“อยู่รอด” ต้อง “อยู่ร่วม” HI x AI เพื่อสรรสร้างความสร้างสรรค์อย่างไร้ขีดจำกัดใน ADFEST 2024

“อยู่รอด” ต้อง “อยู่ร่วม” HI x AI เพื่อสรรสร้างความสร้างสรรค์อย่างไร้ขีดจำกัดใน ADFEST 2024

สมาคมโฆษณาเอเชียแปซิฟิคจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวงาน ADFEST 2024 ซึ่งในปีนี้จะจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 27 โดยงานจะจัดขึ้นทั้งหมด 3 วัน ระหว่างวันที่ 21-23 มีนาคม 2567 ณ โรงแรมรอยัล คลิฟ โฮเท็ล กรุ๊ป พัทยา โดยในปีนี้จัดภายใต้ธีม “HI” Human Intelligence หรือ ปัญญามนุษย์ เพื่อเน้นความจำเป็นของปัญญามนุษย์ ท่ามกลางบทบาทและศักยภาพที่พัฒนาเพิ่มขึ้นของ AI ปัญญามนุษย์คือสารตั้งต้นที่ก่อกำเนิด AI ในการสร้างความเป็นไปได้อย่างไม่มีสิ้นสุด

วันนี้ต้องยอมรับว่า AI (Artificial Intelligence) หรือปัญญาประดิษฐ์ เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการออกแบบงานต่างๆ เครื่องมือ (Tools) และแพลตฟอร์มหลายๆ ตัว มีการอัปเกรดฟีเจอร์ที่ใช้ AI โดยเฉพาะ Generative AI ทั้งจากฝั่ง Open AI จากทางฟาก Microsoft และ Gemini ทางฟาก Google เข้ามาช่วยคนทำงานทำงานกราฟิกดีไซน์มากขึ้น จบงานได้ในคลิกเดียว

ซึ่งในความเป็นจริงจุดประสงค์ของฟีเจอร์เหล่านี้เป็นเพียงการช่วยครีเอทงานใหม่ๆ ไม่ได้มาทดแทนไอเดียของคนทั้ง 100% เพราะยังมีปัจจัยเรื่องลิขสิทธิ์ต่างๆ ที่ AI ดึงภาพมาใช้ประกอบในงานดีไซน์ หากทำเพื่อใช้งานภายในครอบครัว หรือบริษัทก็จะตอบโจทย์ เพราะบางคนอาจจะไม่มีสกิลการออกแบบ หรือวาดคาแรกเตอร์ให้สวย แต่ที่ผ่านมากลับมาผลงานบางชิ้น ที่เกิดกระแสดราม่า หลังใช้ AI ทั้ง 100% สร้างสรรค์ผลงานไปส่งประกวดบ้าง หรือนำชิ้นงานนั้นไปขายบ้าง และเกิดการคัดค้านจากหลายๆ ฝ่ายว่าไม่ถูกต้อง การอยู่ร่วมกันระหว่าง HI และ AI จึงเป็นสิ่งสำคัญของการสร้างสรรค์ผลงาน

วินิจ สุรพงษ์ชัย ประธานคณะกรรมการ ADFEST กล่าวถึงแนวคิดการจัดงานครั้งนี้ว่า “นาทีนี้ไม่มีอะไรถูกพูดถึงมากเท่า ‘AI’ หรือ ‘ปัญญาประดิษฐ์’ ที่กำลังก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อธุรกิจและอุตสาหกรรมทุกแขนง ไม่เว้นแม้แต่ ‘อุตสาหกรรมสร้างสรรค์’ พัฒนาการอันก้าวกระโดดของ Generative AI แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการสร้างสรรค์ที่พัฒนาเกินความคาดเดา จนอาจทำให้ใครหลายคนคิดว่าเป็นการแข่งขันกันระหว่าง ‘ปัญญามนุษย์’ กับ ‘ปัญญาประดิษฐ์’ ADFEST 2024 ไม่ได้ตั้งคำถามถึงการแข่งขัน แต่มองเห็นในเรื่องของการอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์กับ AI การค้นหาศักยภาพที่แท้จริงของปัญญามนุษย์ที่จะใช้ AI เพื่อเสริมพลังไปสู่อนาคตร่วมกัน

แท้จริงแล้ววงการสร้างสรรค์ได้ใช้ประโยชน์จาก AI มานานพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโปรแกรมที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานหรือการวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อนเพื่อให้เราเข้าใจได้ง่ายและเร็วขึ้น แต่ปัจจุบัน AI เป็นมากกว่าสิ่งอำนวยความสะดวก เพราะบทบาทของ AI นั้นเข้ามาใกล้ความเป็นคู่คิดมนุษย์มากกว่าเคย เพราะฉะนั้นในงานแอดเฟสปีนี้ เราจะมุ่งเน้นการพูดคุยในเรื่องความสัมพันธ์ของมนุษย์และ AI ซึ่งกลายมาเป็นคู่คิดคนสำคัญในการทำให้งานสร้างสรรค์นั้นดูโดดเด่นและตื่นตาตื่นใจ เราจะได้เห็นพร้อมกันว่า AI ที่มีมนุษย์เป็นศูนย์กลาง นั้นจะพา AI ไปได้ไกลแค่ไหน เพื่อให้ได้ผลงานที่มีคุณค่าและทรงพลังกว่าที่เคย”

