มาสเตอร์การ์ด เดินหน้าเสริมแกร่งระบบนิเวศดิจิทัลในอาเซียน ประกาศความร่วมมือกับ มูลนิธิอาเซียน ผุดโครงการ ASEAN Foundation-Mastercard Cybersecurity Resilience Program มุ่งพัฒนาศักยภาพด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้แก่ภาครัฐและ SMEs ในภูมิภาค
ในยุคที่เศรษฐกิจดิจิทัลเฟื่องฟู ภัยคุกคามทางไซเบอร์ก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างน่ากังวล มาสเตอร์การ์ด ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหานี้ จึงได้ร่วมมือกับ มูลนิธิอาเซียน เปิดตัวโครงการ “ASEAN Foundation-Mastercard Cybersecurity Resilience Program” เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นไปที่ 3 แกนหลัก ได้แก่
- สร้างความตระหนักรู้: ปลุกพลังความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ให้กับทุกภาคส่วน
- พัฒนาทักษะ: จัดฝึกอบรมและพัฒนาศักยภาพด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้แก่บุคลากร
- เพิ่มขีดความสามารถด้วยเทคโนโลยี: นำเทคโนโลยีล้ำสมัย รวมถึงปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาช่วยยกระดับระบบรักษาความปลอดภัย
SMEs หัวใจหลักของเศรษฐกิจดิจิทัล
โครงการนี้ให้ความสำคัญกับธุรกิจ SMEs ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียน โดยมีสัดส่วนมากกว่า 97% ของธุรกิจทั้งหมด มาสเตอร์การ์ด จึงมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือ SMEs ให้รับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านบริการต่างๆ ดังนี้
- Mastercard Trust Center: แหล่งรวมความรู้ คู่มือ และเครื่องมือต่างๆ ที่จะช่วยให้ SMEs ป้องกันธุรกิจจากภัยไซเบอร์ได้แบบ 360 องศา
- My Cyber Risk: เครื่องมือวิเคราะห์ความเสี่ยง ช่วย SMEs ตรวจสอบจุดอ่อนของระบบ และจัดลำดับความสำคัญในการแก้ไข
- สัมมนาและเวิร์คช็อป: เพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ๆ และวิธีการรับมืออย่างมืออาชีพ
ผนึกกำลังภาครัฐ สร้างภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์
นอกจากนี้ มาสเตอร์การ์ด ยังร่วมมือกับภาครัฐอย่างใกล้ชิด เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ในระดับภูมิภาค โดยมีกิจกรรมต่างๆ เช่น
- สัมมนาออนไลน์: ถ่ายทอดความรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เพื่อรับมือกับความท้าทายด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์
- จำลองสถานการณ์วิกฤต: ฝึกซ้อมรับมือกับเหตุการณ์จริง เพื่อทดสอบระบบและประสิทธิภาพในการรับมือ
- พัฒนารายงานวิจัยและเครื่องมือ: วิเคราะห์ความเสี่ยงและแนวโน้มภัยคุกคาม เพื่อเตรียมความพร้อมอย่าง proactive
ความร่วมมือที่แข็งแกร่ง เพื่ออนาคตดิจิทัลที่ยั่งยืน
ดร.ปิติ ศรีแสงนาม ผู้อำนวยการบริหารมูลนิธิอาเซียน กล่าวว่า “โครงการ ASEAN Foundation-Mastercard Cybersecurity Resilience Program ถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ในภูมิภาคอาเซียน ภัยคุกคามทางไซเบอร์ทวีความซับซ้อนมากขึ้น เราจึงต้องช่วยเหลือประเทศสมาชิก ไม่เพียงแต่สร้างเกราะป้องกันที่แข็งแกร่ง แต่ยังต้องเพิ่มขีดความสามารถในการแบ่งปันข้อมูลและร่วมมือกันข้ามพรมแดน โครงการนี้จะช่วยให้เรามีแนวทางที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน เพื่อส่งเสริมทั้งทักษะและทรัพยากร ให้เราสามารถรับมือกับความท้าทายทางไซเบอร์ร่วมกันได้ การทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดไม่เพียงแต่ช่วยปกป้องอนาคตทางดิจิทัลของเราเท่านั้น แต่ยังช่วยให้อาเซียนยังคงมีความสามารถในการแข่งขันและมีความยืดหยุ่นในภูมิทัศน์ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย”
ภัยคุกคามใกล้ตัว อย่ารอให้สายเกินแก้
แม้เศรษฐกิจดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด แต่ภัยคุกคามทางไซเบอร์ก็รุนแรงขึ้นเช่นกัน สถิติชี้ให้เห็นว่า อาชญากรรมทางไซเบอร์ในภูมิภาคเพิ่มขึ้นถึง 82% ในช่วงปี 2564-2565 โดย SMEs มักตกเป็นเป้าหมายหลัก เนื่องจากระบบรักษาความปลอดภัยยังไม่แข็งแกร่งพอ
