รีวิว Wanbo Mozart 1 เหมือนยกโรงหนังมาไว้ในบ้าน

รีวิว Wanbo Mozart 1 เหมือนยกโรงหนังมาไว้ในบ้าน

สวัสดีครับ วันนี้ Biztalk Gadget จะยกโรงหนังมาไว้ในบ้านคุณผู้ชมกันครับ กับ เจ้า Wanbo (ว่านป๋อ) Mozart 1 เป็นโปรเจคเตอร์ตัวแรกที่ผมได้มีโอกาส รีวิว ครับ

เดี๋ยวผมจะพามาลงรายะเอียดแต่ สเปคที่เป็นจุดเด่นของเจ้าตัวนี้ การใช้งานครั้งแรกจะต้องตั้งค่ายังไง แล้วมันทำอะไรได้บ้าง มาดูกันเลยครับคุณผู้ชม

เริ่มต้นกันที่ จุดเด่นของเจ้า Wanbo Mozart 1 มีอะไรบ้าง มาดูกันครับ

ดีไซน์ทรง Cube สีขาวสวยงามดูพรีเมียม จริงๆ แล้วมันดูเหมือนพวกลำโพงตั้งโต๊ะมากกว่าครับ ซึ่งรูปทรงที่ดูกะทัดรัดแบบนี้ ทำให้มันใช้พื้นที่ตั้งน้อยมากๆ ซึ่งต่างกับโปรเจคเตอร์ทั่วไปที่มักจะออกแบบมาให้มีฐานกว้างๆ แต่ไม่สูงมาก

น้ำหนัก 2.5 กิโลกรัม ก็ถือว่าแบกไปมาในบ้านง่ายอยู่ครับ

ฉายภาพได้ใหญ่สุดเท่าทีวี 150 นิ้ว ความละเอียดภาพ FHD 1080P และรองรับได้สูงสุด 4K ส่วนความสว่างภาพสูงถึง 900 ANSI คือไม่ต้องทำให้ห้องมืดมากก็ฉายภาพได้ดี ตรงนี้เดี๋ยวเราจะมาดูกันตอนทดสอบการใช้งานนะครับ

ให้พอร์ตเชื่อมต่อ USB-A มา 2 พอร์ต HDMI 1 พอร์ต เอาไว้ต่อคอมหรือพวกแท็บเล็ตเข้ามาได้สบายๆ และยังให้ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มาด้วย จะได้เปิดเสียงดังๆ แบบไม่ต้องเกรงใจใคร

และอีก 1 ไฮไลต์ของเจ้าตัวนี้คือ มันให้ลำโพงที่มีพลังเสียงดีมากพอที่เราจะไม่ต้องไปต่อลำโพงเพิ่มเลยครับ

มาดูรีโมตกันบ้างครับ

สำหรับรีโมตของเจ้าตัวนี้ ควบคุมตัวเครื่องได้ตั้งแต่ เปิด-ปิด เลยครับ และก็ใส่เพิ่ม-ลดเสียง ปรับการตั้งต่าต่างๆ ทั้งหมดของเจ้า Wanbo Mozart 1 สำหรับแบตเตอรี่ใช้ถ่าย AAA 2 ก้อนครับ

มาทดสอบการใช้งานกันครับ

หน้าตาการจัดวางไอคอนเหมือนสมาร์ททีวีเลยครับเจ้าตัวนี้ จะไม่มีก็แค่ทีวีดิจิทัลช่องมาตรฐาน

สำหรับการใช้งานครั้งแรกของเจ้าตัวนี้ก็เอาจริงๆ มันก็ไม่ต่างกับการตั้งค่าสมาร์ทโฟนที่ซื้อมาใหม่เท่าไหร่ครับ คนที่ใช้สมาร์ทโฟนเป็น การตั้งค่าเจ้าตัวนี้ไม่ยากเลยครับ

