สวัสดีครับ วันนี้ Biztalk Gadget จะมา รีวิว เปรียบเทียบ Redmi Note 14 ในรุ่น 5G กับรุ่น Pro+ 5G ซึ่งทั้ง 2 ตัวนี้ถึงแม้จะอยู่ในซีรีส์เดียวกัน แต่ราคาต่างกันเกือบครึ่งเลย ซึ่งในคลิปนี้เราจะมาคุยกันว่าถ้าเราอยากได้มือถือในซีรีส์นี้เราต้องรู้อะไรก่อนตัดสินใจซื้อ
ก่อนอื่นเรามาสรุปสเปคที่แตกต่างกันของทั้ง 2 รุ่นนี้กันแบบสั้นๆ ก่อนครับ
เริ่มกันที่ตัวเครื่อง ทั้ง 2 รุ่นให้หน้าจอ 6.67 นิ้ว เป็นจอ AMOLED, 120Hz เท่ากัน โดย Redmi Note 14 5G รองรับความสว่างสูงสุดที่ 2100 nits ด้าน 14 Pro+ 5G รองรับ Dolby Vision และรองรับความสว่างสูงสุดที่ 3000 nits ด้วยความที่ รีเฟรชเรตให้มา 120Hz เท่ากัน ทำให้รุ่นน้องไม่มีข้อเสียเปรียบด้านหน้าจอเท่าไร
สำหรับ Redmi Note 14 Pro+ 5G ตัวเครื่องหน้าจอและฝาหลังเป้นดีไซน์ขอบโค้ง ใช้โครงสร้าง All-Star Armor: โครงอะลูมิเนียมคอมโพสิต, โฟมดูดซับแรงกระแทก, วัสดุกันกระแทกโพลีเมอร์ ตัวกระจกหน้าจอใช้ Corning® Gorilla® Glass Victus® 2 ฝาครอบแบตเตอรี่ Corning® Gorilla® Glass 7i
ขณะที่ Redmi Note 14 5G ดีไซน์ขอบตัดมากกว่า ติดฟิล์มกันรอยง่ายกว่า และใช้กระจกป้องกัน Corning® Gorilla® Glass 5
ด้านบอดี้ถ้าไม่ใส่เคส ตัว Pro+ จับถนัดมือกว่า แต่ก็ติดปัญหาเรื่องติดกระจกกันรอยกับขอบโค้งที่ก็มีผู้ใช้บ่นอยู่
ด้าน มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น: 14 Pro+ 5G ให้ IP68 ขณะที่ธรรมดา ให้ IP64 เลยมี หูฟัง 3.5 มิลลิเมตร และมี FM radio ด้วย แต่ต้องเสียบหูฟังถึงจะฟังได้
มาต่อกันที่ด้านประสิทธิภาพตัวเครื่อง Redmi Note 14 Pro+ 5G: ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 7s Gen 3 ให้แบตเตอรี่ 5110mAh รองรับไฮเปอร์ชาร์จ 120W ขณะที่รุ่น 14 5G ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 7025-Ultra แบตเตอรี่ 5110mAh รองรับชาร์จไวที่ 45W
ถ้าให้สรุปความต่างของทั้ง 2 รุ่น ก็คงเห็นกันชัดๆ ว่าตัวท็อปยอมทำงานได้เร็วกว่า โหลดแอปฯเร็วกว่า ส่วนการเล่นเกม เท่าที่ผมทดสอบการเล่น ROV จากทั้ง 2 เครื่อง ผมไม่เห็นความต่างเวลาเล่น แต่ ต้องยอมรับว่าเวลาเล่นจบเกมแล้วจะกลับไปหน้าเล่นใหม่ ตัว 14 5G จะมีอาการหน่วงกว่าแบบเห็นได้ชัดครับ
มาต่อกันที่กล้องกันบ้าง Redmi Note 14 5G กล้อง AI ความละเอียด 108MP ภาพนิ่งสูงสุด 3X ส่วน Portrait ได้ 1X ระยะเดียว ถ่าย Video FHD 30fps ขณะที่รุ่น Pro+ 5G กล้อง AI ความละเอียดสูงสุด 200MP พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว (OIS), ซูมแบบออปติคอล 2 เท่า และ 4 เท่า, ซูมแบบดิจิทัลสูงสุด 30 เท่า Portrait ได้ 1X และ 2X รองรับการถ่าย Video สูงสุดที่ 4K 30fps
สำหรับรูปถ่าย ถ้าจะให้พูดโดยรวม 14 Pro+ 5G ให้สีสันที่ดีกว่าระดับนึงเลยครับ ส่วนความคมชัดมีมากกว่าเล็กน้อย อีกส่วนหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือทำเบลอหลังได้ดีกว่า
AI เฉพาะรุ่น Pro
จุดต่างเดียวที่เห็นได้ชัดคือ รุ่น Pro+ 5G มาพร้อม AI ซึ่งผมก็เข้าใจได้ว่าที่มันแพงกว่ามาก ก็เพราะฟีเจอร์นี้แหละ
- Circle to Search ฟีเจอร์นี้น่าจะเป็นฟีเจอร์หลักที่ทุกค่ายมีกันไปแล้วนะครับ ถือว่าไม่ได้น่าตื่นเต้นอะไรมาก แต่ด้วยประโยชน์ก็ถือว่ามากทีเดียว ผมเองก็ใช้บ่อยครับ เวลาจะหาข้อมูลจากรูป
- AI Image Expansion ขยายพื้นหลังภาพ ใช้เวลาที่เราต้องการให้ภาพดูมีฉากหลังที่กว้างมากกว่าภาพที่เราถ่ายมา
- AI Erase Pro ลบวัตถุ ซึ่งก็ทำได้ดีครับ ทำให้เห็นว่า Xiaomi เองก็ต้องการพัฒนา AI ให้เป็นจุดขายช่นเดียวกันค่ายอื่นๆ
- AI Sky เปลี่ยนพื้นหลังท้องฟ้า อันนี้ถือว่าว้าวอยู่นะครับ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเอาโปรแกรมมานั่งปรับสีรูปเองคงทำไม่ได้เนียนเท่าใช้ AI
สรุปการ รีวิว เปรียบเทียบ Redmi Note 14 ในรุ่น 5G กับรุ่น Pro+ 5G อย่างที่บอกไปว่าราคาต่างกันเกือบครึ่ง
- Redmi Note 14 5G 8GB+256GB ราคา 7,999 บาท
- Redmi Note 14 Pro+ 5G 12GB+512GB ราคา 14,990 บาท
ง่ายๆ เลยคือ ถ้าคุณอยากใช้แค่โซเชียล เล่นเกมเบาๆ ถ่ายรูปกับ VDO พอได้ ก็หยุดอยู่ที่ Redmi Note 14 5G แต่ถ้าคุณอยากได้ AI ก็ไปสุดทางที่ 14 Pro+ 5G ครับ ได้เครื่องเร็วขึ้นกล้องดีขึ้นแถมมาด้วย
–รีวิว HONOR X9c 5G สมาร์ทโฟนที่ครบเครื่องสุดในเรตราคา 1 หมื่นบาท