3 วิทยากรร่วมแชร์ข้อมูลใน ADFEST TALK

ในส่วนของการบรรยายพิเศษ “ADFEST TALK” ในธีม Human Intelligence ได้พบกับวิทยากรที่มากความสามารถและประสบการณ์ถึง 3 ท่าน มาร่วมแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ ในการทำงานร่วมกับ AI และทำนายอนาคตของความสัมพันธ์ของมนุษย์และ AI

“อยู่รอด” ต้อง “อยู่ร่วม” HI x AI เพื่อสรรสร้างความสร้างสรรค์อย่างไร้ขีดจำกัดใน ADFEST 2024

ดร.การดี เลียวไพโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่อนาคตศาสตร์และสินทรัพย์ดิจิทัล, บริษัท FutureTales LAB จำกัด โดย MQDC กล่าวในช่วงหนึ่งของการบรรยายว่า วันนี้ประเด็นเรื่อง AI เข้ามาแย่งงานคงไม่ใช่เรื่องใหม่ และหนึ่งในงานที่ AI เข้ามาทำ และทำได้ดีมากขึ้นคืองานด้าน Media และพัฒนาการได้อย่างรวดเร็วมากกว่าที่เราคาดการณ์ไว้มาก วันนี้ AI เริ่มเข้ามาจับอารมณ์คนได้มากขึ้น จากการเรียนรู้ท่าทางของมนุษย์ เพียงแต่ยังไม่สมบูรณ์ทั้งหมด ในอนาคต เมื่อหุ่นยนต์เมื่อเข้ามารวมกับ Generative AI จะสร้างให้เกิดหุ่นยนต์ที่อยู่ร่วมกับมนุษย์ได้ เข้ามาทำงานบางอย่างได้ คนจึงต้องทำความเข้าใจกับการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบันมากขึ้น เร็วขึ้น

“จากผลสำรวจล่าสุดคาดว่าในปี 2035 งานประมาณ 30% จะถูกทดแทนด้วย AI จะเห็นว่าประเทศอย่างเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น กำลังพูดคุยกันถึงว่าองค์กรที่ใช้ AI หรือ Robot เข้ามาสร้างรายได้ จำเป็นต้องจ่ายภาษีเหมือนกับการจ้างคนเช่นกัน เพื่อนำเงินมาใช้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ” ดร.การดี กล่าว

“อยู่รอด” ต้อง “อยู่ร่วม” HI x AI เพื่อสรรสร้างความสร้างสรรค์อย่างไร้ขีดจำกัดใน ADFEST 2024

ด้าน สุวิตา จรัญวงศ์ Co-Founder & Chief Executive Officer, Tellscore กล่าวในมิติของการใช้งาน AI ว่า วันนี้เราต้องชั่งระหว่าง จริยธรรม กับ ผลผลิต เพราะวันนี้ AI เข้ามาช่วยทำ Deep Fake ได้ง่ายมากขึ้น เปลี่ยนให้เราพูดภาษาต่างๆ ได้เพียงแค่เราใส่ข้อมูลลงไป และยังซิงค์ปากของเราให้ตรงกับเสียงได้เหมือนกับเราพูดภาษานั้นๆ อยู่จริง

“เราต้องลองถามตัวเองว่า เราจะรับพนักงานที่ใช้ AI ช่วยงานทั้ง 100% ไหม เพราะหากไม่มี AI ให้ใช้ คนๆ นี้ก็จะทำงานไม่ได้เลย” สุวิตา กล่าวเสริม

“อยู่รอด” ต้อง “อยู่ร่วม” HI x AI เพื่อสรรสร้างความสร้างสรรค์อย่างไร้ขีดจำกัดใน ADFEST 2024

ขณะที่ ทสร บุณยเนตร Chief Creative Officer, BBDO Bangkok กล่าวว่า AI เข้ามาทำงานได้หลายๆ อย่างมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือ เข้ามาเป็นกรรมการตัดสินงานออกแบบได้ เพียงแค่ใส่ Prompt เข้าไป โดยระบุรายละเอียดให้ครบถ้วน จากนั้น AI จะประมวลผลออกมาเป็นคะแนน พร้อมอธิบายเหตุผล

