ชไนเดอร์ อิเล็คทริค แสดงนวัตกรรมด้านการจัดการพลังงานและเทคโนโลยีดิจิทัล เสริมประสิทธิภาพและความยั่งยืนให้องค์กร

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค แสดงนวัตกรรมด้านการจัดการพลังงานและเทคโนโลยีดิจิทัล เสริมประสิทธิภาพและความยั่งยืนให้องค์กร

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ร่วมงาน Future Energy Asia and Future Mobility Asia 2024 ซึ่งจัดติดต่อกันระหว่างวันที่ 15 – 17 พฤษภาคม โดยการร่วมงานในครั้งนี้ ทางชไนเดอร์ อิเล็คทริค นอกจากจะจัดแสดงเทคโนโลยีด้านการบริหารจัดการพลังงาน และระบบอัตโนมัติ รวมถึงเปิดตัวอีวีชาร์จ รุ่นล่าสุดแล้ว ยังจัดงานสัมมนาพิเศษในหัวข้อ Transforming Energy Demand เพื่อเชื่อมโยงบรรดาผู้นำทางความคิด ผู้มีวิสัยทัศน์ ผู้เชี่ยวชาญและผู้ที่สร้างการเปลี่ยนแปลง มาร่วมเปิดมุมมองเกี่ยวกับกลยุทธ์ที่สามารถดำเนินการได้จริง เพื่อมุ่งสู่การขับเคลื่อนความยั่งยืนที่มากขึ้นเพื่ออนาคต

การร่วมงาน Future Energy Asia and Future Mobility Asia 2024 นับเป็นงานสำคัญที่ชไนเดอร์ อิเล็คทริค จัดแสดงเทคโนโลยีที่ช่วยให้องค์กรภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ สามารถทรานส์ฟอร์มไปสู่ความยั่งยืนได้ด้วยนวัตกรรมดิจิทัล ที่เป็นความเชี่ยวชาญของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค

ญาดา รุ่งเรืองวิเศษรัตน์ รองประธานกลุ่มธุรกิจ Power System ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ดูแลประเทศไทย ลาว และเมียนมา เผยว่า “การสร้างความยั่งยืนให้กับโลก จำเป็นต้องร่วมมือกันหลายภาคส่วน การทรานส์ฟอร์มธุรกิจด้วยระบบดิจิทัลช่วยสร้างความต่อเนื่อง และความยืดหยุ่นให้กับธุรกิจ อีกทั้งยังช่วยให้เห็นมุมมองเชิงลึกเพื่อเตรียมการป้องกัน และพร้อมสำหรับการปรับเปลี่ยนให้เกิดความคล่องตัวได้ดียิ่งขึ้นในอนาคต นวัตกรรมด้านดิจิทัล เข้ามาเปลี่ยนรูปแบบการทำงานและการอยู่ร่วมกัน และจะเปลี่ยนผลกระทบด้านสภาพแวดล้อมไปในทางที่ดี พร้อมขับเคลื่อนไปสู่การฟื้นฟูเศรษฐกิจ และให้ความยั่งยืนแก่พวกเราทุกคน”

ผู้ร่วมงานได้มีโอกาสเรียนรู้เกี่ยวกับบทบาทสำคัญของพัฒนาการด้านพลังงาน การเปลี่ยนกระบวนการทำงานสู่ระบบดิจิทัล นวัตกรรม และการบริหารจัดการพลังงาน รวมถึงระบบอัตโนมัติ ทั้งด้านพลังงาน สำหรับบ้าน อาคาร และสถานีชาร์จ ที่จะมีบทบาทอย่างมากในการเปลี่ยนแปลงสู่โลกที่ปล่อยคาร์บอนน้อยลง และลดปัญหาการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ

ภายในงาน ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นล่าสุด อาทิ

  • RM AirSeT มาพร้อมเซ็นเซอร์อัจฉริยะเหนือระดับด้วยเทคโนโลยี IoT สามารถมอนิเตอร์ข้อมูลไฟฟ้า และควบคุมการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการตรวจสอบประสิทธิภาพของแอปพลิเคชั่น การจ่ายไฟฟ้า ได้ในแบบเรียลไทม์ และจะช่วยให้สามารถบำรุงรักษาเชิงป้องกัน และพยากรณ์การซ่อมบำรุงได้ ผู้ดูแลสามารถตรวจสอบการทำงานทั้งหมดได้จากระยะไกล เพื่อการดำเนินการที่รวดเร็ว ความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์คือไม่ใช้ก๊าซ SF6 ในตู้และอุปกรณ์ย่อยภายในเพื่อเป็นฉนวนอีกต่อไป แต่ใช้อากาศบริสุทธิ์แทน เมื่ออุปกรณ์รั่วซึม หรือหมดอายุ จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการปรับเปลี่ยนที่จะส่งผลต่อสภาวะโลกร้อน
  • EcoStruxure™ Resource Advisor ซอฟต์แวร์โซลูชั่นที่ใช้สำหรับจัดการพลังงานและความยั่งยืน โดยแพลตฟอร์มนี้ช่วยให้บริษัทต่างๆ รวบรวม วิเคราะห์ และจัดแสดงข้อมูลด้านความยั่งยืน เพื่อเป็นการช่วยในการตัดสินใจและส่งเสริมการจัดการการทำกลยุทธ์ด้านพลังงานและความยั่งยืนแบบเฉพาะสำหรับแต่ละองค์กร เพื่อให้แต่ละองค์กรสามารถใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมมุ่งเป้าสร้างองค์กรตามแนวทางพัฒนาอย่างยั่งยืนตามมาตรฐานสากลระดับโลกพร้อมด้วย ฟีเจอร์ AI Co-Pilot ที่ช่วยในการใช้งานซอฟต์แวร์ให้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  • Unified Operation Center จาก AVEVA หรือศูนย์การดำเนินงานแบบบูรณาการ ช่วยให้สามารถเห็นมุมมองในภาพรวมของการใช้พลังงานและทรัพยากรได้ทุกที่หรือทุกไซต์งาน ทำให้สามารถกำหนดมาตรฐานของอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดได้อย่างสมบูรณ์ รวมถึงการใช้งานได้อย่างเหมาะสมเต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินงานในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น น้ำมันและก๊าซ โครงสร้างพื้นฐานและเมืองอัจฉริยะ ศูนย์ข้อมูล การเดินเรือ พลังงาน และเหมืองแร่ ได้ในแบบเรียลไทม์ และมอบข้อมูลทำงานเพื่อให้บริการตามเป้าหมายขององค์กรและเป็นแนวทางการดำเนินงานเชิงกลยุทธ์ของคุณแบบ end to end
  • PowerLogic™ P7 Protection Relay แพลตฟอร์มการป้องกันและควบคุม ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ ใช้งานง่ายขึ้นเพียงสัมผัสและปรับค่าที่ดีที่สุดให้โดยอัตโนมัติ ได้รับการออกแบบมาเพื่อความยืดหยุ่นที่เหนือชั้นและการใช้งานง่าย ทำให้มั่นใจในความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของระบบไฟฟ้ากำลัง โดดเด่นด้วยการเชื่อมต่อแบบโมดูลาร์ขั้นสูง และความสามารถในการตรวจสอบสถานะในรูปแบบออนไซต์และออนไลน์ ทั้งยังมอบความปลอดภัยสำหรับเจ้าหน้าที่ที่ดูแล ตลอดจนสินทรัพย์ ขณะเดียวกันก็เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานด้านไฟฟ้าอีกด้วย
  • Schneider Charge เครื่องชาร์จสำหรับบ้านรุ่นใหม่ รองรับไฟทั้ง 1 เฟส และ 3 เฟส สามารถตั้งเวลาชาร์จในช่วงค่าไฟถูก หรือชาร์จร่วมกับระบบพลังงานแสงอาทิตย์ได้ มาพร้อมความปลอดภัยและการออกแบบที่ติดตั้งง่าย สามารถติดตั้งอุปกรณ์รวมถึงแอปพลิเคชั่นภายในเวลาไม่กี่นาที พร้อมทั้งควบคุม ตั้งค่า และตรวจสอบการใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่นได้อีกด้วย มีให้เลือกตั้งแต่ 7.4 kW, 11 kW และ 22 kW
  • EVlink Pro DC สำหรับสถานีชาร์จ ตัวเครื่องทนทานใช้งานในสถานที่เปิดได้อย่างดี สามารถรองรับการชาร์จได้รวดเร็ว ทั้งรุ่น 60kW และรุ่น 120 ถึง 180 kW สามารถใช้งานพร้อมกันได้ถึง 2 หัวจ่ายต่อเครื่อง มาพร้อมโซลูชั่น EV Charging Expert ช่วยในเรื่องการบริหารจัดการโหลดพลังงานทั้งหมดให้เพียงพอในการชาร์จ และไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้งานพลังงานในส่วนอื่น เช่น อาคาร หรืออุปกรณ์ชาร์จตัวอื่นๆ ล่าสุด ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เตรียมเปิดตัว EVlink Pro DC แบบ 60 kW ใช้งานพร้อมกัน 2 หัวจ่าย ตัวแรกในงานอีกด้วย
  • EcoConsult
    • Power Quality Audit บริการออดิตแบบดิจิทัล แบบเรียลไทม์ โดยวิศวกรที่ชำนาญเฉพาะทางด้าน Power Quality มาพร้อมรายงานการปฏิบัติตามข้อกำหนด พร้อมคำแนะนำในการแก้ปัญหา ช่วยในการวางแผนการป้องกันการเกิด Downtime โดยไม่ได้วางแผนล่วงหน้าอย่างตรงจุด และยังทำให้ระบบไฟฟ้าทันสมัยอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย
    • Advanced Audit for Power เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานด้วยการตรวจสอบคุณภาพกำลังไฟฟ้า ช่วยตรวจสอบคุณภาพกำลังไฟฟ้าและประเมินเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดเวลาหยุดทำงาน ยืดอายุการใช้งานอุปกรณ์ และลดการปล่อยคาร์บอน

นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมงานจะสามารถพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญและชมการสาธิตในเชิงปฏิบัติการได้เช่นกัน พร้อมรับคำปรึกษาด้านประสบการณ์และปัญหาพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะ ในงาน Future Energy Asia and Future Mobility Asia 2024 ในวันที่ 15 – 17 พฤษภาคม 2567 ณ บูธ EG02 ฮอลล์ 2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

AIS ผนึกพันธมิตร จัดเวทีเสวนา ชู ครีเอเตอร์ไทย ผู้นำการเปลี่ยนแปลงบริบทการสื่อสารระดับโลก เปิดสูตรเด็ด เคล็ดลับ ต่อยอด อาชีพครีเอเตอร์ สู่ผู้ประกอบการให้เติบโตอย่างยั่งยืน

Scroll to Top