ออราเคิล เปิดตัว Java 19 เวอร์ชั่นใหม่ มาพร้อมการพัฒนา JDK Enhancement Proposals 7 รายการ

ออราเคิลเปิดตัว Java 19 เวอร์ชั่นใหม่ มาพร้อมการพัฒนา JDK Enhancement Proposals 7 รายการ

ออราเคิล ประกาศเปิดตัว Java 19 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดของภาษาการเขียนโปรแกรมและแพลตฟอร์มเพื่อการพัฒนาอันดับ 1 ของโลก โดย Java 19 (หรือ Oracle JDK 19) มอบการยกระดับประสิทธิภาพ ความเสถียร และความปลอดภัยนับรูปแบบ รวมถึงการปรับปรุงคุณภาพแพลตฟอร์ม เพื่อช่วยให้นักพัฒนาสามารถเพิ่มขีดความสามารถและขับเคลื่อนนวัตกรรมของธุรกิจได้อย่างครอบคลุม โดยออราเคิลกำหนดจัดการสาธิตฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดของ Java 19 ในงาน JavaOne 2022 ตั้งแต่วันที่ 17-20 ตุลาคม 2565 ณ เมืองลาสเวกัส โดยมีการถ่ายทอดผ่านทาง dev.java/ เวลา 9.00 น. โซนเวลาแปซิฟิก (PT) ในวันอังคารที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา

ทวีศักดิ์ แสงทอง กรรมการผู้จัดการ ออราเคิล คอร์ปอเรชั่น ประเทศไทย กล่าวว่า “การร่วมมือกับชุมชนนักพัฒนาอย่างต่อเนื่องถือเป็นสิ่งจำเป็นที่หล่อเลี้ยงการเติบโตของ Java และในฐานะผู้ดูแล Java ออราเคิลจึงมุ่งมั่นนำเสนอเครื่องมือใหม่ล่าสุดแก่นักพัฒนาและวิสาหกิจอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมแอปพลิเคชันและบริการใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เรามั่นใจว่าฟีเจอร์และการอัปเกรดประสิทธิภาพใน Java 19 จะสามารถสนับสนุนการทำงานของโปรแกรมเมอร์และนักพัฒนาแอปทั่วโลก ให้สามารถสร้างสรรค์และยกระดับแพลตฟอร์มการทำงานขององค์กรได้อย่างดีเยี่ยม”

ชุดเครื่องมือ Java Development Kit (JDK) รุ่นใหม่ล่าสุดมอบการอัปเดตและการปรับปรุงประสิทธิภาพด้วย การพัฒนา JDK Enhancement Proposals (JEPs) ถึง 7 รายการ ซึ่งการอัปเดตส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบฟีเจอร์การแสดงตัวอย่างเพื่อติดตามผล (Review) ซึ่งช่วยปรับปรุงฟังก์ชันการทำงานของรุ่นก่อนหน้านี้

JDK 19 มอบการปรับปรุงภาษาด้วย OpenJDK project Amber (ทั้งระบบ Record Patterns และ Pattern Matching for Switch) กล่าวคือเป็นการปรับปรุงในส่วน Library เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับโค้ดที่ไม่ใช่ภาษา Java ได้ (Foreign Function และ Memory API) และเพื่อใช้ประโยชน์ของคำสั่งเวกเตอร์ หรือ Vector Instructions (Vector API) จาก OpenJDK project Panama และการแสดงตัวอย่างแรกสำหรับ Project Loom (Virtual Threads และ Structured Concurrency) ซึ่งจะช่วยลดภาระงานได้อย่างมหาศาลในการเขียนและรักษาระดับการทำงานร่วมกันของแอปพลิเคชันที่ใช้ Java เพื่อสร้างปริมาณงานขั้นสูง

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค แนะแนวทางปฏิบัติในการปรับปรุงดาต้าเซ็นเตอร์ให้ทันสมัย

