พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เปิดผลวิเคราะห์ตลาดอสังหาฯ ปี 2567 เผย 10 บิ๊กแบรนด์ในตลาดหลักทรัพย์ฯ โชว์ศักยภาพสวนกระแสเศรษฐกิจซบเซา “แสนสิริ” ผงาดแชมป์รายได้ “ศุภาลัย” กำไรสุทธิสูงสุด จับตา “พฤกษา-ออริจิ้น” เร่งเครื่องปรับกลยุทธ์ฝ่าวิกฤต
ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจที่ถาโถมเข้ามาอย่างต่อเนื่องในปี 2567 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยยังคงแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของผู้ประกอบการรายใหญ่ โดยเฉพาะ 10 บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่สามารถสร้างผลประกอบการที่น่าจับตามอง สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพในการปรับตัวและตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“แสนสิริ” ครองแชมป์รายได้ “เอพี-ศุภาลัย” ตามติด
ผลวิจัยล่าสุดจากพลัส พร็อพเพอร์ตี้ เผยว่า 3 บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ทำรายได้สูงสุดในปี 2567 ได้แก่
- แสนสิริ: ครองแชมป์ด้วยรายได้รวม 39,205 ล้านบาท แม้กำไรสุทธิจะลดลงเล็กน้อย แต่ยังคงรักษาการเติบโตของรายได้ได้อย่างต่อเนื่อง จากกลยุทธ์การปรับพอร์ตโฟลิโอสู่ตลาดระดับพรีเมียม-ลักซ์ชัวรี และขยายฐานสู่เมืองท่องเที่ยวศักยภาพสูง
- เอพี ไทยแลนด์: ตามมาติดๆ ด้วยรายได้รวม 37,460 ล้านบาท กลุ่มสินค้าแนวราบยังคงเป็นพระเอกของเอพี โดยเฉพาะบ้านแฝด ทาวน์โฮม และบ้านเดี่ยว ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้า
- ศุภาลัย: คว้าอันดับ 3 ด้วยรายได้รวม 31,985 ล้านบาท และเป็นบริษัทที่มีกำไรสุทธิสูงสุดถึง 6,190 ล้านบาท จากการเปิดตัวโครงการแนวราบและคอนโดมิเนียมที่ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ในทำเลศักยภาพทั่วประเทศ
“พฤกษา-ออริจิ้น” เผชิญความท้าทาย เร่งปรับกลยุทธ์
ขณะที่บริษัทอื่นๆ เช่น แลนด์แอนด์เฮ้าส์ เอสซี แอสเสท แอสเซทไวส์ และควอลิตี้เฮ้าส์ ต่างก็มีผลประกอบการที่น่าสนใจ แต่ที่น่าจับตามองเป็นพิเศษคือ บริษัทพฤกษาและออริจิ้น ที่เผชิญกับความท้าทายจากสภาวะเศรษฐกิจและการอนุมัติสินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้น ส่งผลให้รายได้และกำไรสุทธิลดลงอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ทั้งสองบริษัทกำลังเร่งปรับกลยุทธ์เพื่อฟื้นฟูผลประกอบการ โดยพฤกษาเน้นการทำโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขาย ส่วนออริจิ้นมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดเฉพาะกลุ่ม
ตลาดลักซ์ชัวรี-ท่องเที่ยว ยังคงเป็นดาวเด่น
สุวรรณี มหณรงค์ชัย รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า แม้ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะเผชิญกับความท้าทาย แต่ยังมีโอกาสและแนวโน้มที่น่าสนใจ โดยเฉพาะตลาดลักซ์ชัวรีที่ยังคงมีความต้องการสูง และภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเมืองท่องเที่ยวหลัก เช่น ภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่ และขอนแก่น ยังคงคึกคัก
ปัจจัยบวกจากภาครัฐ หนุนตลาดอสังหาฯ ฟื้นตัว
นอกจากนี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการภาครัฐ โดยเฉพาะการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อของผู้บริโภค รวมถึงความคาดหวังในการผ่อนคลายมาตรการ LTV ซึ่งจะช่วยกระตุ้นอุปสงค์ในตลาดได้อย่างมีนัยสำคัญ
จับตางานมหกรรมบ้านและคอนโดฯ คาดเงินสะพัด 6,000 ล้าน
อีกหนึ่งปัจจัยที่จะช่วยขับเคลื่อนตลาดคือ “งานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 47” ที่จะจัดขึ้นในเดือนมีนาคมนี้ โดยคาดว่าจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนกว่า 6,000 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มที่ได้รับความนิยมคือ บ้านเดี่ยวระดับกลาง อาคารชุด และทาวน์โฮม ขณะที่โครงการมิกซ์ยูสเริ่มกลับมาเป็นที่สนใจ สะท้อนพฤติกรรมการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยที่เปลี่ยนไปตามภาวะเศรษฐกิจ