ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย เผย 5 เทรนด์ AI สำคัญที่ธุรกิจไทยต้องจับตาในปี 2568 ชี้ AI กำลังพัฒนาอย่างก้าวกระโดด พร้อมเข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำงานและชีวิตประจำวัน องค์กรต้องเร่งปรับตัว เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และควบคุมการใช้งาน AI อย่างมีจริยธรรม
ธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า AI กำลังเติบโตแบบก้าวกระโดด และจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ โดย 5 เทรนด์ AI ที่น่าจับตามองในปี 2568 ได้แก่
1. Scaling Laws: AI ยกระดับศักยภาพ เติบโตแบบก้าวกระโดด
AI กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว ฉีกกฎการเติบโตแบบเดิมๆ คาดการณ์ว่า AI จะเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณในทุกๆ ครึ่งปี ด้วยประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์ที่ทรงพลัง และการนำเทคนิคใหม่ๆ มาใช้กับข้อมูลและอัลกอริทึม องค์กรต่างๆ จึงต้องเร่งปรับตัว นำ AI มาใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
รายงานของ IDC ประจำปี 2567 ระบุว่า 60% ขององค์กรทั่วโลก วางแผนที่จะนำ AI เข้ามาใช้ในธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบใน 2 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการศึกษา สุขภาพ และการเงิน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของ AI ในการขับเคลื่อนธุรกิจในยุคปัจจุบัน
“ภายในเวลาไม่ถึง 2 ปีที่ผ่านมา AI มีพัฒนาการที่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว สามารถช่วยทำงานที่ซับซ้อน และเข้าใจการสื่อสารได้เหมือนกับมนุษย์อย่างเป็นธรรมชาติ สร้างโอกาสและประโยชน์อย่างมหาศาล เราจะเริ่มเห็นความแตกต่างของคนที่ใช้ AI กับคนที่ไม่ใช้มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในปัจจุบัน AI เป็นเทคโนโลยีที่ทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้งานได้”
2. Agentic World: AI Agent ผู้ช่วยคนใหม่ในองค์กร
AI Agent จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำงาน ช่วยแบ่งเบาภาระงาน Routine Work ให้พนักงานมีเวลาโฟกัสกับงานที่สำคัญกว่า และช่วยให้องค์กรใช้ทรัพยากรบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างเช่น ในธุรกิจธนาคาร AI Agent สามารถช่วยตรวจสอบความถูกต้องและครบถ้วนของเอกสาร ตรวจสอบข้อมูลลูกค้า และแจ้งเตือนพนักงานเมื่อพบข้อผิดพลาด ซึ่งช่วยลดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
3. Multimodal AI: AI ยุคใหม่ ทำงานข้ามสื่อ เข้าใจมนุษย์มากขึ้น
AI ในอนาคตจะสามารถประมวลผลข้อมูลจากสื่อหลากหลายประเภท เช่น ข้อความ รูปภาพ และเสียง เพื่อให้เข้าใจบริบทได้อย่างครบถ้วน และสื่อสารกับมนุษย์ได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น
ปัจจุบัน Copilot ของไมโครซอฟท์ รองรับการป้อนข้อมูลด้วยข้อความ เสียง และรูปภาพ รวมถึงมีฟีเจอร์ใหม่ๆ เช่น Voice Recognition และ Sora ที่ช่วยสร้างวิดีโอจากข้อความ ซึ่งจะช่วยสร้างสรรค์บริการใหม่ๆ และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
4. Data Security: ความปลอดภัยของข้อมูล หัวใจสำคัญของการใช้ AI
การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจาก AI สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทั้งหมด องค์กรจึงต้องระมัดระวังในการแบ่งปันข้อมูล และกำหนดแนวทางการจัดการข้อมูล (data governance) เพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล
ไมโครซอฟท์ แนะนำ 4 แนวทางในการเตรียมข้อมูลสำหรับการใช้งาน AI คือ การรู้จักข้อมูล การควบคุมข้อมูล การปกป้องข้อมูล และการป้องกันการสูญเสียข้อมูล พร้อมนำเสนอเครื่องมือ Microsoft Purview เพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยข้อมูลแบบเรียลไทม์
5. Responsible AI: จริยธรรม AI สำคัญที่สุด
การใช้ AI อย่างมีจริยธรรม เป็นธรรม และมีความรับผิดชอบ เป็นสิ่งสำคัญ ไมโครซอฟท์ มุ่งเน้นการใช้ AI อย่างโปร่งใส เป็นธรรม และปลอดภัย พร้อมกำหนดมาตรการ AI Guardrail เพื่อป้องกันการใช้งาน AI ในทางที่ผิด เช่น การละเมิดความเป็นส่วนตัว การก่ออาชญากรรม หรือการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ
ธนวัฒน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “AI ไม่ใช่กระแสของเทคโนโลยี แต่เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ในการพลิกโฉมธุรกิจ ปลดล็อคข้อจำกัดและสร้างขีดความสามารถการแข่งขันใหม่ๆ หัวใจสำคัญในการนำ AI เข้าไปใช้งานคือ ผู้บริหารจะต้องให้การสนับสนุน มีการกำหนดกลยุทธ์การใช้ AI ที่ชัดเจน เพิ่มทักษะและจัดหาเครื่องมือที่เหมาะสมให้กับพนักงาน รวมถึงมีมาตรการการควบคุม เพื่อให้ใช้ AI ได้เกิดประโยชน์สูงสุดและมีความรับผิดชอบ”
#AI #เทรนด์AI #ไมโครซอฟท์ #ธุรกิจ #เทคโนโลยี #นวัตกรรม #DataSecurity #ResponsibleAI #AI Agent #MultimodalAI #ScalingLaws
–Gen AI ปฏิวัติโลกดิจิทัลปี 2025 พร้อมความท้าทายด้านจริยธรรมและธรรมาภิบาล