชิกที่เข้าร่วมคลาส และจ้างเทรนเนอร์ส่วนตัว
ในอนาคตจะมีคลาส Grid ที่เป็น Signature ของ เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ ทั่วโลก เข้ามาในประเทศไทย ซึ่ง Grid เป็นการออกกำลังกายที่แต่ละคนจะอยู่ตามฐาน ออกกำลังกายพร้อมกันฐานละ 3-4 นาที และเปลี่ยนฐานพร้อมกัน
“เราจะลงทุนมากขึ้นที่จะนำอุปกรณ์ต่างๆ เข้ามาในคลาส Grid รวมทั้งการปรับปรุงส่วนต่างๆ ให้ดีขึ้น”
ดร.วุธรวี กล่าวในตอนท้ายว่า สำหรับเรื่องการขยายเวลาการให้บริการเป็น 24 ชั่วโมงนั้น บริษัทยังไม่มีนโยบาย เพราะสาขาส่วนมากอยู่ตามห้าง นอกจากนี้บริษัทยังมีความกังวลต่อการให้บริการของพนักงานกับการดูแลสมาชิก ซึ่งการเพิ่มเวลาเปิดเป็น 24 ชั่วโมง บริษัทจะต้องอบรมพนักงานใหม่หมด เพื่อให้เกิดความมั่นใจจากทุกฝ่าย