“นักพัฒนา Java กำลังแสวงหาเครื่องมือที่ช่วยในการสร้างแอปพลิเคชันที่มีประสิทธิภาพ เพื่อการพัฒนาสภาพแวดล้อมการทำงานทั้งในคลาวด์ สถานที่ทำงาน และแบบไฮบริด” อาร์นัล ดายารัตนา รองประธานกรรมการฝ่ายวิจัย แผนกซอฟต์แวร์ IDC กล่าว “การยกระดับประสิทธิภาพใน Java 19 ได้มอบสิ่งที่ทุกคนต้องการ และยังแสดงให้เห็นว่าอีโคซิสเต็มของ Java สามารถตอบโจทย์การทำงานทั้งในวันนี้และอนาคตเพื่อการพัฒนาระบบงานและวิสาหกิจได้อย่างเหมาะสมมากที่สุด”

ออราเคิลนำเสนอฟีเจอร์ใหม่ของ Java ทุก ๆ 6 เดือน โดยมีตารางการเปิดตัวค่อนข้างแน่นอน ระยะเวลาดังกล่าวถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อการพัฒนานวัตกรรมใหม่ไปพร้อม ๆ กับการยกระดับแพลตฟอร์มที่ต่อเนื่อง ทั้งในแง่ประสิทธิภาพ ความเสถียร และความปลอดภัย เพื่อส่งเสริมการใช้ Java ให้แพร่หลายในกลุ่มองค์กรและอุตสาหกรรมทุกขนาด

การอัปเดตประสิทธิภาพที่สำคัญใน Java 19 ได้แก่

การอัปเดตและการยกระดับภาษา

  • JEP 405: Record Patterns (Preview): ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดรูปแบบการบันทึกและรูปแบบประเภทงาน เพื่อสร้างวิธีการระบุและการประมวลผลข้อมูลอันทรงพลัง ชัดเจน และสามารถทำงานร่วมกันได้ ทั้งยังขยายความสามารถด้านการจับคู่รูปแบบที่เอื้อต่อรายการข้อมูลที่ซับซ้อนและการทำงานร่วมกัน
  • JEP 427: Pattern Matching for Switch (Third Preview): สนับสนุนการจับคู่รูปแบบสำหรับ Switch Expression และ Switch Statement โดยยอมให้มีการทดสอบตามจำนวนรูปแบบ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแสดงรายการข้อมูลที่ซับซ้อนได้อย่างกระชับและปลอดภัย

เครื่องมือ Library

  • JEP 424: Foreign Function and Memory API (Preview): ช่วยให้โปรแกรม Java สามารถทำงานกับโค้ดและข้อมูลนอกกรอบการทำงาน Java ได้ง่ายขึ้น และด้วยการอ้างอิงฟังก์ชั่นภายนอก (เช่นโค้ดนอก Java Virtual Machine [JVM]) การเข้าถึงหน่วยความจำภายนอก (เช่นหน่วยความจำที่ไม่ได้บริหารจัดการโดย JVM) ทำให้ API นี้เอื้อให้โปรแกรม Java สามารถเรียกใช้งาน Library ในระบบและประมวลผลข้อมูลในระบบได้ด้วยการใช้เพียงโมเดลหารพัฒนา Java เท่านั้น ส่งผลให้ทำงานง่าย มีประสิทธิภาพ ยืดหยุ่น และปลอดภั
  • JEP 426: Vector API (Fourth Incubator): มอบประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดเมื่อเปรียบเทียบกับการคำนวณแบบสเกลาร์ในระดับเดียวกัน โดยแสดงการคำนวณเวกเตอร์รวมกันที่รันไทม์ไปยังคำสั่งเวกเตอร์บนสถาปัตยกรรมซีพียูที่รองรับ

