บริษัท 88 แคนนาเทค จำกัด เดินหน้ายกระดับโมเดลธุรกิจ “เราปลูกสุขภาพ” ที่เป็นมากกว่า ‘การปลูก-สกัด-แปรรูป’ ปูพรมดันผลิตภัณฑ์ที่ผสมสารสกัด CBD จากช่อดอกกัญชง ภายใต้แบรนด์ CannBE และคลินิก CannaHealth คลินิกการแพทย์ที่ใช้กัญชงและกัญชา ร่วมกับการรักษาของแพทย์แผนไทยประยุกต์แห่งแรกที่ครบวงจร ทั้งด้านสุขภาพและความงาม ตอบโจทย์ผู้บริโภคด้วยสมุนไพรทางเลือก เตรียมรองรับตลาด Wellness และกลุ่มลูกค้าคนไทย-ต่างชาติ เดินหน้าขยายการลงทุนพร้อมตั้งเป้าทำรายได้ 1,000 ล้านบาทในปี 2566
พรประสิทธิ์ สีบุญเรือง กรรมการผู้จัดการ บริษัท 88 แคนนาเทค จำกัด เปิดเผยว่า “หลังจากที่ประเทศไทยปลดล็อกเรื่องกัญชา กัญชงให้พ้นจากยาเสพติดให้โทษ ทำให้เรามองเห็น โอกาส ในเรื่องการลงทุนทางสุขภาพในระยะยาว โดยธุรกิจกัญชา กัญชง เป็นเทรนด์ต่างประเทศที่มีการใช้กัญชาทางการแพทย์และกัญชงเชิงพาณิชย์มานาน เราเล็งเห็นโอกาสจึงได้รุกเข้าสู่ธุรกิจนี้ และจดทะเบียนตั้งบริษัทตั้งแต่ปี 2562 ภายใต้แนวคิด เราปลูกสุขภาพ”
“สำหรับ 88 แคนนาเทค เราได้ทำการวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมกัญชงเป็นรายแรกๆ ในประเทศไทย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากบริษัทพันธมิตรระดับโลกจากหลากหลายประเทศ จนก่อเกิดเป็นโมเดลธุรกิจที่ครบวงจรตั้งแต่ การปลูก-สกัด-แปรรูป โดยในส่วนของต้นน้ำ เรามีพันธมิตร คือ บริษัทไฟลอส ไบโอซาย ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเมล็ดพันธุ์กัญชา กัญชง ใหญ่เป็นอันดับ 1 ใน 5 ของอเมริกา โดยทางบริษัทนำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชงสำหรับปี 2565 ประมาณ 1 แสนเมล็ด เพื่อปลูกในพื้นที่โรงเรือน (Green House) ของบริษัท ซึ่งตั้งอยู่ที่ จ.เชียงราย จำนวน 2 หมื่นเมล็ด และที่เหลือก็ส่งให้กับทาง Contract Framing ของเราอีกหลายแห่ง เช่น MDX Green Energy สุพรรณ กรีนเทค และโชคอนันต์ ฟาร์ม เป็นต้น โดยการปลูกของ Contract Farming เราต้องปลูกในโรงเรือน และต้องได้รับมาตรฐาน GAP ของกรมวิชาการเกษตร เท่านั้น สำหรับฟาร์มที่เชียงราย เราได้เก็บผลผลิตชุดแรกไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา”
“มาสู่เรื่องกลางน้ำหรือการสกัด เดิมทีเราตั้งใจทำโรงสกัดในฐานะภาคเอกชนเต็มตัว แต่หลังจากร่วมงานกับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ซึ่งมีโรงสกัดกัญชาเพื่อนำไปทำยา เมตตาโอสถ ซึ่งต้องใช้วัตถุดิบจากกัญชา และขณะเดียวกันก็มีภารกิจในการทำยา การุณโอสถ โดยใช้ผลผลิตของกัญชง คือ สาร CBD เราจึงตัดสินใจทำโรงสกัดร่วมกัน โดยบริษัทสนับสนุนในเรื่องของเครื่องจักรทั้งหมด และทำงานร่วมกันในลักษณะของโรงสกัดกลาง ซึ่งกรมแพทย์แผนไทยและ 88 แคนนาเทค สามารถนำกัญชงมาสกัดที่นี่ ในขณะเดียวกันเกษตรกรก็สามารถที่จะนำกัญชงเข้ามาจ้างเราสกัดได้”
–เสรีที่ไม่ใช่ใครก็ทำได้! เปิด 5 สมการ (ไม่) ลับฉบับ ไทยลีฟ กับสูตรแปลงร่าง กัญชง ที่ต้องดีพร้อม
