งาน Consumer Electronics Show (CES) ประจำปี 2025 ณ ลาสเวกัส ซึ่งเป็นหนึ่งในงานแสดงเทคโนโลยีที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก และยังเป็นเวทีสำคัญที่ผู้นำด้านเทคโนโลยีจากทั่วโลกมารวมตัวกัน เพื่อจัดแสดงนวัตกรรมล้ำสมัย สะท้อนให้เห็นถึงวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีที่กำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ไม่ว่าจะเป็น แว่นตาอัจฉริยะ หุ่นยนต์ AI หน้าจอขนาดยักษ์ รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ และเทคโนโลยีอื่น ๆ อีกมากมาย
ในบทความนี้จะพามาดู 5 เทรนด์เทคโนโลยีที่น่าสนใจจากงาน CES 2025 หลังได้ปิดฉากลงไปแล้ว
1. แว่นตาอัจฉริยะ (Smart Glasses) ก้าวล้ำไปอีกขั้น
งานในครั้งนี้ได้มีการเผยโฉมแว่นตาอัจฉริยะรุ่นใหม่จากหลากหลายแบรนด์ดัง ไม่ว่าจะเป็น XREAL, TCL และ Rokid ซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญของ Meta Ray Ban โดยเน้นการผสานรวมเทคโนโลยี AI เข้ากับแว่นตาอัจฉริยะ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่เหนือชั้นยิ่งขึ้น เช่น การแปลภาษาแบบเรียลไทม์ ผู้ช่วยเสียงดิจิทัล และการจดจำวัตถุ
XREAL ได้ร่วมมือกับ BMW เพื่อนำเสนอแว่นตา AR ที่ช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่ ขณะที่ Rokid สาธิตการแปลภาษาอังกฤษเป็นภาษาเกาหลีแบบเรียลไทม์ผ่านแว่นตา
แว่นตาอัจฉริยะรุ่นใหม่นี้ มีดีไซน์ที่เบาขึ้น ความละเอียดหน้าจอที่คมชัด รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้หลากหลาย และมาพร้อมฟีเจอร์ขั้นสูง ตอบโจทย์การใช้งานทั้งด้านเกม ความบันเทิง และการทำงาน
2. หุ่นยนต์ AI ไม่ได้เป็นเพียงแค่จินตนาการ
ปีนี้ถือเป็นปีแห่งความก้าวหน้าของเทคโนโลยีหุ่นยนต์อย่างแท้จริง โดยเฉพาะหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ (Humanoid Robot) ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งสามารถ สบตา พูดคุย และแสดงท่าทางต่าง ๆ ได้ใกล้เคียงมนุษย์มากขึ้น
Realbotix ได้นำเสนอหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่ทำงานบนแพลตฟอร์มแบบเปิด (Open-source platform) ซึ่งหมายความว่าสามารถใช้งานร่วมกับ AI จากภายนอกได้ เช่น ChatGPT ขณะที่Unitree ซึ่งเคยโด่งดังจากหุ่นยนต์สุนัข ก็ได้เปิดตัวหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์รุ่นใหม่ เช่นเดียวกับ SSI Schaeffer ที่นำเสนอหุ่นยนต์สำหรับงานโลจิสติกส์ ซึ่งอาจนำไปใช้ประโยชน์ในธุรกิจขนส่งสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ได้ในอนาคต
นอกจากนี้ ยังมีหุ่นยนต์ AI สำหรับใช้งานภายในบ้าน เช่น หุ่นยนต์เพื่อน หุ่นยนต์ผู้ช่วยด้านสุขภาพ และหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นใหม่ ที่สามารถหยิบสิ่งของต่าง ๆ ได้ เช่น
Mirokaï หุ่นยนต์ผู้ช่วยอัจฉริยะ
Enchanted Tools เปิดตัว Mirokaï หุ่นยนต์ผู้ช่วยอเนกประสงค์ที่มาพร้อมกับความสามารถหลากหลาย ทั้งการโต้ตอบ การติดตาม การหยิบจับ และการขนส่ง ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ทำให้ Mirokaï สามารถนำไปใช้งานได้ในหลากหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็น โรงพยาบาล ร้านค้าปลีก โรงแรม และบ้านพักคนชรา จุดเด่นของ Mirokaï คือใบหน้าที่แสดงอารมณ์แบบเรียลไทม์ ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกเป็นมิตรและมีส่วนร่วม นอกจากนี้ Mirokaï ยังมีมือจับที่เชื่อมต่อกัน นิ้วโป้งที่เคลื่อนไหวได้ และอัตราความสำเร็จในการหยิบจับสูงถึง 97% ช่วยให้หุ่นยนต์สามารถปรับตัวเข้ากับงานและสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย อีกทั้งยังมีลูกบอลกลิ้งที่ช่วยให้เคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วและอิสระ รวมถึงดีไซน์ที่กะทัดรัด ไม่กินพื้นที่ จึงไม่เป็นอุปสรรคในการทำงาน
Reachy 2 หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ควบคุมด้วย VR
Pollen Robotics อวดโฉม Reachy 2 หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์รุ่นใหม่ที่สามารถควบคุมแขน มือ และศีรษะ ผ่านอุปกรณ์ VR โดยผู้ใช้งานสามารถมองเห็นสิ่งที่ Reachy เห็นผ่านชุดหูฟัง VR และควบคุมการเคลื่อนไหวของหุ่นยนต์ได้อย่างอิสระ Reachy 2 ยังมีฐานเคลื่อนที่อัตโนมัติ ช่วยให้เคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ เหมาะสำหรับการใช้งานในสำนักงาน บ้าน โรงพยาบาล หรือร้านค้า Reachy 2 มีแขนที่สามารถยกวัตถุได้ประมาณ 6.5 ปอนด์ โดยนักพัฒนาได้ออกแบบให้แขนมีขนาด สัดส่วน และการเคลื่อนไหวคล้ายกับแขนของมนุษย์
Booster T1 หุ่นยนต์นักกีฬา
Booster Robotics เรียกเสียงฮือฮาจากผู้เข้าชมงานด้วยการโชว์ความสามารถของ Booster T1 หุ่นยนต์ที่คล่องแคล่วว่องไว สามารถเดิน ก้มตัว วิดพื้น และเต้นได้ นอกจากนี้ T1 ยังสามารถเตะฟุตบอลและเล่นกังฟูได้อีกด้วย
X30 หุ่นยนต์สุนัขพันธุ์แกร่ง
Deep Robotics โชว์ความแข็งแกร่งและความสามารถของ X30 หุ่นยนต์สุนัข 4 ขาที่มาพร้อมล้อ ช่วยให้เคลื่อนที่ได้อย่างราบรื่นทั้งบน 2 ขาและ 4 ขา X30 ออกแบบมาเพื่อใช้งานในภาคอุตสาหกรรม เช่น การตรวจสอบ การสืบสวน การรักษาความปลอดภัย การสำรวจ และการทำแผนที่ X30 สามารถนำทางและทำงานได้เองในสภาพแวดล้อมที่ khắc nghiệt เช่น ในที่มืด แสงจ้า อุณหภูมิสูงและต่ำ รวมถึงสามารถขึ้นลงบันไดได้อย่างคล่องแคล่ว
Ameca หุ่นยนต์ AI สุดสมจริง
WAIYS and Engineered Arts ร่วมกันพัฒนา Ameca หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่สามารถโต้ตอบกับผู้คนและตอบคำถามได้อย่างเป็นธรรมชาติ Ameca ผสมผสานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ากับร่างกายเทียม ออกแบบมาเพื่อเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์ในอนาคต Engineered Arts กล่าวว่า “Ameca เป็นแพลตฟอร์มหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการโต้ตอบระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์”
3. หน้าจอทีวี ใหญ่สะใจกว่าเดิม
งานในปีนี้กลับมาสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้เข้าชมงานอีกครั้ง ด้วยเทคโนโลยีหน้าจอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หน้าจอทีวีขนาดยักษ์
งาน CES 2025 เวทีแสดงเทคโนโลยีระดับโลก ได้เผยโฉมทีวีรุ่นใหม่ล่าสุดจากหลากหลายแบรนด์ดัง พร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำ ที่จะยกระดับประสบการณ์การรับชมสู่มิติใหม่ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอขนาดมหึมา ความสว่างที่เพิ่มขึ้น สีสันที่สดใสสมจริง และเทคโนโลยีลดแสงสะท้อน ที่ช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับภาพยนตร์และรายการโปรดได้อย่างเต็มอิ่ม
