เมื่อวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2516 หรือ ค.ศ. 1973 มาร์ติน คูเปอร์ (Martin Cooper) ยืนอยู่บนทางเท้าบนถนนสายที่ 6 ในแมนฮัตตัน พร้อมกับอุปกรณ์ขนาดเท่าก้อนอิฐ และได้โทรศัพท์สาธารณะเป็นครั้งแรกจากโทรศัพท์มือถือไปยังชายคนหนึ่งที่เขาเคยแข่งขันด้วยเพื่อพัฒนาอุปกรณ์ดังกล่าว
“ผมกำลังโทรหาคุณทางโทรศัพท์มือถือ แต่เป็นโทรศัพท์มือถือจริงๆ เป็นโทรศัพท์มือถือส่วนตัวแบบพกพา” Cooper ซึ่งเป็นวิศวกรของ Motorola กล่าวทางโทรศัพท์กับ Joel Engel head of AT&T-owned Bell Labs
–Google เผยพฤติกรรมผู้ซื้อสมาร์ทโฟนในไทยในยุคโควิด
แม้ว่าผู้บริโภคทั่วไปจะไม่สามารถใช้โทรศัพท์มือถือได้ไปอีกสิบปี แต่ใครก็ตามที่เดินผ่านคูเปอร์บนถนนในวันนั้นอาจได้เห็นประวัติศาสตร์ที่ถูกสร้างขึ้น
ในช่วง 50 ปีนับจากการโทรครั้งแรก อุปกรณ์ขนาดใหญ่ของ Cooper ได้พัฒนาและถูกแทนที่ด้วยโทรศัพท์รุ่นต่างๆ ที่บางกว่าและเร็วกว่า ซึ่งปัจจุบันแพร่หลายและเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรม วัฒนธรรม และวิธีที่เรามีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันและตัวเราเอง แต่ในขณะที่การเข้าถึงและผลกระทบที่กว้างขวางของโทรศัพท์มือถืออาจทำให้บางคนไม่ทันตั้งตัว
ในยุคนั้นต้องใช้เวลากว่าหนึ่งทศวรรษ (10 ปี) กว่าที่โทรศัพท์รุ่น DynaTAC (Dynamic Adaptive Total Area Coverage) จะออกสู่ตลาดด้วยราคาสูงถึง 3,900 ดอลลาร์ (ประมาณ 130,000 บาท) คล้ายกับเครื่องที่ Gordon Gekko ใช้ในภาพยนตร์ “Wall Street” มีน้ำหนัก 2.5 ปอนด์ และสูงประมาณ 1 ฟุต
50 ปี ผ่านไป โทรศัพท์พัฒนาไปไกลมาก เช่น iPhone 14 หนักประมาณ 6 ออนซ์ หรือสมาร์ทโฟน Android รุ่นทั่วๆ ไปมีราคาอยู่ที่ 200-300 ดอลลาร์ (ประมาณ 7000-10,000 บาท)
ที่มา edition.cnn.com