Categories: Article & Review

งานวิจัยเผย มากกว่า 70% ของพนักงานพบว่า การเข้าถึงเครื่องมือดิจิทัลที่ทันสมัย เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดอัตรา Great Resignation

แน่นอนว่าการทำงานจากที่บ้านในช่วงสองปีที่ผ่านมานับเป็นเรื่องท้าทายอย่างมาก แต่จะเป็นเรื่องยากมากยิ่งขึ้นถ้าหากเราไม่สามารถเข้าถึงเครื่องมือที่รองรับการทำงาน การติดต่อสื่อสาร และการทำงานร่วมกันผ่านการเชื่อมต่อระยะไกลในช่วงเวลาดังกล่าว

นี่คือหนึ่งในประเด็นสำคัญที่ระบุไว้ในรายงานฉบับล่าสุดของอะโดบีที่มีชื่อว่า “The Future of Time: Hybrid Workplace” ที่เจาะลึกปัญหา ความท้าทายและโอกาสของการทำงานในโลกยุคใหม่

ขณะที่องค์กรต่าง ๆ เปลี่ยนรูปแบบการทำงานแบบ WFH ไปสู่การทำงานแบบไฮบริด เราต้องการที่จะศึกษาว่าความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างไรบ้างต่อการทำงานของบุคลากร รวมถึงบทบาทของเทคโนโลยีในโลกยุคใหม่ของการทำงาน เราได้สำรวจความคิดเห็นของพนักงานและผู้จัดการ 1,400 คนในองค์กรขนาดใหญ่ รวมถึงเอสเอ็มอี ในประเด็นที่เกี่ยวกับการทำงานแบบไฮบริด เทคโนโลยี และอนาคตของการทำงาน เพื่อตรวจสอบว่าสถานที่ทำงานที่เปลี่ยนไปส่งผลกระทบอย่างไรต่อทรัพยากรที่มีค่ามากที่สุดสำหรับทุกคน ซึ่งนั่นก็คือ “เวลา”

บิทคับ จับมือ ม.รังสิต ปั้นวิชาคริปโทฯศึกษา เตรียมความพร้อมคนรุ่นใหม่สู่ทักษะแห่งอนาคต
แอลจีเผยผลประกอบการ ไตรมาส 1 ปี 65 กำไร 5.3 หมื่นล้านบาท

ผลการสำรวจของเราชี้ให้เห็นถึงปัญหาท้าทายสำคัญ ๆ ที่บุคลากรต้องเผชิญอยู่ในปัจจุบัน และเราได้เสนอแนะแนวทางสำหรับองค์กรต่าง ๆ ที่ต้องการเสริมศักยภาพให้แก่ทีมงานเพื่อก้าวให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต

เทคโนโลยีมีความสำคัญมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

การทำงานแบบไฮบริดมีประโยชน์อย่างมากต่อบุคลากรที่ทำงานเกี่ยวข้องกับข้อมูล เพราะช่วยลดเวลาที่ต้องใช้ในการเดินทางไปทำงาน และทำให้มีเวลามากขึ้นสำหรับการจัดการเรื่องส่วนตัว อีกทั้งยังช่วยรักษาองค์ประกอบที่สำคัญของการทำงานในออฟฟิศ เช่น วัฒนธรรมองค์กร และชุมชน

แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงย่อมมาพร้อมกับปัญหาท้าทายบางประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี พนักงานและผู้จัดการที่ทำงานแบบไฮบริด มีการแบ่งเวลาสำหรับการทำงานที่บ้านและที่ออฟฟิศ ระบุว่าตนเองใช้เวลาประมาณ 5-7 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในการติดตั้งหรือแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเทคโนโลยี เมื่อถามว่าอะไรคือปัญหาท้าทายที่สำคัญที่สุดในการเปลี่ยนย้ายไปสู่การทำงานแบบไฮบริด พนักงานเกือบ 70% ตอบว่า “เทคโนโลยี” ซึ่งครอบคลุมทั้งในส่วนของการติดตั้งระบบ การทำงานร่วมกันบนไฟล์ข้อมูล และการแก้ไขปัญหา เช่น สัญญาณ WiFi ที่ขาด ๆ หาย ๆ และการแก้ไขเอกสารที่ใช้ร่วมกันในกลุ่มเพื่อนร่วมงานที่ทำงานแบบไฮบริด

