เจดับบลิว แมริออท เขาหลัก เปิดตัว JW Garden ฟาร์มขนาดใหญ่ซึ่งเป็นโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยงเชิงอนุรักษ์ ส่งเสริมสุขภาพกายและใจ และช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด
ฟาร์ม JW Garden ครอบคลุมพื้นที่ 27 เอเคอร์ เป็นรูปแบบฟาร์มที่ตั้งอยู่ในบริเวณที่รมรื่นเงียบสงบ โดยให้ความสำคัญแก่การเพาะปลูกอย่างถูกวิธี โดยสถานที่แห่งนี้ มีพืช ผลไม้ และสมุนไพรพื้นเมืองกว่า 200 สายพันธุ์ โดยแขกผู้เข้าพักยังสามารถเข้าร่วมกิจกรรมชมฟาร์ม เพื่อสำรวจพืชพันธุ์ที่อุดมสมบูรณ์และเรียนรู้เกี่ยวกับแนวทางการทำเกษตรอินทรีย์ นอกจากนี้ ภายใน JW Garden ยังมีไก่และเป็ดที่เลี้ยงแบบระบบปล่อย สามารถผลิตไข่สดใหม่ทุกวัน โดยนับว่าเป็นการส่งเสริมความมุ่งมั่นของรีสอร์ทในด้านจริยธรรมและการจัดหาอาหารที่ยั่งยืนให้แก่ผู้เข้าพัก
วัตถุดิบออร์แกนิกที่มีการเก็บเกี่ยวอย่างพิถีพิถัน จะถูกนำไปที่ห้องครัวของรีสอร์ท เพื่อเพิ่มสีสันของอาหารและสนับสนุนการสร้างสรรค์เมนูในร้านอาหารของเจดับบลิว แมริออท เขาหลัก โดยทางโรงแรมมีเป้าหมายสำคัญคือการกำจัดขยะและทำปุ๋ยหมักที่ JW Garden เพื่อเป็นการนำเศษอาหารที่เหลือจากห้องครัวและห้องอาหารกลับมาใช้ใหม่ โดยวิธีการแบบส่งตรงจากฟาร์ม (Farm-to-table) สามารถรับประกันความสดใหม่ คุณภาพ และ และประโยชน์ทางโภชนาการ ทำให้ผู้บริโภคสามารถรับรู้ถึงความเป็นธรรมชาติ และส่งเสริมประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ยั่งยืน
ผู้เข้าพักจะได้ดื่มด่ำไปกับโลกที่มีชีวิตชีวาของ JW Garden ผ่านการนำทัวร์โดยนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมประจำรีสอร์ทที่มีการจัดขึ้นทุกวัน ภายในทัวร์จะมีการนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับโครงการริเริ่มที่ยั่งยืนและยังสามารถพบกับสัตว์เลี้ยงภายในฟาร์มที่ทุกคนหลงรัก อย่างเช่น ควาย แพะ ไก่และเป็ดที่เลี้ยงแบบปล่อยตามธรรมชาติ พร้อมด้วยผีเสื้อและผึ้งที่สามารถผลิตน้ำผึ้งออร์แกนิกสำหรับใช้ทำอาหารมื้อเช้าของรีสอร์ทได้ นอกจากนี้ เยาวชนยังสามารถเรียนรู้และพูดคุยเกี่ยวกับธรรมชาติเหล่านี้ได้ที่ Environment School เพื่อเป็นแรงผลักดันให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและมุ่งมั่นในการอนุรักษ์โลกธรรมชาติจากรุ่นสู่รุ่น
พืชที่นับว่าเป็นเอกลักษณ์ของ JW Garden ของรีสอร์ทคือต้นจาก ซึ่งเป็นพันธุ์พื้นเมืองของไทยทางภาคใต้ โดยต้นจากมีความสำคัญต่อระบบนิเวศและเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก และสามารถเจริญเติบโตเฉพาะในป่าชายเลน ต้นจากนี้ยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง ตั้งแต่การทำหลังคามุงจากไปจนถึงการผลิตเป็นน้ำตาลและสามารถส่งเสริมความยั่งยืนด้วยการปลูกป่าในพื้นที่ที่เคยใช้เป็นฟาร์มกุ้งอีกด้วย นอกจากนี้ โครงการการฟื้นฟูป่าจาก และโรงเรียนรักษ์สิ่งแวดล้อม จะเป็นศูนย์การศึกษาสำหรับนักเรียนในท้องถิ่นและชุมชน เพื่อส่งเสริมความตระหนักเกี่ยวกับการฟื้นฟูระบบนิเวศและแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนอีกด้วย
