6 กลยุทธ์สำคัญ องค์กรเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้องปรับตัวรับมือดิสรัปชันปี 2025

6 กลยุทธ์สำคัญ องค์กรเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้องปรับตัวรับมือดิสรัปชันปี 2025

โลกธุรกิจยุคปัจจุบัน พลิกผันรวดเร็วกว่าที่เคย องค์กรต่างๆ ทั่วโลกต่างต้องปรับตัวรับมือกับดิสรัปชันทางเทคโนโลยีที่ถาโถมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่กำลังก้าวสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างเต็มตัว องค์กรต่างๆ จึงต้องเร่งปรับกลยุทธ์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างความได้เปรียบในตลาด

จากรายงานของ PwC พบว่าองค์กรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กำลังเผชิญกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้น โดยในปี 2023 มีองค์กรมากถึง 35% ที่ประสบปัญหาการละเมิดข้อมูล สร้างความเสียหายมูลค่ามหาศาลตั้งแต่ 1 ล้าน ถึง 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการปรับตัวขององค์กรในภูมิภาคนี้

เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายต่างๆ ผู้เชี่ยวชาญได้คาดการณ์ 6 กลยุทธ์สำคัญ ที่องค์กรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ควรให้ความสำคัญ เพื่อความอยู่รอดและเติบโตอย่างยั่งยืนในปี 2025 ได้แก่

1. เสริมเกราะไซเบอร์ สร้างภูมิคุ้มกันภัยคุกคามให้ทุกคนในองค์กร

ภัยคุกคามทางไซเบอร์ นับเป็นภัยร้ายแรงที่องค์กรยุคดิจิทัลต้องเผชิญ การสร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้กับบุคลากรทุกระดับ จึงเป็นสิ่งสำคัญ องค์กรต้องให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมพนักงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจ และสามารถรับมือกับภัยคุกคามรูปแบบต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการกำหนดกระบวนการรักษาความปลอดภัยที่ชัดเจน และจัดหาเครื่องมือที่จำเป็น เพื่อให้พนักงานสามารถป้องกันตนเองและองค์กรจากภัยคุกคามได้

2. กระจายอำนาจ เสริมสร้างความแข็งแกร่งในการกำกับดูแล

การปฏิบัติตามกฎระเบียบและข้อบังคับต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญ แต่การรวมศูนย์อำนาจการกำกับดูแลไว้ที่หน่วยงานกลางเพียงอย่างเดียว อาจไม่เพียงพออีกต่อไป องค์กรยุคใหม่ จำเป็นต้องกระจายอำนาจการกำกับดูแลไปยังทุกหน่วยงาน เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ โดยหน่วยงานกลาง ควรทำหน้าที่กำหนดนโยบาย และติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ ในขณะที่หน่วยงานย่อย ต้องรับผิดชอบในการนำนโยบายไปปฏิบัติ และประเมินความเสี่ยงในระดับหน่วยงาน

3. ยกระดับประสบการณ์ สร้างความประทับใจไร้ขีดจำกัด

ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า หรือพนักงาน ล้วนเป็นทรัพยากรล้ำค่าขององค์กร การสร้างประสบการณ์ที่ดี จึงเป็นสิ่งสำคัญ องค์กรต้องมุ่งเน้นการพัฒนา และปรับปรุงระบบ เพื่อให้ใช้งานง่าย เข้าถึงได้สะดวก และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างครบถ้วน รวมถึงการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น AI และการวิเคราะห์ข้อมูล มาใช้ เพื่อยกระดับประสบการณ์ และสร้างความพึงพอใจสูงสุด

4. มุ่งเน้นผลลัพธ์ เพิ่มคุณค่าการลงทุนด้าน IT

การลงทุนด้าน IT เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับองค์กรยุคดิจิทัล แต่ CIO ต้องสามารถแสดงให้เห็นถึงคุณค่า และผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) อย่างชัดเจน โดยการกำหนดตัวชี้วัด (KPI) และ Metrics ที่เชื่อมโยงกับผลลัพธ์ทางธุรกิจ เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน การลดต้นทุน หรือการเพิ่มรายได้

5. ขยายขีดความสามารถ ด้วยพลังแห่ง AI

AI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในโลกธุรกิจ องค์กรต่างๆ ต้องเร่งพัฒนากลยุทธ์ และแผนการนำ AI มาประยุกต์ใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน เช่น การนำ AI มาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล พัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการ หรือ ปรับปรุงกระบวนการทำงาน

6. ใส่ใจสิ่งแวดล้อม มุ่งสู่ความยั่งยืน

การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เป็นสิ่งที่องค์กรยุคใหม่ต้องให้ความสำคัญ องค์กรต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสังคม ในทุกขั้นตอนของการดำเนินธุรกิจ เช่น การลดการใช้พลังงาน การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือการสนับสนุนชุมชน

การปรับตัว และนำ 6 กลยุทธ์นี้ไปใช้ จะช่วยให้องค์กรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สามารถรับมือกับความท้าทายต่างๆ และเติบโตอย่างยั่งยืน ในยุคดิจิทัลที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

#ธุรกิจ #เทคโนโลยี #เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ #กลยุทธ์ #ดิจิทัล #AI #ความยั่งยืน #Cybersecurity #2025

โดย ราเจส กาเนซาน ประธาน ManageEngine

Accenture Life Trends 2025 ชี้ “ความเชื่อมั่น” เป็นหัวใจหลัก ธุรกิจต้องปรับตัวรับมือพฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิทัล

Related Posts

Scroll to Top