จากภาพจำของแขนกลในโรงงาน หรือหุ่นยนต์ส่งของในคลังสินค้า สู่ระบบอัจฉริยะที่สามารถรับรู้ เรียนรู้ วางแผน และลงมือกระทำได้อย่างอิสระ เตรียมพบกับยุคใหม่ของ AI ผสาน Robotic กำเนิดเป็น Humanoid Robot ที่พร้อมแทรกซึมทุกองคาพยพของชีวิต ตั้งแต่ห้องผ่าตัด ศูนย์ข้อมูล ไปจนถึงระบบควบคุมการจราจร และเมืองอัจฉริยะ
Humanoid Robot หรือหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ คือหุ่นยนต์ที่ถูกออกแบบให้มีลักษณะทางกายภาพคล้ายมนุษย์ ทั้งรูปร่าง ท่าทาง และการเคลื่อนไหว โดยมีเป้าหมายเพื่อให้สามารถทำงานและมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ทำไมปี 2025 ถึงเป็นปีแห่ง Humanoid Robot?
ในปี 2025 นี้ Humanoid Robot จะกลายเป็นเทคโนโลยีที่ถูกจับตามองมากที่สุด ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) และเซ็นเซอร์ ทำให้หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์มีความซับซ้อนและสามารถทำงานได้อย่างอิสระมากขึ้น บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำต่างแข่งขันกันพัฒนาให้สามารถทำงานที่หลากหลาย ตั้งแต่ช่วยงานบ้าน ดูแลผู้ป่วย ไปจนถึงการทำงานในโรงงาน ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าในอีก 10 ปีข้างหน้า จะมีหุ่นยนต์หลายสิบล้านตัวถูกนำไปใช้งานทั่วโลก
มีตัวใดบ้างที่น่าจับตามองในปี 2025?
- Atlas (Boston Dynamics): หุ่นยนต์ชื่อดังที่พัฒนาขึ้นโดย Boston Dynamics ด้วยการสนับสนุนจาก DARPA Atlas รุ่นใหม่ล่าสุดเป็นระบบไฟฟ้าทั้งหมด สามารถทำงานที่ซับซ้อนในสภาพแวดล้อมแบบอุตสาหกรรมได้อย่างอิสระ และปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมแบบเรียลไทม์ด้วยระบบการมองเห็นที่ขับเคลื่อนด้วย Machine Learning
- 4NE-1 (Neura Robotics): หุ่นยนต์จากเยอรมนีที่มีความสามารถในการรับรู้ มีเซ็นเซอร์สำหรับการโต้ตอบแบบหลายรูปแบบ และระบบ 3D Vision สำหรับการจดจำวัตถุในสภาพแวดล้อมแบบไดนามิก สามารถเข้าใจสภาพแวดล้อม ตอบสนองต่อท่าทาง เสียงของมนุษย์ และตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด
- G1 (Unitree Robotics): หุ่นยนต์ขนาดเล็กจากจีนที่มีราคาเริ่มต้นเพียง $16,000 G1 เป็นรุ่นที่ย่อขนาดลงมาจากหุ่นยนต์ H1 ของ Unitree
ในเดือนสิงหาคม 2024 Unitree ได้เปิดตัว G1 เวอร์ชันพร้อมผลิตจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของจีน ตามเป้าหมายของรัฐบาลที่ต้องการผลิต Humanoid Robot จำนวนมากภายในปี 2025 - Torso (Clone Robotics): Clone Robotics มุ่งเน้นไปที่การสร้างหุ่นยนต์ที่เหมือนมนุษย์ Torso ใช้ระบบไฮดรอลิกเพื่อเลียนแบบความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อมนุษย์ และกำลังได้รับการฝึกฝนให้ใช้แขนทั้งสองข้างพร้อมกันสำหรับงานต่าง ๆ
- ADAM (Richtech Robotics): ADAM เป็นบาร์เทนเดอร์ หุ่นยนต์ชงกาแฟ และชงชาที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในช่วงฤดูร้อน ADAM กลายเป็นบาร์เทนเดอร์หุ่นยนต์ตัวแรกในสนามกีฬาเมเจอร์ลีกเบสบอล โดยให้บริการเครื่องดื่มที่ Globe Life Field ของ Texas Rangers
- SE01 (ENGINEAI): หุ่นยนต์จากจีนที่เคลื่อนไหวได้อย่างราบรื่นเป็นธรรมชาติ ENGINEAI ตั้งเป้าหมายที่จะผลิตหุ่นยนต์รุ่นนี้ให้ได้หนึ่งพันตัวภายในปี 2025
- Figure 02 (FigureAI): FigureAI เป็นสตาร์ทอัพที่ได้รับทุนสนับสนุนจาก OpenAI และ NVIDIA มีเป้าหมายที่จะส่งหุ่นยนต์ Humanoid Robot หลายล้านตัวออกสู่โลก ในต้นปี 2025 หุ่นยนต์ Figure 02 จะเริ่มทำงานเต็มเวลาที่โรงงาน Spartanburg ของ BMW หลังจากการทดลองใช้งานประสบความสำเร็จในปี 2024
- Walker S1 (UBTECH): หุ่นยนต์จากจีนที่สามารถทำงานที่ซับซ้อนได้อย่างแม่นยำ UBTECH ได้รับคำสั่งซื้อ Walker S1 มากกว่า 500 รายการจากผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ รวมถึง BYD ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของจีน
- NEO (1X Technologies): 1X Technologies ได้รับการสนับสนุนจาก OpenAI เป็นหุ่นยนต์ที่ออกแบบมาสำหรับใช้ในครัวเรือน 1X ตั้งเป้าหมายที่จะผลิตหุ่นยนต์รุ่นนี้หลายพันเครื่องในปี 2025 และหลายล้านเครื่องในปี 2028
- GR-2 (Fourier): หุ่นยนต์จากจีนที่โดดเด่นด้วยแรงบิดสูงและมีองศาอิสระ (DoF) ถึง 53 องศา GR-2 สามารถยกผู้ป่วยขึ้นรถเข็น เคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ และใช้งานเครื่องมืออุตสาหกรรมได้
- Digit (Agility Robotics): Agility Robotics กำลังก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตรายแรกของโลกที่ผลิต Humanoid Robot จำนวนมาก Digit กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยได้รับข้อตกลงจากบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งในปี 2024 รวมถึงข้อตกลง robots-as-a-service (RaaS) สำหรับการใช้งานหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์สำหรับ GXO Logistics
- Optimus (Tesla): Optimus เป็นหุ่นยนต์ที่ถูกวางตำแหน่งให้เป็นสัญลักษณ์ของสถานะ Elon Musk กล่าวว่าในที่สุดหุ่นยนต์จะมีราคาอยู่ระหว่าง $20,000 ถึง $30,000 และจะสามารถทำงานใด ๆ ที่มนุษย์สามารถทำได้
แนวโน้มสำคัญของ AI Robotic ในปี 2025
- การผสานรวม AI เข้ากับหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ:
AI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาหุ่นยนต์ ผู้ผลิตหุ่นยนต์กำลังพัฒนาอินเทอร์เฟซที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อให้ผู้ใช้สามารถควบคุมหุ่นยนต์ได้ง่ายขึ้นโดยใช้ภาษาธรรมชาติแทนการเขียนโค้ด - การใช้ AI เชิงพยากรณ์: AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลประสิทธิภาพจากหุ่นยนต์และเครื่องจักรอื่น ๆ เพื่อคาดการณ์ว่าเมื่อใดและอย่างไรที่อาจเกิดการเสีย ซึ่งช่วยให้ผู้ผลิตประหยัดต้นทุนได้
- การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning): อัลกอริทึม Machine Learning สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากหุ่นยนต์หลายตัวที่ทำงานในกระบวนการเดียวกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
- หุ่นยนต์เพื่อการทำงานร่วมกัน (Cobots): Cobots ทำงานร่วมกับมนุษย์โดยตรง ช่วยทำงานที่ต้องใช้แรงงานมาก การเคลื่อนไหวซ้ำ ๆ หรืองานในสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตราย
- ความเป็นจริงเสริม (AR): AR ช่วยเพิ่มการรับรู้ของเราเกี่ยวกับโลกทางกายภาพโดยการเพิ่มข้อมูลเสมือนจริง สร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงาน
- การเพิ่มขึ้นของโมเดลภาษาขนาดเล็ก: เพื่อปรับปรุงการทำงานของหุ่นยนต์ที่ทำงานของโมเดลภาษาขนาดเล็กช่วยประหยัดพลังงานและหลีกเลี่ยงปัญหาความหน่วงแฝงที่เกี่ยวข้องกับการส่งข้อมูลไปยังศูนย์ข้อมูล
ความท้าทายและสิ่งที่ต้องพิจารณา
- ความต้องการแรงงานที่มีทักษะ: ความต้องการช่างเทคนิคและวิศวกรที่ผ่านการฝึกอบรมจะเพิ่มสูงขึ้น
- ต้นทุน: ค่าใช้จ่ายอาจเป็นอุปสรรคสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก
- การบูรณาการเทคโนโลยี: การรวมหุ่นยนต์ใหม่เข้ากับระบบเดิมอาจเป็นเรื่องท้าทาย
สรุป ปี 2025 AI Robotic พร้อมก้าวขึ้นมาปฏิวัติอุตสาหกรรมและชีวิตของเราในทุกมิติ Humanoid Robot จะกลายเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนความก้าวหน้าของมนุษย์และเทคโนโลยี โลกอนาคตที่เราเคยจินตนาการไว้ กำลังจะกลายเป็นความจริงในไม่ช้า
#AI #Robotic #HumanoidRobot #AIRobotic #เทคโนโลยี #หุ่นยนต์ #ปัญญาประดิษฐ์ #อนาคต
ที่มา blogs.nvidia.com , airc.org , niryo.com , qviro.com , mikekalil.com
–จากผู้นำสู่ผู้ตาม! Intel เผชิญหน้าวิกฤติครั้งใหญ่ อาจต้องขายกิจการบางส่วนเพื่อความอยู่รอด