TCL QM6K: Mini LED คุณภาพสูง ในราคาที่จับต้องได้
TCL เปิดตัว QM6K ทีวี Mini LED ระดับเริ่มต้นที่มาพร้อมฟีเจอร์ครบครัน ในราคาสุดคุ้ม โดยรุ่น 65 นิ้ว ราคาเพียง 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และพิเศษสุดสำหรับผู้ที่สั่งจองล่วงหน้า รับฟรีทันที Q75H Dolby Atmos soundbar มูลค่า 599 ดอลลาร์สหรัฐฯ
QM6K ถือเป็นทีวีรุ่นใหม่ที่น่าจับตามอง ด้วยเทคโนโลยี Mini LED ที่ให้ภาพคมชัด สีสันสดใส และระบบ backlight ที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น ลดปัญหาแสง blooming รอบวัตถุสว่าง TCL QM6K มีให้เลือกหลายขนาดตั้งแต่ 50 นิ้ว ไปจนถึง 98 นิ้ว โดยรุ่น 65 นิ้ว 75 นิ้ว และ 85 นิ้ว เปิดให้สั่งจองล่วงหน้าแล้ววันนี้
Samsung S95F: OLED ทีวี สุดล้ำ จอรัศมีต่ำ สว่างยิ่งกว่าเดิม
Samsung เผยโฉม S95F ทีวี OLED รุ่นเรือธง ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีลดแสงสะท้อน ต่อยอดความสำเร็จจาก S95D ด้วยประสิทธิภาพการลดแสงสะท้อนที่ดียิ่งขึ้น ช่วยแก้ปัญหาหน้าจอสะท้อนแสงในห้องที่มีแสงสว่างมาก ให้คุณรับชมทีวีได้อย่างสบายตา แม้ในเวลากลางวัน
S95F ยังมาพร้อมกับหน้าจอที่สว่างขึ้น คาดว่าจะสูงถึง 2,000 nits ซึ่งจะทำให้ทีวีรุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการรับชมภาพยนตร์ HDR นอกจากนี้ Samsung ยังได้เปิดตัวฟีเจอร์ “Vision AI” ที่ใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการค้นหา และการปรับแต่งภาพและเสียง รวมถึงฟังก์ชันใหม่ๆ เช่น การแสดงข้อมูลเกี่ยวกับนักแสดงและสินค้าในเนื้อหาที่กำลังรับชม และฟังก์ชันแปลภาษาแบบเรียลไทม์
S95F มีกำหนดวางจำหน่ายในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ในขนาด 55 นิ้ว 65 นิ้ว 77 นิ้ว และ 83 นิ้ว
นอกจากนี้ยังมี Samsung Frame Pro ทีวีที่ผสมผสานดีไซน์อันหรูหรา เข้ากับเทคโนโลยีภาพสุดล้ำ โดดเด่นด้วยดีไซน์ไร้ขอบ ติดตั้งแนบผนัง พร้อมกรอบแม่เหล็กที่สามารถเปลี่ยนได้ และหน้าจอแบบด้านที่ให้ความรู้สึกเหมือนผืนผ้าใบ ทำให้ Frame Pro ดูเหมือนภาพวาดบนผนัง เมื่อไม่ได้ใช้งานเป็นทีวี
Frame Pro รุ่นใหม่นี้ มาพร้อมกับเทคโนโลยี Mini LED backlight ที่ช่วยให้ภาพสว่างขึ้น คอนทราสต์สูงขึ้น และรองรับ refresh rate สูงสุด 144Hz เอาใจคอเกม นอกจากนี้ Samsung ยังได้เพิ่ม Wireless connect box ที่ช่วยให้คุณเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอกกับทีวีแบบไร้สาย โดยไม่ต้องมีสายเคเบิลให้เกะกะ
Frame Pro มีกำหนดวางจำหน่ายในปีนี้ ในขนาด 65 นิ้ว 75 นิ้ว และ 85 นิ้ว
Panasonic Z95B: OLED ทีวี สีสันสมจริง สว่างสดใส ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด
Panasonic กลับมาตีตลาดทีวีในสหรัฐอเมริกาอีกครั้ง พร้อมเปิดตัว Z95B ทีวี OLED รุ่นเรือธง ที่ใช้ Primary RGB Tandem OLED Panel เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการแสดงผลสี และความสว่าง ให้ภาพคมชัด สีสันสมจริง และยังคงคอนทราสต์ระดับอนันต์ ที่เป็นจุดเด่นของ OLED ทีวี
Z95B มีกำหนดวางจำหน่ายในปีนี้ ในขนาด 55 นิ้ว 65 นิ้ว และ 77 นิ้ว
Hisense 116UX: ทีวีจอยักษ์ 116 นิ้ว สว่างสุดขีด ด้วยเทคโนโลยี RGB local dimming
