โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล ประกาศเปิดตัวอาคารใหม่ล่าสุด พร้อมยกระดับการบริการสู่ความเป็น “Smart Hospital” เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ ด้วยแนวคิดการออกแบบที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหา (Pain Points) ของผู้รับบริการอย่างแท้จริง ผ่านระบบนิเวศการดูแลสุขภาพอัจฉริยะ (Smart Healthcare Ecosystem) ที่ไร้รอยต่อ ตั้งแต่ก่อนเข้ารับบริการ จนถึงการดูแลต่อเนื่องหลังการรักษา หวังสร้างมาตรฐานใหม่ของการดูแลสุขภาพเด็กให้ทัดเทียมนานาชาติ ภายใต้พันธกิจ “โตไปไม่ป่วย” สร้างสังคมสุขภาพดีอย่างยั่งยืน
พลิกโฉมการดูแลสุขภาพเด็กด้วยแนวคิด “Smart Healthcare Ecosystem”
อาคารใหม่ของโรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล สาขาศรีนครินทร์ โดดเด่นด้วยการออกแบบที่คำนึงถึงความปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมศักยภาพของทีมกุมารแพทย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญในการรักษาโรคยากและโรคซับซ้อนในเด็ก โดยมุ่งเน้นการป้องกันและรักษาในทุกมิติสุขภาพ ครอบคลุมทั้งการดูแลตนเอง (Self-care), การดูแลตั้งแต่เนิ่นๆ (Early Care), การดูแลเมื่อมีความเสี่ยง (Risk Care) และการดูแลเมื่อเจ็บป่วย (Sick Care)
นพ.ชัยรัตน์ ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช และโรงพยาบาลบีเอ็นเอช กล่าวถึงวิสัยทัศน์ในการพัฒนาโรงพยาบาลเด็กแห่งนี้ว่า “หากเด็กไทยทุกคนเติบโตไปอย่างแข็งแรงและไม่เจ็บป่วย จะช่วยลดต้นทุนด้านการดูแลสุขภาพของประเทศโดยรวม และนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนในสังคม” ด้วยเหตุนี้ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล จึงถูกออกแบบให้เป็นอาคารสำหรับเด็กโดยเฉพาะ จำนวน 8 ชั้น 111 เตียง ภายในบริเวณโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ เพื่อยกระดับการดูแลสุขภาพเด็กสู่มาตรฐานระดับสากล
เทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่อการดูแลที่เหนือระดับ
โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล ทุ่มงบประมาณกว่า 2,000 ล้านบาท ในการพัฒนาระบบเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย เพื่อสร้างประสบการณ์การดูแลสุขภาพที่เหนือความคาดหมาย โดยมีไฮไลท์สำคัญดังนี้
- Well Kidz Application: แอปพลิเคชันที่ช่วยให้ผู้ปกครองสามารถดูแลสุขภาพของบุตรหลานได้ทุกที่ทุกเวลา ด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ครอบคลุม ทั้งการประเมินสุขภาพด้วย AI, การนัดหมายแพทย์, การติดตามการฉีดวัคซีนและพัฒนาการ, การปรึกษาแพทย์ผ่านวิดีโอคอล (Kids Telehealth) และอื่นๆ อีกมากมาย
- Smart OPD: ระบบบริการผู้ป่วยนอกอัจฉริยะ ที่ช่วยลดระยะเวลาการรอคอย และเพิ่มความสะดวกสบายในการรับบริการ ด้วยระบบคัดกรองผู้ป่วยทางเดินหายใจ, หุ่นยนต์ทำความสะอาด, จอแสดงข้อมูล (Crowd Canvas และ Kids Dashboard) และระบบชำระเงินอัจฉริยะ (Smart Payment)
- Smart IPD: ระบบบริการผู้ป่วยในอัจฉริยะ ที่ช่วยให้การเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเป็นไปอย่างสะดวกสบายและไร้กังวล ด้วยระบบการรับผู้ป่วยและจำหน่ายผู้ป่วยที่รวดเร็ว (Fast Admit & Discharge), ระบบประเมินราคาผ่าตัดด้วย AI (AI Price Estimation), จอแสดงข้อมูลผู้ป่วย (Smart Patient Communication), แอปพลิเคชันติดตามสถานะการผ่าตัด (Samitivej PACE), ระบบติดตามการรักษา (Samitivej Prompt) และระบบแจ้งเตือนการให้สารน้ำ (IV Alarm)
- Smart ER: ระบบบริการผู้ป่วยฉุกเฉินอัจฉริยะ ที่เชื่อมต่อข้อมูลผู้ป่วยจากรถฉุกเฉินไปยังศูนย์สั่งการ (Samitivej Medical Transport Center) แบบเรียลไทม์ เพื่อให้ทีมแพทย์เตรียมพร้อมการรักษาได้อย่างทันท่วงที พร้อมสร้างประสบการณ์ที่ผ่อนคลายความกังวลด้วยเทคนิคการเบี่ยงเบนความสนใจ
ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์เด็กครบวงจร
โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล โดดเด่นด้วยทีมกุมารแพทย์เฉพาะทางกว่า 100 ท่าน ที่มีความเชี่ยวชาญในการรักษาโรคยากและโรคซับซ้อนในเด็ก อาทิ
- การปลูกถ่ายไขกระดูกด้วยเทคโนโลยีล่าสุด (Hematopoietic Stem Cell Transplantation) เพื่อรักษาโรคเลือดจางธาลัสซีเมีย โรคมะเร็ง และโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- การดูแลทารกคลอดก่อนกำหนดที่มีน้ำหนักแรกเกิดน้อยกว่า 500 กรัม
- การผ่าตัดผู้ป่วยเด็กและทารกด้วยเทคนิคผ่าตัดแผลเล็ก (Minimally Invasive Surgery)
- การใช้ห้องผ่าตัดไฮบริดที่ใช้ Bi-plane Technology บนเครื่อง X-ray ที่ลดการสัมผัสรังสี
- หุ่นยนต์กายภาพ Robotic ช่วยในการฟื้นฟู
นอกจากนี้ โรงพยาบาลยังมีความร่วมมือกับโรงพยาบาลชั้นนำในต่างประเทศ อาทิ Doernbecher Children’s Hospital, Oregon Health & Science University (OHSU) และ Takatsuki General Hospital เพื่อยกระดับมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยเด็กให้ทัดเทียมนานาชาติ
ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและตอบแทนสังคม
โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล ได้รับการออกแบบตามมาตรฐาน LEED ระดับ Gold โดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์, กระจกอัจฉริยะลดความร้อน และระบบกรองอากาศ PM2.5 เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพของผู้ป่วยและบุคลากร
พร้อมกันนี้ โรงพยาบาลยังให้ความสำคัญกับการตอบแทนสังคมผ่านกองทุนสมิติเวช เพื่อชีวิตใหม่ ที่ให้การสนับสนุนการผ่าตัดรักษาผู้ป่วยเด็กโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด, การปลูกถ่ายไขกระดูก และการผ่าตัดรักษาผู้ป่วยเด็กโรคกระดูกสันหลังคด รวมถึงการตรวจสุขภาพนักเรียนในชุมชน