แม้ว่าเทคโนโลยีจะก่อให้เกิดอุปสรรคบางประการต่อการทำงานแบบไฮบริด แต่ขณะเดียวกันก็มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการแก้ไขปัญหาเรื่องประสิทธิภาพการทำงานที่องค์กรต่าง ๆ ต้องเผชิญอยู่ในปัจจุบัน ทั้งนี้จากการสำรวจพบว่า พนักงานจำนวนมากเชื่อว่าการทำงานแบบไฮบริดไม่อาจเกิดขึ้นได้ถ้าหากไม่มีเครื่องมือดิจิทัลที่ทันสมัย โดย 3 ใน 4 คนระบุว่าการเข้าถึงเครื่องมือดิจิทัลก่อให้เกิดผลดีต่อการทรานส์ฟอร์มไปสู่รูปแบบการทำงานไฮบริด

พนักงานคนหนึ่งในองค์กรขนาดใหญ่บอกกับเราว่า “การทำงานแบบไฮบริด เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยถ้าหากไม่มีเทคโนโลยี ผมต้องเรียนรู้ที่จะทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเอง ซึ่งถ้าอยู่ในที่ทำงาน พนักงานฝ่ายไอทีก็จะเป็นคนจัดการเรื่องนี้ และผมคงไม่สามารถทำงานได้เลยถ้าหากไม่มีเทคโนโลยีที่ใช้รองรับการทำงาน”

เทคโนโลยีที่ดีกว่าจะช่วยลดช่องว่างในการมีส่วนร่วมของพนักงาน-ผู้จัดการ

ขณะที่หลาย ๆ บริษัทเริ่มออกนโยบายการกลับเข้าทำงานในออฟฟิศ พบว่าผู้จัดการและพนักงานมีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับพัฒนาการล่าสุด และเมื่อตรวจสอบลึกลงไป เราพบว่า “เทคโนโลยี” เป็นปัจจัยที่ช่วยอธิบายความเห็นที่แตกต่างกันของผู้จัดการและทีมงาน กล่าวคือ พนักงาน 1 ใน 3 รู้สึกว่าตนเองไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ เพราะผู้จัดการใช้เทคโนโลยีที่ล้าสมัยหรือมีปัญหาในการใช้เครื่องมือที่ทันสมัยในการทำงานร่วมกัน และมีเพียง 1 ใน 2 เท่านั้นที่รู้สึกว่าผู้จัดการของตนเองมีความชำนาญในเรื่องเทคโนโลยีในระดับหนึ่ง ที่จริงแล้วพนักงานจำนวนมากระบุว่าระบบที่ไร้ประสิทธิภาพในแง่ของเทคโนโลยีส่งผลให้พนักงานต้องใช้เวลามากขึ้นในการทำงาน ขณะที่ประสิทธิภาพการทำงานลดน้อยลง

ส่วนประเด็นที่ผู้จัดการและพนักงานมีความเห็นสอดคล้องกันก็คือ แนวคิดที่ยืดหยุ่นและมุ่งเน้นดิจิทัลเป็นหลักจะช่วยเสริมศักยภาพให้แก่ทีมงานได้อย่างแท้จริง ทั้งผู้จัดการและพนักงานพึงพอใจกับชั่วโมงการทำงานที่ปรับเปลี่ยนได้ การลาป่วย-ลากิจที่ยืดหยุ่น และการอัพเกรดเทคโนโลยีที่มีอยู่ในออฟฟิศเพื่อรองรับการทำงานแบบไฮบริดสำหรับทุกคน ทั้งนี้บริษัทจำเป็นที่จะต้องตระหนักว่าไม่มีโซลูชั่นแบบครอบจักรวาลที่สามารถใช้ได้กับทุกสถานการณ์ ทางที่ดีผู้บริหารควรจะรับฟังความเห็นจากพนักงานเพื่อให้เข้าใจว่าอะไรคือเครื่องมือที่จะช่วยเสริมศักยภาพให้แก่พนักงานได้มากที่สุด รวมไปถึงรูปแบบการทำงานที่เหมาะกับออฟฟิศนั้น ๆ

“เทคโนโลยี” เป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยลดปัญหาพนักงานลาออก

แน่นอนว่าความเหลื่อมล้ำทางด้านเทคโนโลยียังคงเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้พนักงานจำนวนมากลาออก ตัวอย่างเช่น จากการสำรวจพบว่า พนักงาน 72% และผู้จัดการ 88% ระบุว่าการเข้าถึงเครื่องมือดิจิทัลที่ทันสมัยเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการประเมินตำแหน่งงานใหม่ นอกจากนี้ยังพบว่า พนักงาน 61% รู้สึกเหนื่อยล้าและหมดไฟในการทำงานเนื่องจากการลาออกของคนในทีม และความรู้สึกดังกล่าวยิ่งเพิ่มสูงขึ้นในกลุ่มพนักงานที่ไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัย ยิ่งไปกว่านั้น พนักงาน 1 ใน 3 คนระบุว่าตนเองอาจจะหางานใหม่ในปีหน้า ด้วยเหตุนี้บริษัทต่าง ๆ จึงควรอัพเกรดเทคโนโลยีที่มีอยู่เพื่อปรับเปลี่ยนสถานที่ทำงานให้เป็นแบบไฮบริดอย่างเหมาะสม และช่วยให้ทุกคนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม และที่สำคัญก็คือ บริษัทควรเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงในทันทีก่อนที่จะสายเกินไป