Hisense เปิดตัว 116UX ทีวีจอยักษ์ 116 นิ้ว ที่มาพร้อมเทคโนโลยี RGB local dimming ที่ใช้หลอด LED สีแดง น้ำเงิน และเขียว ในการสร้างสี แทนการใช้ backlight สีขาวหรือสีน้ำเงิน พร้อมฟิลเตอร์สี เทคโนโลยีนี้ ช่วยให้ทีวีแสดงผลสีได้กว้างขึ้น แม่นยำขึ้น ภาพสว่างขึ้น และควบคุมแสง dimming ได้อย่างแม่นยำ เพื่อคอนทราสต์ที่สูงขึ้น Hisense ระบุว่า ทีวีรุ่นนี้มีความสว่างสูงสุดถึง 10,000 nits
116UX มีกำหนดวางจำหน่ายภายในปี 2025
รวมถึงยังประกาศวางจำหน่าย Hisense 136MX ทีวี MicroLED ขนาด 136 นิ้ว รุ่นแรก ที่พร้อมวางจำหน่ายสู่ตลาดผู้บริโภค ทีวีรุ่นนี้ ประกอบด้วยแผงโมดูลาร์หลายแผง ที่เชื่อมต่อกัน เพื่อสร้างหน้าจอขนาดใหญ่ พร้อมหลอด LED ขนาดเล็ก 24.88 ล้านหลอด ให้คอนทราสต์ระดับพิกเซล สีดำสนิท ไม่มีปัญหา burn-in และมีความสว่างสูงสุดถึง 10,000 nits
4. AI ยังคงเป็นเทคโนโลยีหลักที่ขับเคลื่อนอนาคต
AI ยังคงเป็นเทคโนโลยีสำคัญ ที่ถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ อย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มคุณภาพของภาพทีวี ระบบจดจำใบหน้าเพื่อความปลอดภัย และการปรับปรุงบริการด้านสุขภาพ
CES 2024 เน้นการรวม Large Language Models (LLMs) เข้ากับอุปกรณ์ต่าง ๆ ผ่านผู้ช่วยเสียงและหุ่นยนต์ที่เชื่อมต่อกับคลาวด์ แต่ CES 2025 มุ่งเน้นไปที่โครงสร้างพื้นฐานที่มีต้นทุนต่ำและประหยัดพลังงาน เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการ AI ที่ดีที่สุด
NVIDIA ประกาศให้ความสำคัญกับหน่วยประมวลผล AI ในกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภค ขณะที่คู่แข่งอย่าง DeepX มุ่งเน้นการพัฒนา AI ที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ใช้พลังงานต่ำ สำหรับซอฟต์แวร์และอุปกรณ์ SK Telecom และ Gigabyte ก็นำเสนอโครงสร้างพื้นฐาน AI ของตัวเอง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งมอบ AI
5. รถยนต์อัจฉริยะ (Software Defined Vehicle) คืออนาคตของยานยนต์
ผู้ผลิตรถยนต์ ต่างตระหนักว่า ระบบสาระบันเทิงขั้นสูง (Infotainment System) คือกุญแจสำคัญในการสร้างความแตกต่าง
BMW ร่วมมือกับ TiVo เพื่อพัฒนาระบบสาระบันเทิงในรถยนต์ ขณะที่ Samsung ร่วมมือกับ Harman เพื่อสาธิตระบบสาระบันเทิง ที่สามารถปรับแต่งประสบการณ์การขับขี่ให้เป็นส่วนตัว เชื่อมต่อกับโทรศัพท์ เพลง GPS และเครื่องมืออื่น ๆ
ความสำคัญของระบบสาระบันเทิง เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากบริษัทอย่าง Waymo และ Mobileye กำลังพัฒนาซอฟต์แวร์ขับขี่อัตโนมัติ ที่ทำให้ประสบการณ์การเดินทางในรถยนต์ เปลี่ยนจาก “การขับขี่” เป็น “การโดยสาร”
รถยนต์อัจฉริยะ จะสร้างข้อมูลจำนวนมหาศาล ซึ่งจะเพิ่มความต้องการเครือข่ายการเชื่อมต่อ บริษัท DIMO จึงมุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากข้อมูลเหล่านี้ เพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกแก่เจ้าของรถ
CES 2025 ไม่ใช่แค่เพียงงานแสดงเทคโนโลยี แต่เป็นโอกาสในการสำรวจ และนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาปรับใช้เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ ให้ดียิ่งขึ้น
ที่มา manufacturingdigital.com , libertyglobal.com , tomorrowsworldtoday.com , businessinsider.com