Kaspersky พบภัยคุกคามบนเว็บโจมตีธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากกว่า 36,000 รายการต่อวัน ไทยเพิ่มขึ้น 24%

Kaspersky พบภัยคุกคามบนเว็บโจมตีธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากกว่า 36,000 รายการต่อวัน ไทยเพิ่มขึ้น 24%

ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงธันวาคม 2566 โซลูชันความปลอดภัยสำหรับธุรกิจของแคสเปอร์สกี้ (Kaspersky) ตรวจพบและบล็อกภัยคุกคามทางเว็บมากกว่า 13 ล้านรายการจากในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รายงานเผยการเพิ่มขึ้น 31% เมื่อเทียบกับตัวเลขที่ตรวจพบในปี 2563

ในปี 2566 อาชญากรไซเบอร์โจมตีธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทางออนไลน์ในแต่ละวันโดยเฉลี่ย 36,552 ครั้ง

ภัยคุกคามบนเว็บหรือภัยคุกคามออนไลน์เป็นความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่อาจทำให้เกิดเหตุการณ์หรือการกระทำที่ไม่พึงประสงค์ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ภัยคุกคามบนเว็บเกิดขึ้นได้จากช่องโหว่ของผู้ใช้ นักพัฒนา ผู้ให้บริการเว็บ หรือบริการเว็บ โดยไม่คำนึงถึงเจตนาหรือสาเหตุ ผลที่เกิดจากภัยคุกคามทางเว็บอาจสร้างความเสียหายแก่บุคคลและองค์กร

ผู้ก่อภัยคุกคามมุ่งเป้าโจมตีธุรกิจในฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้น 243% ในปี 2566 เมื่อเทียบกับปี 2565 (จาก 492,567 เป็น 1,691,167 ครั้ง) บริษัทในสิงคโปร์ก็เผชิญกับภัยคุกคามทางเว็บเพิ่มขึ้น 86% (จาก 889,093 เป็น 1,653,726) ในขณะที่บริษัทในไทยมีภัยคุกคามที่เกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ตจำนวนน้อยกว่า แต่ในปี 2566 มีภัยคุกคามเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญถึง 24% (จาก 1,232,311 เป็น 1,531,430)

ตัวเลขเหล่านี้คำนวณจากผลิตภัณฑ์สำหรับธุรกิจของแคสเปอร์สกี้ที่ติดตั้งใช้งานในองค์กรธุรกิจขนาดต่างๆ

เซียง เทียง โยว ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แคสเปอร์สกี้ กล่าวว่า “ปีนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจเชิงบวกสำหรับประเทศสำคัญๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในขณะเดียวกัน การเติบโตอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจดิจิทัลที่แข็งแกร่งเหล่านี้ก็เปิดโอกาสให้กับบุคคลและบริษัท รัฐบาลส่วนใหญ่ในภูมิภาคนี้สร้างและส่งเสริมนโยบายเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลและโครงสร้างพื้นฐาน จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนสำหรับธุรกิจในประเทศที่จะต้องจัดลำดับความสำคัญในการเสริมสร้างการป้องกันทางไซเบอร์จากภัยคุกคามที่แฝงตัวทางออนไลน์ ซึ่งอาจขัดขวางประโยชน์ที่ได้รับจากการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล”

ผลการศึกษาล่าสุดเผยให้เห็นว่า องค์กรธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตระหนักถึงความสัมพันธ์ระหว่างการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้น ธุรกิจที่ตอบแบบสำรวจจำนวนมากกว่าหนึ่งในสี่ (28%) ยืนยันว่าองค์กรของตนเสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์มากขึ้น เนื่องจากความพยายามในการพลิกโฉมสู่ดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง

ผู้ตอบแบบสำรวจ 16% ระบุว่า แรงกดดันจากภายนอกให้เปิดเผยเหตุการณ์ทางไซเบอร์และการปฏิบัติตามหลักปฏิบัติด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ก็สูงขึ้นเช่นกัน

โยว กล่าวเสริมว่า “ปี 2567 ควรเป็นปีสำหรับธุรกิจต่างๆ ที่จะยกระดับความปลอดภัยทางไซเบอร์ไปข้างหน้าอีกหนึ่งก้าว เพียงไฟร์วอลล์และโซลูชันอุปกรณ์เอ็นด์พ้อยต์พื้นฐานนั้นหมดยุคไปแล้ว ด้วยข้อมูลจำนวนมหาศาล องค์กรทุกประเภทกำลังจัดการเรื่องความเสียหายต่อชื่อเสียงและการเงินอันมหาศาลจากการโจมตี โซลูชันและบริการด้านความปลอดภัยที่ชาญฉลาดและปรับเปลี่ยนได้จึงเป็นสิ่งที่ต้องการในปัจจุบัน”

กระทรวงดิจิทัลฯ ยืนยันยังไม่ระงับ “โมบายแบงก์กิ้ง” ชี้มาตรการมีผลหลัง ต.ค.นี้

Scroll to Top