supersab

Recent Posts

แพทย์ รพ.วิมุต แนะเลี่ยงผลิตภัณฑ์แปรรูป หนึ่งปัจจัยเสี่ยงมะเร็งเต้านม

ในยุคที่ชีวิตเร่งรีบ อาหารแปรรูปกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมของคนทุกวัย ด้วยความสะดวก รสชาติอร่อยถูกปาก และหาซื้อได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นไส้กรอก แฮม หรืออาหารกระป๋อง แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่าอาหารเหล่านี้เต็มไปด้วยสารกันบูดและสารเคมี ถ้ากินบ่อย ๆ ก็จะเพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็ง ซึ่งรวมถึง “มะเร็งเต้านม” ได้เช่นกัน…

6 hours ago

รู้ก่อนขาย! ช้อปปี้ เผย 3 ข้อควรรู้ เสริมความปลอดภัยในธุรกิจออนไลน์ สร้างความมั่นใจให้ผู้ซื้อ ขยายโอกาสให้ผู้ขาย

ในยุคที่การช้อปปิ้งออนไลน์กลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับมาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้าเป็นอย่างยิ่ง ช้อปปี้ จึงมุ่งมั่นยกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นและมั่นใจในทุกประสบการณ์การซื้อขายบนแพลตฟอร์ม ช้อปปี้มุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่เหนือระดับ พร้อมสนับสนุนการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด สำหรับผู้ซื้อ เรามอบประสบการณ์การช้อปที่ปลอดภัย ยุติธรรม และมีคุณภาพสูงสุด เพื่อสร้างความมั่นใจในทุกการทำธุรกรรม ซึ่งทำให้ทุกการช้อปปิ้งเป็นไปได้อย่างราบรื่น ด้านผู้ขาย ช้อปปี้มุ่งยกระดับความเชื่อมั่นในด้านการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับกฎหมาย…

6 hours ago

MGallery Residences MontAzure จัดพิธีเทปูนปิดโครงสร้างอาคาร เตรียมเผยโฉม เอ็มแกลเลอรี เรสซิเดนซ์ แห่งแรกของเมืองไทย ภายในอาณาจักร มอนท์เอซัวร์

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่น่าจับตามองในวงการอสังหาริมทรัพย์ เมื่อ MGallery Residences MontAzure (เอ็มแกลเลอรี เรสซิเดนซ์ มอนท์เอซัวร์) คอนโดมิเนียมสุดหรูริมทะเลสาบพร้อมกรรมสิทธิ์ถือครองอย่างสมบูรณ์ (Freehold) ตั้งอยู่บนทำเลไพร์มโลเคชันในอาณาจักร MontAzure (มอนท์เอซัวร์) ได้จัดพิธีเทปูนปิดโครงสร้างอาคารไปเป็นที่เรียบร้อย พร้อมประกาศเร่งเดินหน้าต่อเพื่อให้โปรเจกต์ระดับเวิลด์คลาสแห่งนี้เสร็จสมบูรณ์ตามแผนงานที่วางไว้…

6 hours ago

True รายงานผลประกอบการแข็งแกร่งในไตรมาส 3/2567 EBITDA เติบโตต่อเนื่อง 7 ไตรมาส

บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) "True" รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2567 เผยมีกำไรต่อเนื่อง โดยมีกำไรสุทธิหลังหักภาษีและหลังปรับปรุงรายการพิเศษ (Normalized Net Profit After Tax)…

6 hours ago

BizTalk x Sunny Horo ดวงประจำวันที่ 28 ตุลาคม – 3 พฤศจิกายน 2567

BizTalk x Sunny Horo กับคอลลัมน์ ดวงธุรกิจ Weekly ชวนมาอัพเดต ดวงประจำวันที่ 28 ตุลาคม – 3 พฤศจิกายน 2567 กัน ใครเกิดตรงกับวันไหน…

6 hours ago

Alstom CRRC ผู้ผลิตโมโนเรลสายสี “ชมพู-เหลือง” ติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยเพิ่มแก้ปัญหาล้อประคองหลุด

Biztalk วันอาทิตย์ที่ 27 ต.ค. 67 พาไปคุยกับ ณัฐภัทริ์ อุณหคงคา ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หลังจากไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตรถไฟฟ้าโมโนเรล ที่เมืองอู๋หู มณฑลอานฮุย สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งโรงงานนี้เป็นผู้ผลิตโมโนเรล…

10 hours ago