ในประเทศไทยเอง มีรายงานคดีอาชญากรรมทางไซเบอร์กว่า 500,000 คดี สร้างความเสียหายมูลค่ามหาศาล SME ไทย กว่า 40% ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรไซเบอร์ สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการยกระดับความปลอดภัยทางไซเบอร์
มาสเตอร์การ์ด มุ่งมั่นสร้างความเชื่อมั่นในโลกดิจิทัล
ซาฟดาร์ คาน ประธานฝ่ายภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มาสเตอร์การ์ด กล่าวว่า “การเสริมสร้างความสามารถและความเชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นสิ่งสำคัญในการรับมือกับภัยคุกคามทางดิจิทัลที่พัฒนาอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลที่เข้มแข็ง ความร่วมมือที่สำคัญนี้กับมูลนิธิอาเซียนมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างศักยภาพด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของมาสเตอร์การ์ดในการเสริมสร้างความเชื่อมั่นในโลกดิจิทัล ด้วยการริเริ่มโครงการที่มีผลกระทบต่อทั้งภาครัฐและภาค SMEs ความร่วมมือนี้จะช่วยสร้างระบบนิเวศดิจิทัลที่มีความมั่นคงและยืดหยุ่นให้กับผู้เข้าร่วมทุกคน พร้อมเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้กับบุคคลากรและกลุ่มธุรกิจ และเร่งผลักดันการเติบโตอย่างครอบคลุมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
ประเทศไทย ก้าวสำคัญสู่เศรษฐกิจดิจิทัลที่ปลอดภัย
วินนี่ วอง ผู้จัดการประจำประเทศไทยและเมียนมา มาสเตอร์การ์ด กล่าวว่า “ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในเศรษฐกิจดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งนั่นก็หมายถึงโอกาสที่มากมายมหาศาล และก็ยังชี้ให้เห็นว่าการมีมาตรการความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เข้มแข็งเป็นสิ่งจำเป็น ความร่วมมือระหว่างมาสเตอร์การ์ดและมูลนิธิอาเซียนครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ประจวบเหมาะ เนื่องจากภัยคุกคามทางไซเบอร์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านขนาดและความซับซ้อน และในขณะเดียวกัน SMEs ยังคงเป็นภาคส่วนที่สำคัญของประเทศไทย อีกทั้งภาครัฐยังมีการวางมาตรการในการส่งเสริมการเติบโตของ SMEs ให้อยู่ในวาระแห่งชาติ ความร่วมมือในครั้งนี้จึงแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของมาสเตอร์การ์ดในการส่งเสริมสภาพแวดล้อมดิจิทัลที่ปลอดภัยเพื่อให้บุคคลากรและกลุ่มธุรกิจทุกขนาดในประเทศไทยและทั่วทั้งภูมิภาคสามารถก้าวสู่โลกดิจิทัลได้อย่างมั่นใจและได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจดิจิทัล”
ผู้นำด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์
มาสเตอร์การ์ด มีบทบาทสำคัญในการผลักดันความปลอดภัยทางไซเบอร์ในระดับโลก และมีส่วนร่วมในโครงการสำคัญต่างๆ เช่น โครงการพันธมิตรระดับโลกเพื่อต่อต้านการหลอกลวงทางดิจิทัลของ UNDP และยังเป็นประธานในพันธมิตรต่อต้านการหลอกลวงระดับโลก นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับองค์กรต่างๆ ในการพัฒนาบุคลากรด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ เช่น โครงการ FlexiMasters ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยางในสิงคโปร์ และศูนย์ความเป็นเลิศด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ Indosat-Mastercard ในประเทศอินโดนีเซีย
ความร่วมมือระหว่าง มาสเตอร์การ์ด และ มูลนิธิอาเซียน นับเป็นก้าวสำคัญในการสร้างระบบนิเวศดิจิทัลที่ปลอดภัย และขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาคอาเซียนให้เติบโตอย่างยั่งยืน
#Mastercard #ASEANFoundation #Cybersecurity #DigitalEconomy #ASEAN #SMEs #CyberResilience #DigitalTrust #Partnership
–True ผนึกกำลัง AI ต้านภัยไซเบอร์! เปิดตัว “True CyberSafe” ปกป้องลูกค้าฟรี