AIS Business เดินหน้าสร้างการ “เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน” กับลูกค้า ทั้งภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการ SME ในการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันด้วยต้นทุนที่เหมาะสม สนับสนุนการเติบโตขององค์กรและธุรกิจ ภายใต้เทรนด์และสถานการณ์ภายหลังจากที่ต้องเผชิญกับวิกฤติ และการเปลี่ยนแปลงของบริบทโลก ที่วันนี้ AIS Business พร้อมส่งมอบบริการดิจิทัลและไอซีทีโซลูชัน ที่สร้างความปลอดภัย มั่นใจ ตอบโจทย์การเติบโตของลูกค้าอย่างยั่งยืน
ธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร AIS อธิบายต่อถึงภาพรวมสถานการณ์ตลาด และเทรนด์การทำ Digital Transformation ขององค์กร และ SME ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ว่า3 ปี ที่อยู่กับการระบาดของโควิด-19 ทำให้องค์กรส่วนใหญ่ได้ปรับตัวรับผลกระทบจนพร้อมที่จะเดินหน้าต่อในบริบทของโลกหลังโควิดแล้ว และแน่นอนว่า พร้อมเปิดรับเทคโนโลยีดิจิทัลเข้าไปเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้วยการทำ Digital Transformation เพื่อสร้างโอกาสทางการแข่งขันและพัฒนานวัตกรรมเพื่อการเติบโตของธุรกิจมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม ภาคการผลิต ธุรกิจขนส่ง Logistics และผู้ให้บริการทางการเงิน เป็นต้น
อีกทั้งเทรนด์ของการใช้งานในปีนี้องค์กรจะมุ่งไปที่การยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทาง IT ที่ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ เข้ามาช่วยจัดการ ควบคุม ความมั่นคงปลอดภัยของ Data ตามกรอบกฎหมายที่ประกาศใช้ในปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ยังมีกระแสเรื่องของการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และมีการบริหารจัดการที่ดี ทั้งหมดนี้ทำให้ ดิจิทัลโซลูชัน ได้กลายเป็นปัจจัยหลักที่จะเข้ามาช่วยองค์กรสร้างความพร้อมสู่การเติบโตควบคู่กับความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจได้
จากภาพรวมของสถานการณ์ทั้งหมด ทำให้ในปี 2023 นี้ AIS ยังคงมุ่งสร้าง Digital Business Ecosystem ให้มีความสมบูรณ์แบบ สามารถตอบโจทย์การทำงานทุกองค์กรได้ในทุกมิติ ผ่าน 5 กลยุทธ์ อันได้แก่
1) เชื่อมต่อ 5G Ecosystem เพื่อการทำงานของภาคธุรกิจอย่างรอบด้าน
2) ยกระดับการทำงานของโครงข่ายด้วย Intelligent Network
3) มุ่งเสริมความสมบูรณ์ของโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลและแพลตฟอร์ม
4) เสริมอาวุธด้านการตลาดและเพิ่มโอกาสการเติบโต Data-driven Business
5) ส่งมอบบริการด้วยทีมงานมืออาชีพที่ไว้วางใจได้
ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจของ AIS Business ประกอบกับความพร้อมในฐานะผู้ให้บริการโครงข่ายอัจฉริยะ 5G อันดับ 1 ของไทย ทำให้เราพร้อมเป็นพันธมิตรดิจิทัล ที่มั่นใจได้ เพื่อพัฒนาธุรกิจและสังคมไทยเติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน ในมิติต่างๆ ดังนี้
Growth: เร่งการเติบโตของธุรกิจโดยการสร้างขีดความสามารถใหม่ๆ ด้วยเครื่องมือทางดิจิทัล เพิ่มความคล่องตัวทางธุรกิจด้วยศักยภาพของ AIS 5G และ Cloud Platform, ตอบโจทย์การให้บริการลูกค้าด้วยการบริหารจัดการข้อมูลอัจฉริยะ Data Insight & Lifestyle as a Service, พร้อมการสร้างสรรค์โซลูชันใหม่ ๆ เฉพาะอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น Smart Manufacturing, Smart Transportation & Logistics, Smart City & Building, และ Smart Retail
Trust: บริการโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และเชื่อถือได้ ด้วยความพร้อมเต็มรูปแบบของ Intelligent Network, Cloud Platforms, และ Cyber Security สอดรับกับกฎระเบียบของการใช้งานที่ปลอดภัยและเป็นไปตามข้อกำหนดของแต่ละอุตสาหกรรม ผ่านโซลูชันอย่างเช่น Sovereign Cloud, SD-WAN, Secured Connectivity เป็นต้น ที่ตอบโจทย์ทั้งความเร็ว ความยืดหยุ่น ช่วยยกระดับการบริหารจัดการข้อมูลและระบบต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยขององค์กร
Sustainability: สร้างระบบนิเวศนวัตกรรมเพื่อธุรกิจอย่างยั่งยืน ครอบคลุมทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่การสร้างระบบนิเวศสำหรับการพัฒนานวัตกรรมร่วมกับพันธมิตรต่างๆ การสร้าง AIS 5G NEXTGen Platform เพื่อการสร้าง 5G โซลูชันได้สะดวกรวดเร็วขึ้น
ไปจนถึงโซลูชันที่เข้ามาช่วยในการบริการจัดการการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการปล่อยคาร์บอน การปล่อยน้ำเสียโดยใช้ข้อมูลแบบ real-time จากอุปกรณ์ IoT ทำให้พร้อมการคาดการณ์การใช้พลังงานล่วงหน้า เพื่อให้สามารถตัดสินใจวางแผนการทำงาน หรือการผลิตได้อย่างเหมาะสม ควบคู่ไปกับการดำเนินโครงการเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่าง e-Waste, Academy for Thai, และอุ่นใจไซเบอร์ เป็นต้น
“จากเป้าหมายใหญ่ของ AIS ที่ต้องการเป็นองค์กรโทรคมนาคมอัจฉริยะ ในส่วนธุรกิจลูกค้าองค์กรอย่าง AIS Business ก็จะสร้างเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลไทยให้ยั่งยืน ด้วยการเร่งขับเคลื่อนดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันของลูกค้า โดยเทคโนโลยีและการให้บริการดิจิทัลที่หลากหลายครบครัน ด้วยทีมงานที่ไว้ใจได้ในความสามารถอย่างมืออาชีพเรามุ่งหวังที่จะเป็นพันธมิตรสมาร์ตดิจิทัลที่ไว้วางใจได้ สนับสนุนองค์กรธุรกิจและ SME ไทยให้ “เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน” อย่างยั่งยืน” ธนพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย