AIS SME เดินหน้าตาม 3 แกนหลักสร้าง Ecosystem Economy พร้อมส่งโซลูชันตอบโจทย์ SME หนุนการทำธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

AIS SME เดินหน้าตาม 3 แกนหลักสร้าง Ecosystem Economy พร้อมส่งโซลูชันตอบโจทย์ SME หนุนการทำธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

AIS SME เดินหน้าผลักดัน Ecosystem Economy ผ่าน 3 แกนหลัก พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล เป็นตัวกลางเชื่อมผู้ประกอบการกับพาร์ทเนอร์ และเสริมสร้างความรู้บุคลากร พร้อมดันบริการใหม่พร้อมสิทธิประโยชน์ เพื่อสร้างการเติบโต SME ไทยอย่างยั่งยืน

SME นั้นเป็นเหมือนกระดูกสันหลังที่คอยผลักดันเศรษฐกิจประเทศไทย ปัจจุบันมีธุรกิจ SME มากถึง 3.18 ล้านบริษัท อยู่ใน 3 อุตสาหกรรมหลัก คือ ภาคการค้า (Commerce) 33%, ภาคการผลิต (Manufacturing) 13% และ ภาคบริการ Service 53% ในแต่ละเดือนมีบริษัทจดทะเบียนบริษัทใหม่ 4-5 พันราย มีการจ้างงาน 12.61 ล้านคน และทั้งหมดนี้ช่วยสร้าง GDP ให้กับประเทศถึง 34.2%

ขายได้ปีละกว่า 230 ล้าน! เจาะความสำเร็จ SME ขนมพื้นบ้าน “แม่สุนีย์ ขนมไทย”ยกระดับสินค้าสู่ร้านเซเว่นฯ

แต่ในวันที่ภูมิทัศน์ของการทำธุรกิจเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นการผลักดันของนโยบายรัฐ การแข่งขันด้านการตลาดที่รุนแรงขึ้น และการเติบโตของโลกออนไลน์ ทำให้ SME ถูกดิสรัปต์ได้ง่ายขึ้น เพราะฉะนั้นการเพิ่มมูลค้าให้กับธุรกิจอยู่เสมอจึงเป็นวิธีที่ SME ไม่อาจเลี่ยงได้

“หากย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีที่แล้วหรือช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 คนไทยยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องการจ่ายเงินผ่าน QR Code แต่วันนี้เชื่อว่าแทบทุกคนใช้เป็นกันหมดแล้ว” ธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร AIS กล่าวก่อนเสริมว่า “เหตุผลหลักที่ AIS เดินหน้าทำงานร่วมกับ SME เพราะเราต้องการช่วยผู้ประกอบการสร้างความแตกต่าง ทั้งในช่องทางการขาย การทำการตลาดดิจิทัล ต้องยอมรับว่าในวันนี้ คนที่จับเทรนด์ได้ก็จะเติบโต ส่วนคนที่ไม่ปรับตัวเทคโนโลยีก็จะเป็นอุปสรรค วันนี้ วิธีการเชิญชวนลูกค้าได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างชิ้นเชิง มีช่องทางใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย ขณะที่กำลังซื้อยังเป็นความท้าทาย ผู้ค้าจะต้องปรับตัว ขณะเดียวกันต้องวางแผนลดค่าใช้จ่าย เพื่อดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิผลที่สุด”

AIS SME เดินหน้าตาม 3 แกนหลักสร้าง Ecosystem Economy พร้อมส่งโซลูชันตอบโจทย์ SME หนุนการทำธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

AIS ตั้งเป้าสร้าง Ecosystem Economy ให้ SME ไทย

ไม่เพียงแค่การช่วยให้ SME แต่ละรายเติบโตในทางธุรกิจได้อย่างราบรื่น แต่ AIS ยังมองภาพใหญ่ถึงการสร้างระบบนิเวศของการทำธุรกิจในระยะยาว หรือ การสร้าง Ecosystem Economy ที่ส่งเสริมการทำงานร่วมกันไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยี ซัพพลายเออร์ ผู้ซื้อ ผู้ขาย โลจิสติกส์ ซึ่งแต่ละภาคส่วนจะเข้ามาเป็นตัวช่วยสร้าง Ecosystem ให้สมบูรณ์แบบ

ทั้งนี้การสร้าง Ecosystem Economy ในมุมของ AIS นั้นแบ่งออกเป็น 3 แกน ได้แก่

1.Digital Intelligence Infrastructure ที่ผ่านมา AIS ลงทุนกับการสร้าง Ecosystem ให้สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง 5G, Connectivity, Broadband หรือ Cloud Platform และยังเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้ให้มีความฉลาดขึ้นอยู่เสมอ

ธนพงษ์ กล่าวว่า สำหรับบทบาทของเทคโนโลยี ปัจจุบัน AIS มี 4 เทคโนโลยีที่มั่นใจว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการ ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์ม Remote Work and Virtual Meeting ที่ปัจจุบันกลายเป็นเรื่องปกติของการทำธุรกิจไปแล้ว เพราะคนต้องการการสื่อสารโต้ตอบที่ฉับไวมากขึ้น ต่อมาคือการทำ Digital Marketing เช่น การทำ SEO การทำการตลาดผ่านตัวกลาง การหาแพลตฟอร์มที่มีข้อมูลลูกค้าที่ตรงกับธุรกิจเรา การตลาดยุคใหม่จะต้องทำแบบ Multiway Marketing ส่วนด้าน E-commerce Platform เป็นช่องทางที่เข้ามาช่วยธุรกิจเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้น และสุดท้าย คือ Self-Employed/Entrepreneurs คือให้บริการกับกลุ่มที่เป็นผู้ประกอบอาชีพอิสระ ซึ่งเป็นกลุ่มที่เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ

2.Cross Industry Collaboration เป็นตัวกลางประสานความร่วมมือทางธุรกิจข้ามอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจดิจิทัล และยังเป็นการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับ SME

3.Human Capital &Sustainability ให้ความรู้กับผู้ประกอบการเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่ง ผ่านการทำ Online Training Platform เช่น StartUp Program หรือ AIS BizUp เป็นโครงการที่ AIS ได้ออกแบบมาเพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการ

“3 แกนนี้จะเป็นเหมือนใบพัดที่ช่วยให้ผู้ประกอบการให้เติบโต บินขึ้นสู่ที่สูงได้ ขณะที่ AIS ต้องปรับตัวตลอดเวลาเช่นกัน เพื่อสนับสนุนสิ่งใหม่ๆ ให้กับลูกค้า ให้เกิดความยั่งยืนกับธุรกิจ” ธนพงษ์ กล่าวเสริม

AIS SME เดินหน้าตาม 3 แกนหลักสร้าง Ecosystem Economy พร้อมส่งโซลูชันตอบโจทย์ SME หนุนการทำธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

ส่งโซลูชันพร้อมสิทธิพิเศษ ตอบโจทย์ SME ทั้งการเติบโตและลดต้นทุน

จากปัจจัยความต้องการของผู้ประกอบการ SME ทำให้ AIS เดินหน้าตอบโจทย์ความต้องการผ่านกลยุทธ์ 7S ที่จะช่วยให้ SME เติบโตได้อย่างยั่งยืน แบ่งเป็น 4 โซลูชัน ได้แก่ AIS SME Mobile Services บริการโทรศัพท์เพื่อการสื่อสาร, AIS SME Internet Services บริการอินเทอร์เน็ต, AIS SME Digital Marketing Services เครื่องมือด้านการตลาดออนไลน์ และ AIS SME IT & Digital Solutions พัฒนาระบบไอทีหลังบ้าน และบริการด้านการสนับสนุน 3 บริการ ได้แก่ AIS SME Full e-Services งานบริการแบบ E-Service ที่อำนวยความสะดวกให้แก่นิติบุคคล, AIS SME Special Privileges สิทธิพิเศษที่ทำให้การทำธุรกิจง่ายขึ้นด้วย AIS SME BIZ UP และ AIS SME Strategic Partnership การผนึกกำลังกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ

“จากกลยุทธ์ 7S เราเน้นการสนับสนุนไปที่ 4 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ การค้า การผลิต บริการ และ ดิจิทัล/เทคโนโลยี ซึ่งแต่ละกลุ่มมีความท้าทายที่แตกต่างกันไม่ว่าจะเป็น ต้องการเพิ่มช่องทางขายมากขึ้น ลดต้นทุน การเข้าหาลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เพิ่มประสิทธิภาพบริการ และสร้างโอกาสในการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์”

สำหรับโซลูชันพร้อมสิทธิพิเศษ ที่ AIS Business มอบให้กับ SME มีดังนี้

1.ต่อยอดลูกค้า “ถุงเงิน”

เพื่อเป็นการต่อยอดร้านค้าที่ใช้แอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” (ปัจจุบันมีร้านค้ากว่า 1.8 ล้านราย อยู่ในระบบ) นอกจากจะสามารถใช้ AIS Points แทนเงินสดได้ AIS ยังเพิ่มสิทธิประโยชน์ใหม่สำหรับลูกค้า “ถุงเงิน” เพียงสมัครบริการ SME 5G Tung-Ngern ในแพ็กเกจ 399 บาท/เดือน ได้อินเทอร์เน็ต 5G ถึง 20 GB และหลังจากนั้นได้ความเร็วต่อเนื่องที่ 1 Mbps นอกจากนี้ยังสิทธิ์ใช้ Data บนแอปฯ ถุงเงินฟรีอีกด้วย

2.ช่วยลูกค้าขายออนไลน์ผ่าน TikTok

ปัจจุบันมี SME ที่ใช้ TikTok เป็นช่องทางขายสินค้า AIS จึงได้ออกแพ็กเกจ SME 5G TikTok Seller ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนี้ เริ่มเพียง 699 บาท/เดือน พร้อมรับคูปองกระตุ้นยอดขายจาก TikTok รวมมูลค่า 10,800 บาท และยังได้สิทธิ์ใช้ Flow Account แพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผู้ค้าทำบัญชีดิจิทัลได้รวดเร็วมากขึ้น ฟรีตั้งแต่ 2-12 เดือน (ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจ)

3.ตอบโจทย์ด้านความปลอดภัย

เพราะความปลอดภัยของทรัพย์สินนั้นมีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ของการทำธุรกิจ แพ็กเกจ SME Cloud Camera Solution เข้ามาตอบโจทย์ธุรกิจที่ต้องการความปลอดภัยด้วยบริการกล้องวงจรปิด ที่เก็บภาพบนระบบคลาวด์ มีทั้งแบบ Indoor และ Outdoor นอกจากนี้ยังเลือกระยะเวลาการเก็บไฟล์ย้อนหลังได้ตั้งแต่ 7-30 วัน อีกด้วย

4.Marketplace ที่เชื่อมลูกค้าแบบ B2B2C

ภาคการผลิตมีความต้องการไปสู่ตลาดได้เร็วขึ้น มากขึ้น จะทำอย่างไรให้ไปถึงลูกค้าได้โดยตรง ซึ่งแพลตฟอร์มรูปแบบ B2B2C จะเข้ามาตอบโจทย์ ล่าสุด AIS ได้ร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (FTI) ที่ต้องการช่วยผู้ผลิตที่เป็นสมาชิก และ www.yellow.co.th ทำหน้าที่เป็นตัวกลางให้ผู้ซื้อพบผู้ขายได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องผ่านคนกลาง เป็นการเปิดโอกาสให้ SME เข้าถึงลูกค้ารายใหญ่ได้มากขึ้น ด้วยฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ ระบบการชำระเงินที่มั่นใจได้จาก mPAY และระบบข่นส่งที่หลากหลายโดย SHIPPOP

สำหรับผู้ประกอบการ SME นอกจากจะฟรีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมผ่านแพลตฟอร์มแล้ว ยังได้สิทธิ์ลงสินค้าฟรี 10 SKUs ทุกเดือน แต่หากเป็นสมาชิก FTI จะได้สิทธิ์ลงสินค้าฟรี 15 SKUs ทุกเดือน

นอกจากนี้ยังมีสิทธิพิเศษสำหรับ SME สามารถเข้าถึงบริการขนส่งออนไลน์ SHIPPOP ที่เข้ามาช่วยบริหารจัดการขนส่งสินค้า พร้อมรับส่วนลดสูงสุด 20% และแพลตฟอร์ม Foodstory ที่เหมาะกับผู้ประกอบการร้านอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมข้อมูลหน้าร้าน การจัดการสต๊อก รวมถึงระบบ CRM ได้ในราคาพิเศษอีกด้วย

Scroll to Top