นอกจากทัวร์เยี่ยมชมและเรียนรู้เกี่ยวกับฟาร์มแล้ว ผู้เข้าพักทุกท่านยังสามารถร่วมกิจกรรมที่น่าสนใจในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมส่องนก พายเรือคายัคชมวิวทิวทัศน์ รวมถึงกิจกรรมที่อื่นๆ อาทิเช่น การปลูกและเก็บเกี่ยวสมุนไพรและผลิตผลต่าง ๆ การวิ่งจ็อคกิ้งบนลู่วิ่งที่ใกล้ชิดธรรมชาติ โดยในขณะที่ออกกำลังกายจะได้สัมผัสและรับรู้ถึงความหลากหลายทางชีวภาพของภูมิประเทศไปพร้อมกัน นอกจากนั้น ยังมีทะเลสาบน้ำจืดที่ล้อมรอบด้วยป่าละเมาะที่เต็มไปด้วยสัตว์ป่าตามธรรมชาติ และยังมีศาลาเล่นโยคะ และบริเวณพักผ่อนที่เงียบสงบ ทำขึ้นเพื่อเป็นจุดนั่งชมความงดงามในสภาพแวดล้อมและเพื่อให้ผู้เข้าพักได้เข้าถึงธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
แอบบิห์มันยู ซิงห์ ผู้จัดการทั่วไป เจดับบลิว แมริออท เขาหลัก กล่าวว่า “หัวใจหลักของเราคือความมุ่งมั่นที่มีต่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ การท่องเที่ยวแบบยั่งยืน และสุขภาพจิตที่ดีแบบองค์รวม โดย JW Garden คือคำตอบของเรา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมพร้อมกับให้ความสำคัญกับแขกผู้เข้าพักทุกท่าน เราผนวกวิถีรักษ์โลกโดยเน้นการเก็บผลผลิตส่งตรงจากฟาร์มโดยคงความสดใหม่ให้ได้มากที่สุด (Farm-to-table) ไว้กับทุกประสบการณ์ที่ผู้เข้าพักจะได้รับ ตั้งแต่กิจกรรมต่างๆไปจนถึงการทำสปา โดยเน้นวัตถุดิบที่ได้มาจากแหล่งที่เรามั่นใจที่สุด และเรายังมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการเจริญสติและการอยู่กับปัจจุบัน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้รักธรรมชาติและส่งเสริมสุขภาพร่างกายและจิตใจที่ดี ซึ่งจะเป็นความทรงจำที่อยู่กับผู้เข้าพักของเราไปอีกนาน”
JW Garden สร้างขึ้นจากความมุ่งมั่นในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และต่อยอดความสำเร็จของศูนย์อนุบาลและอนุรักษ์ปลาฉลามกบแห่งแรกของเครือแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่เปิดตัวในรีสอร์ทไปเมื่อปีที่แล้ว จากความร่วมมือกับมูลนิธิ Oceans For All (OFA) เพื่อมุ่งเน้นการเป็นสถานอนุบาลปลาฉลามกบแห่งทะเลอันดามันที่ใกล้จะสูญพันธุ์ โดยโครงการนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรม Good Travel with Marriott Bonvoy ส่งเสริมให้ผู้เข้าพักสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับสภาพแวดล้อมทางทะเลท้องถิ่น ขณะที่เพลิดเพลินกับประสบการณ์อันล้ำค่านี้