“เราอาจจะคิดว่า วันนี้มีคน (AI) เข้ามาแย่งงานเราอยู่ แต่ในความเป็นจริง AI ไม่ได้กำลังจะมาแย่งงานเรา แต่เป็นเครื่องมือให้เราทำงานได้ง่ายขึ้น เพราะ Human Intelligence ยังเป็นตัวขับเคลื่อน ใช้ความรู้ของตัวเองมาสร้างสรรค์ผลงาน ปัจจัยคือเราต้องพร้อมที่จะเปลี่ยน” ทสร กล่าวเสริม

สำหรับงาน ADFEST 2024 ที่พัทยาในปีนี้อัดแน่นไปด้วยความพิเศษตลอด 3 วัน ได้แก่

ADFEST Lotus Awards

การประกวดผลงานโฆษณาและความสร้างสรรค์ใน 21 หมวด ซึ่งปีนี้มีผลงานส่งเข้าประกวดถึง 1,587 ผลงาน จาก 18 ประเทศ และในปีนี้ ได้มีการเพิ่มการประกวดอีก 1 หมวด ซึ่งก็คือ Sustainable Lotus ที่เป็นรางวัลสำหรับผลงานที่มีเป้าหมายในการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ Sustainable Development Goals
นอกจากการเพิ่มหมวด Sustainable Lotus มีการเพิ่ม Regional Agency of the Year อีก 6 รางวัลใน Special Awards ด้วย ได้แก่

  • Central & North Asia Agency of the Year
  • East Asia Agency of the Year
  • Middle East Agency of the Year
  • Oceania Agency of the Year
  • South Asia Agency of the Year และ
  • Southeast Asia Agency of the Year

โดยรางวัล Lotus Awards จะถูกตัดสินโดยกรรมการ 63 ท่าน จาก 23 เมือง และ Grand Jury President ในปีนี้ได้แก่ มัลคอม พอยตัน (Malcolm Poynton), Global Chief Creative Officer จาก Cheil Worldwide จากลอนดอน

ผู้ร่วมงานสามารถชมผลงานทั้งหมดในพื้นที่จัดแสดงผลงาน เพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้และสร้างแรงบันดาลใจ

การสัมมนา

ตลอด 3 วัน วิทยากรแถวหน้าจากหลากหลายสาขาจากทั่วโลก จะมาให้ความรู้และสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ร่วมงานถึง 31 หัวข้อ โดยปีนี้เนื้อหาจะไม่เพียงแต่เน้นเรื่อง AI เท่านั้น แต่เนื้อหาจะครอบคลุมหลากหลายความเชี่ยวชาญ อาทิ การผสมผสานของความสร้างสรรค์ของมนุษย์และ AI Gaming, Sonic Branding, Sustainability และเทรนด์ในอนาคต

นอกจากนี้ ยังมี workshop ย่อยอีก 6 หัวข้อด้วยกัน ได้แก่

  • Tabletop vs AI โดย EyeCandy
  • Collide. Embracing Conflict to Boost Creativity. โดย Guan Hin Tay, BBDO Singapore
  • D&AD Workshop โดย Donal Keenan และ Jo Jackson
  • Shape My Portfolio Powered by McCann Worldgroup
  • Crafting for Commerce โดย Meta
  • World Producers Summit โดย Steve Davies

โปรแกรมสำหรับ Next Generation

ADFEST ให้ความสำคัญกับคนรุ่นใหม่ของวงการอย่างต่อเนื่อง กับ:

Young Lotus Workshop ที่ในปีนี้ ได้รับเกียรติจาก Ogilvy อีกครั้ง โดยในปีนี้ มีทีมเข้าร่วมถึง 18 ทีมจาก 18 เมืองด้วยกัน และเป็นครั้งแรกที่จะมีทีมจากอัลมาตี คาซัคสถาน (Almaty, Kazakhstan) และรียาด ซาอุดีอาระเบีย (Riyadh, Saudi Arabia) อีกด้วย

Fabulous Five New Directors ที่ให้โอกาส 5 ผู้กำกับหน้าใหม่ไฟแรง เปิดตัวหนังสั้นบนเวทีที่ ADFEST ซึ่งในปีนี้ 3 ผู้กำกับมาจากญี่ปุ่น 1 ผู้กำกับจากฮ่องกง และอีก 1 ผู้กำกับจากธากา

Business Matching

พื้นที่เจรจาธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการจากทั่วโลก โดยเฉพาะผู้ประกอบการด้านโปรดักชั่นและที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมตัวกันมานำเสนอความคราฟต์ในการผลิตให้กับทุกความสร้างสรรค์

ตลอด 27 ปีที่ผ่านมา ADFEST ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากภาครัฐและภาคเอกชน อาทิ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ (DITP) และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB เพราะทุกหน่วยงานเข้าใจในความสำคัญของงานที่มีต่อเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับประเทศไทย ที่เปรียบเสมือนศูนย์กลางอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของภูมิภาคอย่างแท้จริง

รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ADFEST.com

ดีลอยท์ เผยรายงานความเสี่ยงของการใช้ Generative AI ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการทางการเงินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

Scroll to Top