การศึกษาเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยพัฒนาปัจเจกบุคคล สังคม และประเทศชาติให้ก้าวหน้าได้อย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม การจัดการระบบการศึกษาให้มีประสิทธิภาพทั้งในแง่ปริมาณและคุณภาพนั้น จำเป็นต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณ บุคลากร เวลา และเทคโนโลยี
ด้วยความตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษา ทรู คอร์ปอเรชั่น จึงได้ก่อตั้งโครงการ “ทรูปลูกปัญญา” ขึ้น เพื่อร่วมพัฒนาและขยายโอกาสทางการศึกษาผ่านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งปัจจุบันโครงการนี้ดำเนินงานมาถึงปีที่ 17 แล้ว
ในโอกาสนี้ True Blog ได้มีโอกาสพูดคุยกับเยาวชน 3 คน ที่มีภูมิหลังทางการศึกษาแตกต่างกัน แต่ทั้งสามคนต่างใช้คลังความรู้ “ทรูปลูกปัญญา” เป็นเครื่องมือสำคัญในการส่องสว่างเส้นทางการศึกษาของพวกเขา
จ๊ะจ๋า – จิณณาภา ญานะ: เสาหลักในห้วงการเปลี่ยนผ่าน
จิณณาภา ญานะ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เล่าว่า เธอเติบโตมาจากการศึกษา 2 ระบบ โดยเริ่มจากระบบโรงเรียนในระดับประถมศึกษา ก่อนจะตัดสินใจย้ายมาเรียนในระบบโฮมสกูล (Home School) ซึ่งเป็นระบบการศึกษาที่ให้อิสระกับผู้เรียนในการจัดแผนการเรียนตามความสนใจ
“ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากประถมสู่มัธยม พี่ชายของฉันสนใจด้านคอมพิวเตอร์มาก และกำลังมองหาระบบการศึกษาที่เหมาะกับเขา แม้ตอนนั้นฉันจะยังเด็ก แต่ก็รู้สึกว่ายังมีสิ่งน่าสนใจอีกมากนอกตำราเรียน ฉันจึงตัดสินใจย้ายมาเรียนโฮมสกูลเช่นกัน” จิณณาภาเล่า
อย่างไรก็ตาม เธอยอมรับว่าในช่วงแรกเธอพบกับความยากลำบากในการจัดการหลักสูตร เพราะยังไม่ค้นพบแนวทางการเรียนรู้ที่เหมาะกับตัวเอง แม้โฮมสกูลจะให้อิสระและความยืดหยุ่น แต่ผู้เรียนต้องมีความรับผิดชอบสูง คุณแม่ของเธอจึงแนะนำให้ใช้เว็บไซต์ ทรูปลูกปัญญา เป็นเครื่องมือช่วยในการเรียน
“ทรูปลูกปัญญาช่วยให้ฉันจับหลักและหาแนวทางของตัวเองได้ นอกจากเนื้อหาที่มีคุณภาพแล้ว ยังมีการสรุปบทเรียนและใบงานที่ช่วยให้ฉันทบทวนความรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ” เธอกล่าว
ตลอด 7 ปีในระบบโฮมสกูล จิณณาภาได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ ตามความถนัดของตัวเอง ผ่านกิจกรรมหลากหลาย เช่น การแข่งขันประกวดสื่อสร้างสรรค์ การพัฒนาแอปพลิเคชันเกม และงานอดิเรกอย่างการเย็บปักถักร้อย
“โฮมสกูลทำให้ฉันได้เรียนรู้ศาสตร์ต่างๆ ที่ไม่จำกัดอยู่ในกรอบของหลักสูตร เพราะโลกคือห้องเรียน” เธอกล่าว
หลังจากสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมในระบบโฮมสกูล จิณณาภาเลือกกลับเข้าสู่ระบบการศึกษากระแสหลักอีกครั้ง โดยสอบเข้าคณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เธอเชื่อว่าการศึกษาคือเครื่องมือที่ทุกคนควรเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม
“ทรูปลูกปัญญาทำหน้าที่เป็นคลังความรู้ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ไม่ว่าจะอยู่ในระบบการศึกษาใด หรือแม้แต่ผู้ที่ไม่เข้าถึงการศึกษา” เธอกล่าวทิ้งท้าย
ไปรท์ – วราเทพ ชื่นตา: ค้นหาแรงบันดาลใจและความถนัด
วราเทพ ชื่นตา นิสิตชั้นปีที่ 1 คณะครุศาสตร์ สาขาประถมศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เล่าว่า เขาเป็นผลผลิตจากค่านิยมทางการศึกษาของสังคมไทย ที่มักเน้นการเรียนสายวิทย์-คณิตในระดับมัธยมปลาย แม้ว่าเขาจะชื่นชอบวิชาสังคมศึกษามากกว่า
“ผมชอบวิชาสังคมศึกษาเพราะมันฝึกให้ผมคิดวิเคราะห์และเชื่อมโยงปัจจัยต่างๆ ในสังคม แต่ด้วยค่านิยมและคำแนะนำจากผู้ใหญ่ ผมจึงเลือกเรียนสายวิทย์-คณิต ซึ่งทำให้ผมรู้สึกทรมานกับวิชาคำนวณอย่างฟิสิกส์และเคมี” วราเทพเล่า
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ยอมแพ้และพยายามหาทางเดินต่อในสายวิชาที่เขาชื่นชอบ หลังจากตัดสินใจเข้าคณะครุศาสตร์ เขาใช้คลังความรู้ ทรูปลูกปัญญา เพื่อเตรียมตัวสอบวิชาความถนัดครู (TPAT5)
“ทรูปลูกปัญญามีคลังข้อสอบและแบบทดสอบที่ช่วยให้ผมเข้าใจหลักคิดและจับทางบททดสอบได้ นอกจากนี้ยังมีสื่อการเรียนการสอนที่ช่วยทบทวนบทเรียนและค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติม” เขากล่าว
วราเทพเชื่อว่าการศึกษาคือการเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด และคลังความรู้อย่างทรูปลูกปัญญาเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ผู้เรียนค้นพบความถนัดของตัวเอง
วี – ศิวัช สุชาครีส์: ตั้งเป้าหมายและค้นหาตัวเอง
ศิวัช สุชาครีส์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สายวิทย์-คณิต โรงเรียนเทพศิรินทร์ นนทบุรี ให้ความเห็นว่า เนื้อหาการศึกษาในระบบโรงเรียนมีปริมาณมากเกินไปและไม่ตอบโจทย์ผู้เรียนในยุคปัจจุบัน
“ผมว่าการศึกษาในระบบยังเน้นการท่องจำมากกว่าการเข้าใจ และไม่ตอบโจทย์ผู้เรียนในยุคที่ข้อมูลความรู้อยู่รอบตัว” วีกล่าว
เพื่อเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย วีใช้ Plook Explorer บนเว็บไซต์ทรูปลูกปัญญา เพื่อค้นหาตัวเองและวางแผนการเรียนต่อ
“Plook Explorer ช่วยให้ผมเข้าใจข้อดีข้อเสียของแต่ละสาขาอาชีพ และใช้เป็นแนวทางในการเลือกคณะที่เหมาะกับตัวเอง” เขากล่าว
วีเชื่อว่าการศึกษาไม่มีพรมแดน และทุกศาสตร์มีความสัมพันธ์กัน ขอเพียงมีความกระหายใคร่รู้อยู่เสมอ
ทั้ง 3 เยาวชนต่างใช้คลังความรู้ ทรูปลูกปัญญา เป็นเครื่องมือสำคัญในการค้นหาเส้นทางการศึกษาของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการเรียนในระบบโฮมสกูล การเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย หรือการค้นหาความถนัดของตัวเอง พวกเขาเชื่อว่าการศึกษาคือเครื่องมือที่ทุกคนควรเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม และทรูปลูกปัญญาก็ทำหน้าที่นั้นได้อย่างดีเยี่ยม
อ่านบน True Blog: https://trueblog.dtac.co.th
–วัยรุ่นอเมริกัน เผชิญภัยข้อมูลเท็จออนไลน์มากขึ้น ผลศึกษาชี้ AI ตัวการสำคัญ
