ถ้าพูดถึงสติกเกอร์ LINE คนที่ใช้งานทุกคนคงจะมีใช้กันหมด บางคนเลือกใช้เฉพาะสติกเกอร์ฟรี บางคนซื้อบ้าง ส่วนบางคนซื้อทุกเดือนเดือนละหลายชุด ล่าสุดในงานแถลงข่าว LINE Conference Thailand 2023 ได้มีการพูดถึงบริการใหม่ “LINE Stickers Premium” เป็นอีกหนึ่งทางเลือกกับคนที่ใช้ LINE ในไทย ที่ปัจจุบันตัวเลขพุ่งไปสูงถึง 54 ล้านคน สามารถเข้าถึงสติกเกอร์หลายๆ ชุดได้ง่ายขึ้น เบื่อก็เปลี่ยนได้ ไม่ต้องเสียเงินซื้อ วันที่เบื่อแล้วไม่ได้เอามาใช้ส่ง ก็ต้องทิ้งไปเปล่าๆ
แต่ในมุมของครีเอเตอร์ที่ขายสติกเกอร์ก็อาจจะมองว่า เคยได้ส่วนแบ่งจากการขายเต็มๆ แต่ถ้าคนสมัครแบบรายเดือนกันหมดแล้วมาโหลดสติกเกอร์ของเราไปใช้ ก็อาจจะไม่ได้ส่วนแบ่งเท่ากับขายแบบขายขาด แต่อีกมุมหนึ่งคนที่ไม่ค่อยมีรายได้จากการขายสติกเกอร์ก็อาจจะได้รายได้เพิ่มขึ้นได้ง่ายๆ
ลองมาดูกันว่าการเพิ่มโมเดล LINE Stickers Premium ในครั้งนี้มีจุดดี-จุดด้อย อะไรบ้าง ทั้งมุมผู้ซื้อและผู้ขาย
ก่อนอื่นมาดูแพ็กเกจที่ออกมากันก่อน ซึ่งในครั้งนี้ LINE เปิดแพ็กเกจออกมา 2 รูปแบบ คือ
Basic เดือนละ 69 บาท หรือ ปีละ 699 บาท
- เข้าถึงสติกเกอร์ได้ 9 ล้านชุด (โหลดได้เฉพาะสติกเกอร์ที่อยู่ในสโตร์มาแล้ว 6 เดือนขึ้นไป)
Deluxe เดือนละ 139 บาท หรือ ปีละ 1,300 บาท
- เข้าถึงสติกเกอร์ได้ 9 ล้านชุด (โหลดได้เฉพาะสติกเกอร์ที่อยู่ในสโตร์มาแล้ว 6 เดือนขึ้นไป)
- เข้าถึง Theme ได้ 1.5 ล้านธีม
- และ 120,000 อีโมจิ
*ทั้งนี้ ผู้สมัครสามารถใช้ฟรี 30 วัน ในการสมัครครั้งแรก และโหลดได้เพียงครั้งละ 5 ชุด หากต้องการโหลดชุดที่ 6 จะต้องลบชุดใดชุดหนึ่งออกก่อน
ผู้ใช้งานได้ประโยชน์เต็มๆ ?
