โฆษณาในยุคปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทอย่างมากในทุกรูปแบบ จากการใช้สื่อแบบเดิมๆ ที่เน้นการสร้างการรับรู้อย่างเดียว ก็กลายมาเป็นแบรนด์ต่างๆ ให้ความสำคัญกับการวางแผนสื่อรูปแบบผสม (Media Mix) เพื่อให้เกิด Conversion ตามโจทย์ของธุรกิจมากขึ้น สื่อแบบไหนจะใช้งานอย่างไร เล่าเรื่องอะไรลงแต่ละสื่อ วัดผลได้อย่างไร และที่สำคัญใช้เงินเท่าไหร่ ต่างเป็นโจทย์สำคัญในยุคปัจจุบัน
ตามการคาดการณ์ของสมาคมมีเดียเอเยนซี่ และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย หรือ MAAT สื่อโฆษณาจะเติบโตเติบขึ้นถึง 5-8% เมื่อสิ้นสุดปี 2565 ที่ผ่านมา และจะยังคงจะเป็นการขยายตัวระยะยาวในตัวเลขระดับนี้ไปจนถึงปี 2567 โดยหนึ่งในสื่อหลักที่เป็นตัวขับเคลื่อนตลาดโฆษณาที่สำคัญคือ “สื่อนอกบ้าน” หรือที่ภาษานักการตลาดเรียกว่า “OOH” โดยปัจจัยสำคัญก็คือสถานการณ์โควิดที่คลี่คลายลง ผู้คนกลับมาเดินทาง และทำกิจกรรมนอกบ้านเหมือนเดิมจึงทำให้สื่อนอกบ้านกลับมามีอิทธิพลมากขึ้น
–กรุงไทย เปิดบริการหนังสือค้ำประกันระบบศุลกากรผ่านแดนอาเซียน หลักประกันเดียวใช้ได้ทั่วภูมิภาค
ในช่วงครึ่งปีหลังของ 2565 ที่ผ่านมานั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่าสื่อ OOH มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว มีรูปแบบใหม่ๆ มากมายทั้งแบบตั้งอยู่กับที่ และแบบเคลื่อนที่ได้ โดยข้อดีของสื่อ OOH ก็คือสามารถบอกเล่าเรื่องราวได้ชัดเจนและจดจำง่าย แต่มีราคาที่คุ้มค่ามากกว่า แต่ก็ยังมีคำถามในเรื่องการติดตามและการวัดผลว่าจะทำได้อย่างไร
การมองหาตัวเลือกของการโฆษณาสื่อแบบ OOH ที่คุ้มค่านั้นจึงกลายมาเป็นคำถามสำคัญในการวางแผนสื่อของแต่ละแบรนด์มากขึ้น เพราะทุกแบรนด์ต่างก็ต้องการบอกเล่าเรื่องราวที่จดจำง่าย ส่งอิทธิพลให้เกิดการซื้อหรือ Conversion ได้มากขึ้น แต่ยังต้องเป็นการลงเม็ดเงินที่คุ้มทุน ยกตัวอย่างเช่น จะง่ายกว่าหรือไม่ที่เราจะทำให้ป้ายโฆษณาเคลื่อนที่ไปตามถนน ตรอก ซอกซอยต่างๆ ไม่ใช่แค่ถนนสายหลักเท่านั้น และแบรนด์ก็ยังสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายตามโลเคชั่นต่างๆ ได้ด้วย
แอดฮับ (Ads Hub) หนึ่งในผู้ให้บริการสื่อโฆษณานอกบ้านที่พร้อมตอบโจทย์การวางแผนสื่อให้คุ้มค่ากับแบรนด์ต่างๆ เล็งเห็นถึงแนวโน้มความต้องการที่มากขึ้นของการใช้สื่อป้ายโฆษณาเคลื่อนที่ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ทุกพื้นที่ จึงได้ออกแบบให้มีการติดป้ายโฆษณาเหล่านี้กับรถยนต์ และรถตุ๊กตุ๊ก ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ทั้งถนนเส้นหลัก และถนนสายรองต่างๆ ทำให้เข้าถึงกลุ่มคนได้มากขึ้น และเมื่อนำมาใช้งานคู่กับเทคโนโลยี GPS แล้วก็ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาแต่ละรายสามารถติดตามเช็คข้อมูลเส้นทางที่รถพร้อมป้ายโฆษณาเดินทางไปในแต่ละวัน
แบรนด์ผู้ลงโฆษณา และมีเดียเอเจนซี่ สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Adhub GPS Manager เพื่อติดตามเช็คข้อมูลได้ทั้งแบบรายวัน และเรียลไทม์ ของรถแต่ละคันที่ใช้โฆษณาอยู่แล้วนั้นว่า ในแต่ละวันเดินทางไปแล้วจำนวนกี่กิโลเมตร เข้าไปในพื้นที่ไหนบ้าง และออกแบบพื้นที่ที่ต้องการให้รถโฆษณาครอบคลุมได้
เมื่อสามารถออกแบบพื้นที่ที่ต้องการครอบคลุมได้แล้ว นักวางแผนสื่อโฆษณาก็สามารถวางแผนสื่อได้ง่ายขึ้นว่า กลุ่มรถโฆษณากลุ่มนี้นั้นต้องการใช้แมสเสจหรือสื่อสารว่าอย่างไรในพื้นที่นี้ ใช้งานครีเอทีฟแบบไหนที่จะดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้มากกว่า เช่น หากว่าแบรนด์มีการจัดงานอีเวนต์และต้องการที่จะชักชวนคนให้ไปเข้าร่วมงานก็สามารถโฆษณาผ่านป้ายเคลื่อนที่เหล่านี้ได้ และเมื่อได้รับรายงานผ่านแอปพลิเคชันแล้วว่ากลุ่มรถนี้วิ่งอยู่ในพื้นที่ไหน ก็สามารถใช้สื่ออื่นๆ ส่งไปเน้นย้ำ เพื่อให้การสื่อสารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
และตามที่ได้อธิบายในข้างต้นแล้วว่า การวางแผนให้ใช้เม็ดเงินโฆษณาไปอย่างคุ้มทุนที่สุดจะเข้ามามีบทบาทอย่างมากต่อการอนุมัติแผนสื่อโฆษณาของแต่ละแบรนด์ ดังนั้น ตัวเลือกของป้ายโฆษณาเคลื่อนที่นี้จึงเป็นอีกตัวเลือกที่น่าจับตามอง เพราะการลงทุนกับป้ายโฆษณาขนาดที่เห็นได้ง่ายของผู้คนที่ใช้รถใช้ถนนนั้นย่อมน้อยกว่าการต้องไปลงทุนกับการซื้อป้ายขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กับที่ บวกกับการติดตามข้อมูลเส้นทางผ่านแอปฯ ได้ง่ายก็ยิ่งทำให้น่าสนใจอยู่ไม่น้อย