DJI บริษัทผู้ผลิตโดรนจากจีน รอดพ้นจากการถูกแบนในสหรัฐอเมริกาอย่างฉิวเฉียด หลังจากวุฒิสภาสหรัฐฯ ผ่านร่างพระราชบัญญัติงบประมาณกลาโหมแห่งชาติ (NDAA) ซึ่งแม้จะไม่ได้ระบุห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์ของ DJI ในทันที แต่ได้กำหนดเงื่อนไขที่อาจนำไปสู่การห้ามขายภายใน 1 ปี เว้นแต่โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ จะเข้าแทรกแซง ก็มีโอกาสจะโดนแบนในทันที
เดิมที คาดว่า DJI และ Autel Robotics คู่แข่งสำคัญ จะถูกแบนในสหรัฐฯ ภายในสิ้นปี 2024 ตามบทบัญญัติ “Countering CCP Drones Act” ซึ่งมุ่งควบคุมการใช้โดรนที่ผลิตในจีน อย่างไรก็ตาม NDAA ฉบับล่าสุดไม่ได้รวมบทบัญญัติดังกล่าวไว้ แต่กลับกำหนด “เงื่อนไขบังคับ” ให้ DJI ต้องพิสูจน์ต่อ “หน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติที่เหมาะสม” ภายในหนึ่งปี เพื่อยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ของตนไม่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ
หาก DJI ไม่สามารถทำได้สำเร็จ FCC จะมีอำนาจขึ้นบัญชีดำโดรนของ DJI ภายใต้ Secure and Trusted Communication Networks Act ซึ่งหมายความว่า ไม่เพียงแต่โดรนของ DJI จะถูกห้ามไม่ให้เชื่อมต่อกับเครือข่ายในสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ FCC ยังจะไม่อนุญาตให้ใช้วิทยุสื่อสารภายในของอุปกรณ์เหล่านี้ในสหรัฐฯ อีกด้วย ซึ่งเท่ากับเป็นการปิดกั้นการนำเข้าผลิตภัณฑ์ DJI ทุกชนิด
แม้ว่ากฎหมายนี้จะไม่ได้ห้ามไม่ให้ประชาชนชาวอเมริกันใช้ผลิตภัณฑ์ DJI ที่มีอยู่ แต่ก็ไม่ได้จำกัดเฉพาะการห้ามนำเข้าโดรน DJI รุ่นใหม่เท่านั้น ผลิตภัณฑ์ DJI ทุกชิ้นที่มีวิทยุหรือกล้อง เช่น DJI Osmo Pocket 3 ก็จะถูกห้ามนำเข้าเช่นกัน (NDAA ไม่ได้ระบุเฉพาะโดรน แต่หมายถึงอุปกรณ์สื่อสารและอุปกรณ์เฝ้าระวังด้วยภาพและเสียง)
นอกจากนี้ ข้อความในร่างพระราชบัญญัติ ยังป้องกันไม่ให้ DJI ใช้ช่องโหว่ทางกฎหมาย เช่น การเปลี่ยนชื่อแบรนด์ (whitelabel) หรือการอนุญาตให้ใช้สิทธิ์เทคโนโลยี ซึ่ง DJI เคยทำกับ Anzu Robotics Raptor และ Cogito Specta โดยร่างพระราชบัญญัติระบุชัดเจนว่า FCC ต้องเพิ่ม “บริษัทสาขา บริษัทในเครือ หรือพันธมิตร” และ “นิติบุคคลใด ๆ ที่ DJI ทำข้อตกลงแบ่งปันเทคโนโลยีหรืออนุญาตให้ใช้สิทธิ์” เข้าไปในบัญชีดำด้วย
อนาคตของ DJI ในสหรัฐฯ
ร่างพระราชบัญญัติ NDAA ได้ผ่านสภาผู้แทนราษฎรแล้ว และกำลังจะถูกส่งไปยัง โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะลงนามอนุมัติ เนื่องจากเป็นกฎหมายที่สำคัญ และได้รับการสนับสนุนจากทั้งสองพรรค
ดังนั้น อำนาจในการตัดสินชะตากรรมของ DJI จึงตกอยู่กับรัฐบาลทรัมป์ ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งในปีหน้า ทรัมป์ อาจไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย หากต้องการเห็นผลิตภัณฑ์ DJI ในสหรัฐฯ ลดน้อยลง ภาระจึงตกอยู่ที่ DJI ซึ่งต้องพยายามเข้าพบทรัมป์โดยเร็ว เช่นเดียวกับ TikTok ที่กำลังเผชิญกับการถูกแบน
ก่อนหน้านี้ DJI ก็ตกเป็นเป้าตรวจสอบของสหรัฐฯ อยู่แล้ว โดยมีรายงานว่าผลิตภัณฑ์ของ DJI เริ่มถูกจำกัดการนำเข้า ทำให้ DJI ตัดสินใจส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ น้อยลง
DJI ได้แสดงความคิดเห็นผ่านบล็อกของบริษัท โดยระบุว่า การที่ NDAA ไม่ได้ระบุห้ามผลิตภัณฑ์ DJI โดยตรง ถือเป็น “ข่าวดี” แต่ก็แสดงความกังวลว่ารัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเลือกปฏิบัติ และกฎหมายไม่ได้ระบุหน่วยงานใดให้รับผิดชอบในการประเมินความเสี่ยง
#DJI #โดรน #ความมั่นคงแห่งชาติ #สหรัฐอเมริกา #NDAA #FCC #TikTok #จีน #เทคโนโลยี #ภัยคุกคามไซเบอร์ #ทรัมป์
ที่มา engadget.com , theverge.com
–realme 14 Pro series พลิกโฉมวงการสมาร์ทโฟน เปิดตัวนวัตกรรมฝาหลังเปลี่ยนสีได้