แล้วฉันเลือกอะไร ได้มั้ย…เลือกว่าจะไม่ไปได้หรือเปล่า…..อาจเป็นเพลงที่ใครหลายคนในชุมชนคลองเตย คิดอยู่ในใจว่า อนาคตของตัวเองจะเป็นอย่างไร หลังจากที่การท่าเรือแห่งประเทศไทย เอาจริงเรื่องการพัฒนาพื้นที่เพื่อการอยู่อาศัยในชุมชนคลองเตย หรือ โครงการสมาร์ท คอมมูนิตี้
ปรับพื้นที่โรงฟอกหนัง..สู่ สมาร์ท คอมมูนิตี้ ยกระดับชีวิตคนคลองเตย
พื้นที่ก่อสร้างสมาร์ท คอมมูนิตี้ จะอยู่บริเวณ องค์การฟอกหนัง (เดิม) ถนนริมทางรถไฟสายเก่า เขตคลองเตย กรุงเทพฯ เนื้อที่ 58 ไร่ ที่จะนำมาก่อสร้างเป็นอาคารที่พักอาศัยทรงสูง เทียบเท่า คอนโดมีเนียม หรือ แฟลตดินแดงโฉมใหม่ เพื่อรองรับคนในชุมชนคลองเตย ที่ตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่นี่ หลังจากโครงการสร้างเสร็จ
*โครงการเป็นอาคารสูง 25 ชั้น จำนวน 4 อาคาร อาคารละ 1,536 ยูนิต รวมทั้งหมด 6,144 ยูนิต
*ขนาดห้อง 33 ตารางเมตร (ก็ไม่เล็กนะ..ถ้าเทียบกับคอนโดทั่วไปในย่านพระราม 4 ที่ราคาเฉลี่ยตกอยู่ที่ยูนิตละไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท ) แต่ก็อาจจะคับแคบไปหน่อย สำหรับครอบครัวที่มีมากกว่า 2 คน
*สิ่งอำนวยความสะดวกมีอะไรบ้าง ?
• อาคารจอดรถส่วนกลาง
• อาคารตลาด / คอมมูนิตี้ มอลล์ (พื้นที่เชิงพาณิชย์ให้เช่าขายสินค้า)
• โรงเรียน
• อาคารเอนกประสงค์อื่น ๆ
• พื้นที่สีเขียว เพื่อการพักผ่อน
• ในอนาคตจะมีการพัฒนารถไฟรางเบา หรือ โมโนเรล โดยจะนำทางรถไฟเดิมที่ไม่ได้ใช้ มาพัฒนาเพื่อเชื่อมการเดินทางจากโครงการเข้าสู่ถนนพระราม 4 และเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าในอนาคต
ในพื้นที่สมาร์ท คอมมูนิตี้ ไม่ได้มีเพียงอาคารที่พักอาศัย เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึง สถานที่ราชการ หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน มูลนิธิ สถาบันการศึกษาอื่น ๆ ที่เคยอยู่ในพื้นที่ของการท่าเรือที่ต้องมีการพัฒนา ก็จะย้ายมาอยู่ในสมาร์ท คอมมูนิตี้ เช่นเดียวกัน
กลุ่มเป้าหมาย ที่จะได้รับผลกระทบจากการพัฒนาโครงการ
• ชุมชนในพื้นที่การท่าเรือ จำนวน 26 ชุมชน กว่า 12,000 ครัวเรือน
• ชุมชนใต้ทางด่วน 5 แห่ง
• หน่วยงานภาครัฐและเอกชน มูลนิธิ สถาบันการศึกษา ในพื้นที่
กำหนด 3 ทางเลือก ให้ชุมชน
• 1. ย้ายไปอยู่ห้องชุดขนาด 33 ตารางเมตรในโครงการสมาร์ท คอมมูนิตี้
• 2. ให้ที่ดินเปล่า 19.5 ตารางวา ในย่านหนองจอก มีนบุรี แต่จำกัดจำนวนเพียง 2,140 แปลง สำหรับสร้างที่พักอาศัยเป็นของตัวเอง
• 3. ให้เงินทุนพัฒนาคุณภาพชีวิต สำหรับคนที่อยากกลับภูมิลำเนาบ้านเกิด
โดยคนในชุมชนที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย จะต้องเลือกรับสิทธิประโยชน์ทางใดทางหนึ่ง เพราะแม้ไม่เลือก ยังไงพื้นที่ก็จะถูกนำไปพัฒนาอยู่ดี และหลังจากนี้ การท่าเรือฯ ก็จะลงพื้นที่สำรวจสำมะโนประชากร รับฟังความต้องการของประชาชนอีกครั้ง
คนคลองเตยยังสงสัย ย้ายไปมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม?
ถามว่า ย้ายจากชุมชนแออัดแนวราบ … ไปอยู่อาคารชุดในที่สูง ดีกว่ามั้ย??? ก็อาจจะดีนะ!! อย่างน้อยก็ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น แต่….ความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายก็ตามมา เช่น ค่าส่วนกลางที่ต้องจ่ายรายเดือน / รายปี จะมีมั้ย??? ห้องที่ได้ เล็กไปสำหรับครอบครัวหรือเปล่า ?? ย้ายไปแล้วจะไปทำงานลำบากมั้ย?? คำถามเหล่านี้ ทางการท่าเรือฯ จะลงพื้นที่ไปทำความเข้าใจ และให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาโครงการด้วย
โครงการนี้จะเริ่มได้เมื่อไหร่?
วันนี้ ไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานตัดริบบิ้นเปิดโครงการแล้ว นั่นเป็นการส่งสัญญาณว่า การท่าเรือเอาจริงกับโครงการนี้ ไม่ได้วาดฝันแล้วพับเก็บไปเหมือนโครงการอื่น ๆ ส่วนจะทำได้จริงหรือไม่ คงต้องใช้เวลา โดยเฉพาะการทำประชาพิจารณ์ที่เชื่อว่า ต้องทำหลายครั้งมาก ๆ
แต่ถ้าทุกอย่างราบรื่นไม่มีปัญหา ก็เชื่อว่าจะลงเข็มก่อสร้างได้ภายในปี 2564 ทำการก่อสร้างก็ราว ๆ 3-4 ปี ก็น่าจะได้เห็นโครงการนี้ผุดขึ้นภายในปี 2568
อย่างไรก็ตามโครงการนี้ใช้พื้นที่เพียง 8.41% ของพื้นที่ทั้งหมดของการท่าเรือ ที่มีอยู่กว่า 2,353 ไร่เท่านั้น นั่นหมายความว่า ยังมีอีกหลายโครงการที่อยู่ในแผนการพัฒนาของการท่าเรือ ที่จะค่อย ๆ เปิดตัวออกมาทีละน้อยจนกว่าจะพลิกโฉมให้คลองเตย เป็นท่าเรืออัตโนมัติ ดันไทยเป็นศูนย์กลางทางการค้า และเมืองท่องเที่ยวชั้นนำของโลก