ปรากฏการณ์ “Luxumer” ของคนไทยกำลังเป็นที่จับตามอง แม้ในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน แต่สินค้าและบริการหรูหรา กลับได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) ได้ทำการวิจัยในหัวข้อ “Unstoppable Luxumer เจาะอินไซต์ หยุดไม่ได้ใจมันลักซ์” เผยให้เห็นถึงพฤติกรรมติดหรูของคนไทย พร้อมวิเคราะห์โอกาสทางธุรกิจ และเทรนด์ที่น่าจับตามองในปี 2025
ผศ.ดร.สุเทพ นิ่มสาย หัวหน้าสาขาการจัดการ และกลยุทธ์การตลาด CMMU เปิดเผยว่า โลกแห่ง “ความลักซ์” ในปัจจุบันไม่ได้จำกัดอยู่แค่สินค้าแบรนด์เนมเท่านั้น แต่ขยายไปสู่สินค้าและบริการรอบตัว ที่มาพร้อมภาพลักษณ์พรีเมียม และราคาที่สูงกว่าสินค้าทั่วไป โดย 5 อันดับสินค้าและบริการหรูที่ได้รับความนิยม ได้แก่
- อาหารและเครื่องดื่มพรีเมียม ชาว Luxumer ให้ความสำคัญกับรสชาติ วัตถุดิบชั้นเลิศ บรรยากาศร้าน และแพคเกจจิ้งที่สวยงาม เพื่อสะท้อนรสนิยมและสถานะทางสังคม
- บัตรคอนเสิร์ต การแสดง และกีฬาแมตช์สำคัญ ชาว Luxumer พร้อมจ่ายเพื่อแลกกับประสบการณ์สุดพิเศษ เช่น การชมการแสดงแบบริงไซด์ การได้ใกล้ชิดศิลปิน หรือการได้อยู่ในโซน VIP
- ท่องเที่ยวแบบหรูหรา ชาว Luxumer นิยมท่องเที่ยวต่างประเทศ บินด้วยชั้น Business Class พักโรงแรม 5 ดาว และร่วมทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ พร้อมแชร์ไลฟ์สไตล์ผ่านโซเชียลมีเดีย
- บริการด้านสุขภาพและความงาม ชาว Luxumer ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ จึงเลือกใช้บริการสปา คอร์สดูแลผิวพรรณ และโปรแกรมฟิตเนสระดับพรีเมียม
- สินค้าหรูแบบ Niche ของสะสม งานศิลปะ สินค้าหายาก หรือ Limited Edition กำลังเป็นที่นิยม เนื่องจากสะท้อนรสนิยมและตัวตน
“เหตุผลที่ชาว Luxumer ยอมจ่ายแพง เพราะพวกเขามองว่าสิ่งเหล่านี้เป็นการลงทุนในประสบการณ์ มากกว่าแค่การซื้อสินค้าหรือบริการ” ผศ.ดร. สุเทพ กล่าว
“ไม่ต้องรวยก็หรูได้ ถ้าใจมันลักซ์”
ที่น่าสนใจคือ การเติบโตของตลาดหรูไม่ได้จำกัดอยู่แค่กลุ่มผู้มีรายได้สูงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการแสดงออกถึงรสนิยม และไลฟ์สไตล์ ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มผู้มีรายได้น้อย มักนิยมสินค้าหรูประเภทอาหารและเครื่องดื่ม ในขณะที่กลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางถึงสูง มักเลือกซื้อสินค้าแฟชั่น เครื่องสำอาง และน้ำหอมแบรนด์เนม
“ระดับความหลงใหลในวัตถุนิยม ไม่ได้แตกต่างกันในแต่ละระดับรายได้ แสดงให้เห็นว่า ‘รายได้’ ไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ แต่ ‘ความพึงพอใจ’ ต่างหากที่เป็นตัวขับเคลื่อนการใช้จ่าย” ผศ.ดร.สุเทพ อธิบาย
“ลงทุนในความลักซ์ – จ่ายวันนี้ คุ้มวันหน้า”
มุมมองต่อสินค้าหรู เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต ปัจจุบัน สินค้าหรูหลายประเภท กลายเป็นของสะสมที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น เช่น กระเป๋าแบรนด์เนม นาฬิกาหรู หรือของ Limited Edition ชาว Luxumer จึงมองว่า การซื้อสินค้าหรูเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
เทรนด์ตลาดหรู โตสวนกระแสเศรษฐกิจ
CMMU คาดการณ์ว่า ตลาดสินค้าและบริการหรู จะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2025 โดยมีเทรนด์ที่น่าสนใจ ดังนี้
- การตลาดเชิงอารมณ์ มุ่งเน้น “ความรู้สึก” และคุณค่าทางจิตใจ มากกว่าประโยชน์ใช้สอย
- เทรนด์หรูรักษ์โลก สินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จะได้รับความนิยมมากขึ้น
- ตลาดหรูมือสอง เติบโตขึ้น ด้วยแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่ช่วยให้เข้าถึงสินค้าหรูได้ง่ายขึ้น
- ธุรกิจเช่าความหรู เฟื่องฟู ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์หรู โดยไม่ต้องซื้อขาด
กลยุทธ์ “PREMIUM” พิชิตใจชาว Luxumer
CMMU แนะนำกลยุทธ์ “PREMIUM” สำหรับธุรกิจที่ต้องการเจาะตลาดหรู ดังนี้
- P – Privilege: มอบสิทธิพิเศษ เช่น การเข้าถึงสินค้าใหม่ก่อนใคร หรือบริการเฉพาะบุคคล
- R – Rare: นำเสนอสินค้าหายาก Limited Edition หรือ Made by order
- E – Emotional: สร้างความผูกพันทางอารมณ์ โดยใช้เรื่องราว เชื่อมโยงกับแบรนด์
- M – Memorable: สร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ เช่น กิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ
- I – Innovation: นำเสนอนวัตกรรม เช่น การใช้ AI เพื่อออกแบบสินค้า
- U – Unique: สร้างสรรค์สินค้าที่มีเอกลักษณ์ แตกต่าง และสะท้อนรสนิยม
- M – Motivation: เชื่อมโยงแบรนด์กับเป้าหมาย และความสำเร็จของลูกค้า
สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อ วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) โทร. 02-206-2000 หรือ Facebook Page: CMMU Mahidol (https://www.facebook.com/CMMUMAHIDOL)
#CMMU #Luxumer #LuxuryTrend #LuxuryMarketing #PremiumStrategy #เศรษฐกิจ #การตลาด #ธุรกิจ #แบรนด์เนม #สินค้าหรู #บริการหรู #เทรนด์ #พรีเมียม
–2024 ปีแห่งการปลดพนักงาน: 10 ยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีเลิกจ้างพนักงานกว่า 5 หมื่นตำแหน่ง