ไทยยูเนี่ยน เข้าลงทุนใน เจลลาเจน สตาร์ทอัพเทคโนโลยีชีวภาพการแพทย์ด้านคอลลาเจน 

ไทยยูเนี่ยน เข้าลงทุนในเจลลาเจน สตาร์ทอัพเทคโนโลยีชีวภาพการแพทย์ด้านคอลลาเจน 

ไทยยูเนี่ยน ประกาศเข้าร่วมกับผู้ร่วมลงทุนเชิงกลยุทธ์กับบริษัท เจลลาเจน สตาร์ทอัพของประเทศอังกฤษ ในรอบการระดมทุนซีรีย์เอที่ทางเจลลาเจนได้ระดมเงินทั้งสิ้น 8.7 ล้านปอนด์ การลงทุนของไทยยูเนี่ยนในครั้งนี้เป็นการลงทุนผ่านกองทุน Venture Fund ของบริษัท

บริษัท เจลลาเจน ก่อตั้งขึ้นในปี 2558 โดยเป็นบริษัททางด้านเทคโนโลยีชีวภาพทางการแพทย์ ที่พัฒนาคอลลาเจน ในรูปแบบของวัสดุชีวภาพ จากแมงกระพรุน โดยมีพันธกิจในการปฏิวัติเวชศาสตร์ฟื้นสภาพ หรือ ศาสตร์การรักษาโรคต่างๆ ผ่านการเข้าไปฟื้นฟูความเสื่อมของร่างกายโดยลงลึกไปถึงระดับเซลล์ ด้วยเครื่องมือทางการแพทย์และวิธีการเพาะเลี้ยง การศึกษาเบื้องต้นจากเจลลาเจนพิสูจน์ได้ว่า คอลลาเจน ชนิด 0 ซึ่งมาจากแมงกระพรุน มีคุณสมบัติที่ดีกว่าคอลลาเจนจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม โดยเฉพาะในทางการรักษาและการแพทย์ การระดมทุนในรอบนี้จะถูกนำไปใช้ในการเร่งการพัฒนาทางการแพทย์ให้กับคอลลาเจน ชนิด 0 ตลอดจนวัสดุชีวภาพคอลลาเจนที่มีความยั่งยืน ที่จะถูกใช้ในการรักษาโรคทางผิวหนัง และเป็นวัสดุชีวภาพสำหรับการสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่

ดีแทค B-LAB ตัวช่วยสนับสนุนธุรกิจไทย เปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล

การลงทุนของไทยยูเนี่ยนในเจลลาเจนในครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้เกิดความร่วมมือทั้งในด้านการจัดหาวัตถุดิบ การผลิต และการนำไปใช้ในสินค้าที่ไทยยูเนี่ยนมีอยู่และสินค้าที่พัฒนาขึ้นในอนาคต

ธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เราพยายามอย่างยิ่งในการยกระดับนวัตกรรมในธุรกิจและสินค้าของเรา เจลลาเจนนั้นถือเป็นผู้นำในการวิจัยคอลลาเจนจากแมงกระพรุนและกำลังพัฒนารูปแบบคอลลาเจนจากทะเล ซึ่งจะได้นำมาใช้ในการแพทย์ เครื่องสำอาง อาหารและโภชนาการ ไทยยูเนี่ยนหวังที่จะได้ร่วมงานทั้งในด้านการวิจัยและพัฒนา รวมถึงโรงงานผลิตทั่วโลก”

โธมัส-พอล เดสแคมปส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจลลาเจน กล่าวว่า “นับเป็นความสำเร็จและก้าวที่สำคัญสำหรับการลงทุนที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าธุรกิจในครั้งนี้จากไทยยูเนี่ยน ผมอยากขอบคุณไทยยูเนี่ยนที่ไว้วางใจในทีมเจลลาเจนและแพลตฟอร์มเทคโนโลยีของเราที่มีศักยภาพอย่างมาก การลงทุนในครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของเจลลาเจนในฐานะผู้นำด้านวัสดุชีวภาพและเครื่องมือแพทย์ระดับโลกในอนาคต นอกจากนี้ การลงทุนนี้ยังจะช่วยในการจัดการวัตถุดิบของเจลลาเจนและขยายกำลังการผลิตในอนาคต และเมื่อประกอบกับโอกาสและความเป็นไปได้ของคอลลาเจนชนิด 0 รวมถึงการเป็นผู้เล่นใหญ่ในอุตสาหกรรมแล้ว จะช่วยให้เทคโนโลยีของเจลลาเจนเติบโตได้อีกมาก”

ไทยยูเนี่ยนได้จัดตั้งกองทุน venture fund ขึ้นในปี 2562 โดยมุ่งลงทุนในสตาร์ทอัพที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับโปรตีนทางเลือก สารอาหารเพื่อสุขภาพ และเทคโนโลยีชีวภาพ ตลอดจนห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจอาหาร และการลงทุนเชิงกลยุทธ์ต่างๆ โดยกองทุนนี้จะลงทุนและทำงานร่วมกับบริษัทต่างๆ ตั้งแต่เริ่มต้นเพื่อร่วมมือและสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาให้สอดคล้องไปกับความมุ่งมั่นของบริษัทการดูแลความเป็นอยู่ของผู้คนควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ทรัพยากรของท้องทะเล หรือ Healthy Living, Healthy Oceans

สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Venture Capital ได้ที่นี่ https://www.thaiunion.com/th/innovation/thai-union-ventures

Scroll to Top