Apple ถูกฟ้องโดยผู้หญิง 2 คน โดยกล่าวหาว่าอดีตคู่รักของทั้ง 2 คน ใช้อุปกรณ์ AirTag ของ Apple เพื่อติดตามตำแหน่งของพวกเขา ซึ่งอาจทำให้พวกเขาตกอยู่ในความเสี่ยง
คดีฟ้องร้องนี้ถูกยื่นฟ้องในศาลรัฐบาลกลาง ซานฟรานซิสโก เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. โดยผู้หญิงคนแรกมาจากเท็กซัส และอีกคนหนึ่งในนิวยอร์ก
ผู้ได้รับความเสียหาย กล่าวว่า “แฟนเก่าของเธอวาง AirTag ไว้ในช่องล้อยางของรถเธอ และอำพรางด้วยการให้ปากกามาร์กเกอร์ทาสีและมัดไว้ในถุงพลาสติก
ผู้หญิงอีกคนหนึ่ง กล่าวว่า “อดีตสามีของเธอได้ใส่ AirTag ไว้ในกระเป๋าเป้ของลูก แม้ว่าเธอจะพยายามปิดการใช้งาน แต่ไม่นานก็มีอีกเครื่องหนึ่งเข้ามาแทนที่”
–Xiaomi 13 Pro จะเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นแรก ของปี 2023
ขณะที่ Apple ยังไม่ตอบสนองต่อคำร้อง และขอความคิดเห็นเกี่ยวกับคดีความแต่อย่างใด
สำหรับ AirTag นั้นถูกเปิดตัวในปี 2021 เป็นอุปกรณ์ระบุตำแหน่งราคา $29 ที่ช่วยผู้ใช้ค้นหาสิ่งของต่างๆ เช่น กุญแจ กระเป๋าสตางค์ แล็ปท็อป หรือแม้แต่รถยนต์ จากบนแผนที่ แต่หลังจากเปิดตัวได้ไม่นาน ผู้เชี่ยวชาญบางคนเตือนว่าอาจถูกนำไปใช้ติดตามบุคคลโดยไม่ได้รับความยินยอม
และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการกล่าวหาว่า ถูกใช้ AirTags เพื่อการติดตามโดยไม่พึงประสงค์ ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ผู้หญิงคนหนึ่งจากรัฐอินเดียนาถูกกล่าวหาว่า ใช้อุปกรณ์ติดตามตัวและสังหารแฟนของเธอด้วยข้อหาชู้สาว
ทั้งนี้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา Apple ได้เพิ่มการป้องกันเพิ่มเติมให้กับ AirTag เพื่อลดการติดตามที่ไม่ต้องการ โดยทำงานร่วมกับกลุ่มความปลอดภัยและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย เพื่อระบุวิธีเพิ่มเติมในการอัปเดตคำเตือนด้านความปลอดภัยของ AirTag รวมถึงการแจ้งเตือนผู้คนเร็วขึ้นและดังขึ้น หากสงสัยว่าตัวติดตามบลูทูธขนาดเล็กกำลังติดตามใครบางคนอยู่
ที่มา edition.cnn.com