ไมเนอร์ โฮเทลส์ (Minor Hotels) ยักษ์ใหญ่ในวงการโรงแรมระดับโลก ประกาศเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เผยโรดแมปสู่เป้าหมายสำคัญ คือ การเพิ่มจำนวนโรงแรมในพอร์ตโฟลิโอให้ทะลุ 850 แห่งทั่วโลกภายในปี 2570 โดยมีไทม์ไลน์การดำเนินงานที่น่าสนใจ ดังนี้
ปัจจุบัน:
- มีโรงแรมและรีสอร์ทในเครือกว่า 560 แห่งทั่วโลก คิดเป็นห้องพักรวมกว่า 81,000 ห้อง โดยกว่า 50% ตั้งอยู่ในทวีปยุโรป
ภายใน 3 ปีข้างหน้า (2568 – 2570):
- เปิดโรงแรมใหม่กว่า 300 แห่ง เพิ่มจำนวนห้องพักอีกกว่า 47,000 ห้อง
- ขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ โดยเฉพาะในตลาดที่มีศักยภาพสูง เช่น อเมริกาเหนือ เอเชียเหนือ โมร็อกโก อียิปต์ ตุรกี และอินเดีย เพื่อสร้างความสมดุลในพอร์ตโฟลิโอ
- เสริมความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์โรงแรมในระดับลักชูรีและพรีเมียม เช่น อนันตรา (Anantara), ทิโวลี (Tivoli), เอเลวาน่า คอลเลคชั่น (Elewana Collection), เอ็นเอช คอลเลคชั่น (NH Collection), อวานี (Avani) และ นาว (nhow)
- เปิดตัวโรงแรมใหม่ในกลุ่มลักชูรีแบรนด์ และยกระดับมาตรฐานโรงแรมหรูที่มีอยู่เดิม เช่น การปรับปรุงครั้งใหญ่ของอนันตรา หัวหิน รีสอร์ท
- ปรับโครงสร้างแบรนด์ ภายใต้กลยุทธ์มาสเตอร์แบรนด์รูปแบบใหม่ พร้อมเปิดตัวแบรนด์โรงแรมใหม่ 2 แบรนด์ เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจ
- ขยายพอร์ตโฟลิโอที่พักอาศัยแบบเรสซิเดนซ์ ทั้งในรูปแบบที่เป็นส่วนหนึ่งของรีสอร์ท และโครงการแบบสแตนด์อโลนในเมืองสำคัญ ๆ อาทิ ลายัน เรสซิเดนเซส บาย อนันตรา (Layan Residences by Anantara) ในภูเก็ต, โครงการเรสซิเดนซ์ใน อนันตรา อูบุด บาหลี รีสอร์ท (Anantara Ubud Bali Resort), และโครงการในยุโรป เอเชีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา เช่น ราสอัลไคมาห์ (Ras Al Khaimah), ชาร์จาห์ (Sharjah), โอมาน (Oman) และแทนซาเนีย (Tanzania)
ปี 2568:
- เปิดตัวโรงแรมใหม่หลายแห่งทั่วโลก อาทิ
- โรงแรมทิโวลี คอปเก ปอร์โต ไกอา (Tivoli Kopke Porto Gaia Hotel) ในประเทศโปรตุเกส (เดือนกุมภาพันธ์)
- นาว โรม (nhow Rome) ในอิตาลี (ไตรมาส 2)
- อวานีพลัส บาร์บารอน เซเชลส์ รีสอร์ท (Avani+ Barbarons Seychelles Resort) ในเซเชลส์ (ไตรมาส 3)
- อนันตรา คาฟิว ริเวอร์ แซมเบีย เต็นท์ แคมป์ (Anantara Kafue River Zambia Tented Camp) ในแซมเบีย (ไตรมาส 3)
- เอ็นเอช คอลเลคชั่น มัลดีฟส์ รีธิ รีสอร์ท (NH Collection Maldives Reethi Resort) ในมัลดีฟส์ (ไตรมาส 4)
ภายในปี 2570:
- บรรลุเป้าหมายโรงแรมในเครือ 850 แห่งทั่วโลก
- ปรับสัดส่วนพอร์ตโฟลิโอ จากทรัพย์สินที่เป็นเจ้าของและเช่า 70% เป็น 50-50 ด้วยกลยุทธ์ “Asset Right”
กลยุทธ์สำคัญที่ไมเนอร์ โฮเทลส์ ใช้เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ ประกอบด้วย
- การส่งมอบประสบการณ์การบริการรูปแบบใหม่ โดยต่อยอดความเชี่ยวชาญด้านการบริการระดับลักชูรี
- การพัฒนาโครงสร้างแบรนด์ ให้มีความแข็งแกร่ง และตอบโจทย์ตลาด
- กลยุทธ์การบริหารสินทรัพย์แบบ “Asset Right” มุ่งเน้นการสร้างสมดุลระหว่างการเป็นเจ้าของ การเช่า การบริหารจัดการ และแฟรนไชส์ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและกระจายความเสี่ยง
- การขยายโครงการที่พักอาศัยแบบเรสซิเดนซ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่หลากหลาย
ดิลิป ราชากาเรีย (Dillip Rajakarier) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไมเนอร์ โฮเทลส์ กล่าวว่า บริษัทยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนการเติบโตเชิงกลยุทธ์ในภูมิภาคต่าง ๆ มุ่งเน้นการมอบประสบการณ์การบริการรูปแบบใหม่ โดยให้ความสำคัญกับการต่อยอดความเชี่ยวชาญด้านการบริการระดับลักชูรี การพัฒนาโครงสร้างแบรนด์ กลยุทธ์การบริหารสินทรัพย์แบบ “Asset Right” และการขยายโครงการที่พักอาศัยแบบเรสซิเดนซ์ ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ
กลยุทธ์ “Asset Right” เป็นแนวทางการบริหารสินทรัพย์ที่มุ่งเน้นการสร้างสมดุลระหว่างการเป็นเจ้าของ การเช่า การบริหารจัดการ และแฟรนไชส์ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและกระจายความเสี่ยง โดยในขณะที่ปัจจุบันประมาณ 70% ของพอร์ตโฟลิโอของไมเนอร์ โฮเทลส์ เป็นทรัพย์สินที่เป็นเจ้าของและเช่า บริษัทมีเป้าหมายที่จะปรับสัดส่วนให้เหลือ 50-50 ภายในปี 2570
โอมาร์ โรเมโร (Omar Romero) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาธุรกิจและธุรกิจลักชูรี ไมเนอร์ โฮเทลส์ กล่าวว่า การรักษาอัตลักษณ์ของแบรนด์ ควบคู่ไปกับการวางแผนขยายธุรกิจ โดยมุ่งเน้นการยกระดับพอร์ตโฟลิโอในระดับลักชูรี และการส่งมอบประสบการณ์การเข้าพักที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จ ด้วยแผนการลงทุนเชิงรุก การบริหารแบรนด์อย่างมีประสิทธิภาพ และกลยุทธ์ “Asset Right” ไมเนอร์ โฮเทลส์ มุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจโรงแรมระดับโลก พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและพันธมิตรทางธุรกิจ
–แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เปิดแผนธุรกิจปี 2568 ชูบ้านระดับกลาง-บน รับตลาดฟื้นตัว