พอร์ตเชื่อมต่อ

  • JEP 422: Linux/RISC-V Port: สร้างมาตรฐานการใช้งาน Linux/RISC-V ที่ง่ายดายด้วยการผสานพอร์ตเข้ากับคลังข้อมูลเมนไลน์ของ JDK

ฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ Project Loom Preview/Incubator

  • JEP 425: Virtual Threads (Preview): ลดภาระการเขียน การดูแล และการสังเกตการณ์แอปพลิเคชันที่ทำงานร่วมกันได้อย่างมาก ด้วยการใช้ Virtual threads ในแพลตฟอร์ม Java ซึ่งจะช่วยให้นักพัฒนาสามารถแก้ไขปัญหา ทำการ Debug และวางรูปแบบโปรไฟล์แอปพลิเคชันด้วยเครื่องมือและเทคนิค JDK ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
  • JEP 428: Structured Concurrency (Incubator): ปรับรูปแบบการแก้ปัญหาและการยกเลิกให้สอดคล้องกัน เพิ่มความน่าเชื่อถือ และยกระดับการตรวจสอบ ผ่านการปรับค่าโปรแกรมแบบมัลติเทรดและการรับมือภาระงานแบบ Multiple Tasks ในเทรดที่แตกต่างกันให้มีความเรียบง่ายในรูปแบบยูนิตงานเชิงเดี่ยว

การขับเคลื่อนนวัตกรรม Java ในระบบคลาวด์

Java 19 คือผลลัพธ์ของความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่างทีมวิศวกรออราเคิลกับสมาชิกชุมชน Java ทั่วโลก ผ่านทาง OpenJDK Project และ Java Community Process (JCP) ซึ่งนอกจากการปรับปรุงประสิทธิภาพครั้งใหม่ Java 19 ยังสนับสนุนการทำงานโดย Java Management Service ซึ่งเป็นบริการพื้นฐานของ Oracle Cloud Infrastructure (OCI) ที่มอบเครื่องมือการบริหารข้อมูลแบบบูรณาการ ช่วยให้องค์กรสามารถบริหารการใช้งานและแอปพลิเคชัน Java ทั้งการใช้งานภายในระบบบริษัทและผ่านคลาวด์

การสนับสนุนสำหรับลูกค้าที่ใช้ Java

Oracle Java SE Subscription คือบริการแบบจะใช้เท่าไหร่-จ่ายเท่านั้น เพื่อมอบการสนับสนุนที่ดีที่สุดในคลาส การมีสิทธิ์ใน GraalVM Enterprise การเข้าถึงบริการ Java Management Service และความยืดหยุ่นในการอัปเกรดในระหว่างการทำธุรกิจให้แก่ลูกค้า ช่วยให้องค์กรด้านไอทีสามารถบริหารความซับซ้อน จำกัดต้นทุน และลดความเสี่ยง นอกจากนี้ ลูกค้าที่ใช้ Java SE และ GraalVM Enterprise ยังไม่ต้องเสียค่าบริการ OCI ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างและใช้งานแอปพลิเคชันที่ทำงานบนระบบคลาวด์ของออราเคิลได้เร็วขึ้น ประสิทธิภาพสูงขึ้น และมีประสิทธิภาพต่อต้นทุนเหนือกว่าคู่แข่ง”

ออราเคิลมีความภาคภูมิใจที่มีผู้ได้ใบรับรอง Java Certificate โดยสมบูรณ์แล้วกว่า 1 ล้านราย ซึ่งตอกย้ำถึงความนิยมของชุมชนนักพัฒนาทั่วโลกที่มีต่อ Java ใบรับรองนี้ช่วยให้นักพัฒนาเป็นบุคลากรที่มีความโดดเด่นในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้าน Java และเพิ่มคุณสมบัติที่น่าสนใจ ซึ่งช่วยดึงดูดวิสาหกิจที่กำลังแสวงหาผู้ปฏิบัติงาน Java ขั้นสูงและเพิ่มโอกาสการทำงานได้มากขึ้น

Scroll to Top