ถ้ามองจากแพ็กเกจที่ออกมาครั้งนี้ ผู้ใช้งานเป็นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์เต็มๆ เพราะจากที่เคยกดซื้อสติกเกอร์เดือนละหลายๆ ชุด ตกครั้งละ 65 บาท แต่ถ้าสมัครรายเดือนแบบแพ็กเกจ Basic เริ่มต้นแค่ 69 บาท ก็ได้ใช้สติกเกอร์แบบไม่จำกัดแล้ว หรือจะข้ามไปจ่ายเดือนละ 139 บาท สมัครแบบ Deluxe ก็ยังเปลี่ยนธีมเล่นได้อีกด้วย หรือถ้าจะสมัครแบบรายปีก็เท่ากับจ่ายแค่ 10 เดือน
แต่ก็ยังมีข้อสังเกตว่า หากอยากได้สติกเกอร์ที่ออกมาใหม่ เป็นกระแสในปัจจุบัน ก็ยังคงต้องเสียเงินซื้อถ้าต้องการใช้ตอนนี้ เพราะถ้ารออีก 6 เดือนค่อยโหลดก็อาจจะตกเทนรด์ไปแล้ว
“แล้วควรจะซื้อแบบเดิม หรือ สมัครรายเดือนดี” หลายคนก็คงจะมีคำถามแบบนี้ในใจ ซึ่งปัจจัยขึ้นอยู่กับว่าคุณสนใจสติกเกอร์ลายใหม่ๆ ตลอดเวลาหรือไม่ ต้องตามกระแสตลอดหรือไม่ ถ้าหากตัด 2 ประเด็นแรกไป การสมัครแบบรายเดือนยังไงก็คุ้มค่ามากกว่า เพราะบางคนชอบใช้สติกเกอร์บางชุดเพียงเพราะคาแรกเตอร์ ไม่ได้มองถึงกระแสว่าจะต้องใช้เป็นคนแรกๆ
“ครีเอเตอร์” มีทั้งที่ได้และเสีย
สำหรับครีเอเตอร์นั้นจะมีทั้งกลุ่มที่ได้และเสียผลประโยชน์ ลองมาดูกลุ่มที่ได้ประโยชน์กันก่อน ปัจจุบันสติกเกอร์ในระบบมีมากถึง 9 ล้านชุด เพราะฉะนั้นโอกาสที่ทุกคนจะขายได้นั้นเป็นไปได้ยาก เพราะคนซื้อก็มักจะเลือกชุดที่ชอบมากที่สุดเป็นอันดับแรก บางชุดที่ชอบเพียงไม่กี่คาแรกเตอร์อาจจะตัดใจไม่ซื้อก็เป็นได้
แต่เมื่อเกิดระบบ Subscription ที่เลือกโหลดอะไรก็ได้ ทำให้ผู้ใช้มีโอกาสโหลดมาใช้เล่นๆ แล้วลบทิ้งมากขึ้น เปลี่ยนบ่อยมากขึ้นตามช่วงเวลาที่อยากใช้ ซึ่งข้อดีของครีเอเตอร์ที่จะได้รับก็คือ ทุกการถูกกดใช้คาแรกเตอร์ 1 ครั้ง LINE จะนำไปคำนวณเป็นรายได้ที่จะเก็บจากผู้สมัคร หมายความว่าในยอดเงิน 69 บาท ที่จ่ายแต่ละเดือน เมื่อหักค่าธรรมเนียมจาก LINE ไปแล้ว เหลือกี่บาท จะถูกนำมาหารให้กับครีเอเตอร์ที่ถูกใช้สติกเกอร์มากน้อยตามลำดับ ซึ่งโมเดลนี้เหมือนกับการคิดรายได้ของ YouTube Premium ทำให้ครีเอเตอร์ทุกคนมีโอกาสได้รายได้เพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่ง
แล้วใครจะเสียประโยชน์? แน่นอนว่ามีคนได้ก็ต้องมีคนเสีย เพราะผู้ใช้ส่วนหนึ่งที่เลือกสมัครแบบรายเดือนมีแนวโน้มว่าจะเลิกโหลดแบบธรรมดาไปเลยหรือโหลดน้อยลงมาก เพราะโหลดใช้ฟรีเมื่อไรก็ได้ ตราบที่ยังสมัครแบบสมาชิกรายเดือนหรือปีอยู่ และเมื่อเลิกสมัครก็อาจจะหมายถึงการเลิกใช้ LINE ในการติดต่อสื่อสารไปด้วย
ซึ่งอาจจะทำให้ ครีเอเตอร์ ที่เคยทำยอดขายมากๆ เป็นตัวท็อปของวงการ เน้นทำสติกเกอร์ตามกระแส ก็มีแนวโน้มจะได้รายได้ทางตรงจากการซื้อลดลง และไปได้ส่วนเสริมจากส่วนแบ่งของผู้ใช้รายเดือนหรือรายปีแทน แต่กับกลุ่มสายเปย์คงไม่มีผลอะไร เพราะพร้อมจ่ายอยู่แล้ว
หลังจากนี้ครีเอเตอร์คงต้องปรับตัวกันพอสมควร ต้องวางกลยุทธ์ที่ดึงให้คนอยากซื้อขาดเพราะความน่ารักน่าใช้และรอไม่ได้ กับอีกส่วนคือต้องเร่งผลักดันให้คนที่สมัครแบบรายเดือนรู้จักผลงานมากขึ้น เพื่อดึงส่วนแบ่งการใช้งานจนกลายเป็นแฟนประจำ