ในส่วนของปลายน้ำ เนื่องจากสารสกัดในกัญชงนั้นมีสารที่เรียกว่า Cannabidiol หรือ CBD เป็นสารสำคัญ ซึ่งไม่มีฤทธิ์กระตุ้นประสาท มีคุณสมบัติทางยาที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ลดความวิตกกังวล เพิ่มความอยากอาหาร ช่วยให้นอนหลับสบาย และลดการอักเสบ มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยลดเลือนริ้วรอย เป็นต้น
จากคุณสมบัติดังกล่าว จึงนำมาเป็นสารสกัดในผลิตภัณฑ์ พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า เป็นกลุ่มแรก ภายใต้แบรนด์ CannBE ซึ่งในช่วงแรกจะออกวางตลาด 3 ชนิด ประกอบด้วย
-CBD anti acne serum ขนาด 30 มล. ในราคา 1,390 บาท
-CBD anti acne cream ขนาด 10 กรัม ในราคา 490 บาท
โฟกัสที่กลุ่มวัยรุ่น คนหนุ่มสาว ที่มีปัญหาเรื่องการดูแลผิวหน้าและมีความกังวลเรื่องสิว
-CBD anti aging serum ขนาด 30 มล. ในราคา 1,490 บาท
กลุ่มเป้าหมาย คือผู้ที่ต้องการดูแลผิวหน้าเพื่อป้องกันและลดเลือนริ้วรอยที่มาก่อนวัย
นอกจากนี้ เราได้ต่อยอดสู่เรื่องของ Wellness โดยพร้อมเปิดตัวคลินิก CannaHealth คลินิกการแพทย์และการดูแลสุขภาพองค์รวมที่ใช้กัญชงและกัญชาร่วมกับการรักษาของแพทย์แผนไทยประยุกต์แห่งแรกที่ครบวงจร ซึ่งคลินิก CannaHealth สามารถจ่ายยากัญชาและกัญชง จากองค์การเภสัชกรรม และกรมแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกได้ ตอบโจทย์ผู้บริโภคด้วยสมุนไพรทางเลือก
“สำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า ภายใต้แบรนด์ CannBE เราวางแผนการจำหน่าย โดยเน้นปูพรมทางออนไลน์ของ CannBE เอง ไม่ว่าจะเป็น Facebook, IG, Line หรือ TikTok และผ่านตัวแทนจำหน่าย โดยได้มีการประสานความร่วมมือกับแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Deelife ของ Happy Shopping เป็นต้น และอีกหลายพันธมิตรที่เป็นทั้งร้านค้าออนไลน์ และออฟไลน์ พร้อมทั้งกำลังเจรจากับช่องทางจำหน่ายระดับต้นๆ ทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ นอกจากนี้ เรายังตั้งเป้าขยายจุดจำหน่ายผ่านระบบตัวแทน โดยสามารถติดตามและสมัครเป็นตัวแทนได้ที่ Facebook: CannBE และ Line: @cannbe
“ทาง 88 แคนนาเทค วางแผนการตลาดไว้สำหรับในประเทศในสัดส่วน 40% และตลาดส่งออกในสัดส่วน 60% ทั้งในรูปของวัตถุดิบ น้ำมัน CBD Oil จากช่อดอกกัญชง และผลิตภัณฑ์ทั้งเครื่องสำอาง สมุนไพร อาหารเสริม ซึ่งตอนนี้ได้รับการติดต่อซื้อจากลูกค้าใน 7 -8 ประเทศ เช่น นิวซีแลนด์ อังกฤษ เยอรมัน เวียดนาม มาเลเซีย ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และตุรกี เป็นต้น ทั้งนี้ บริษัทเริ่มรับรู้รายได้จากช่อดอกกัญชง และการขายเมล็ดพันธุ์บางส่วนให้กับ Contract Farming รวมทั้งบริษัทกำลังมีการระดมทุนเพื่อขยายเฟส 2 ผ่านบริษัท สินวัฒนา คราวด์ฟันดิง จำกัด ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยประมาณการว่าภายใน ปี 2566 บริษัทจะมีรายได้ 1,000ล้านบาท จากผลิตภัณฑ์กว่า 1.2 ล้านยูนิต ที่จะทยอยออกสู่ตลาดในไตรมาส 4 นี้” พรประสิทธิ์ กล่าวปิดท้าย