ส่วนที่น่าจะยากที่สุดของเจ้าตัวนี้คือการตั้งค่าหน้าจอครับ ถ้าใครที่วางตรงๆ ก็คงไม่มีปัญหา แต่ใครที่วางเฉียงๆ มาจากด้านข้าง ก็อาจจะต้องมาปรับหน้าจอให้มันตรงกับผนังห้องหน่อยนึง

แต่เจ้าตัวนี้มันก็ฉลาดระดับนึงนะครับ เพราะมีระบบ Auto Focus ทำให้ภาพชัดได้โดยอัตโนมัติ ถึงแม้เราจะขยับระยะใกล้ไกลไปมา นอกจากนี้ยังมีอัลกอริทึมจะปรับให้ภาพอยู่ตรงกลางเสมอ ซึ่งมีความแม่นยำในการจดจำพฤติกรรมของผู้ใช้ได้สูงถึง 99.99% แต่จากที่ผมลองที่บ้านตัวเอง มันก็ต้องเข้าไปตบๆ มุมมันนิดนึงให้ตรงครับ ซึ่งเขาก็ออกแบบการเซ็ตค่า Keystone มาให้เรากดตั้งค่าได้ง่ายมากๆ

ส่วนแอปพลิเคชัน ด้วยความที่มันใช้ Android พวกแอปดูหนัง ดูคลิป อย่าง YouTube หรือ Netflix มันมีมาให้เป็นพื้นฐานเลยครับ และก็ยังเข้าไปโหลดแอปอื่นๆ ได้ในสโตร์ของ Android TV

ลองมาดูตัวอย่างเวลาที่เปิดหนังดู หรือเปิด YouTube ดูจริงๆ กันเลยดีกว่า และต้องบอกก่อนว่าห้องที่ผมทดสอบนี่หน้ากว้างประมาณ 3 เมตร จะเห็นได้เลยว่ามันจอมันใหญ่จริงๆ

เป็นยังไงกันบ้างครับ สำหรับการ รีวิว Wanbo Mozart 1 ส่วนตัวหลังจากการทดสอบที่บ้านตัวเอง ผมก็ต้องบอกว่าคุณภาพของภาพมันดีจริงๆ ครับ ถึงแม้จะดันจอให้ใหญ่สุดๆ ก็ยังชัด ส่วนเสียงถ้าห้องไม่กว้าง เปิดนิดเดียวก็ลั่นห้องแล้วครับ ผมต้องลดเสียงมาเพราะเกรงใจห้องข้างๆ เลย

แต่ก็ยังมีจุดสังเกตเรื่องเสียงคือ ด้วยความที่มันไม่ใช่ทีวี เพราะฉะนั้นคนที่วางโปรเจคเตอร์ไว้ด้านข้าง ก็จะได้ยินเสียงมันออกมาแล้วรู้สึกแปลกๆ นิดนึง ซึ่งฝั่งที่ตั้งตัวเครื่องก็จะได้ยินดังกว่าชัดเจนครับ เพราะฉะนั้นใครที่จะซื้อไปทำโรงหนังที่บ้านก็ควรดูจุดตั้งไว้ก่อนก็ดีครับ แต่ถ้าใครจะต่อลำโพงเพิ่มเติม อันนี้ก็คงไม่ต้องกังวลครับ อีกหนึ่งจุดสังเกตคือ ปลั๊กที่ให้มาสายมันสั้นไปนิดนึงครับ

สำหรับราคาที่เปิดตัวมาอยู่ที่ 15,590 บาท ก็ถือว่าไม่แพงเลยนะครับ

แล้วคุณผู้ชมคิดเห็นอย่างไร ก็คอมเมนต์บอกเราได้นะครับ แล้วกลับมาพบกันใหม่กับการรีวิวสินค้าที่น่าสนใจ สำหรับวันนี้ ผมแสบ ทรงกลด ลาไปก่อนครับ สวัสดีครับ

realme Buds T300 หูฟังไร้สายที่เหมาะจะซื้อเป็นของขวัญปีใหม่

Scroll to Top