ต้องยอมรับว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนไปมาก โดยเฉพาะในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ได้ปรับรูปแบบการใช้ชีวิตของคนไปอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะคนยุคใหม่ที่ต้องอยู่กับโลกดิจิทัลมากชึ้น หลายคนมองหาวิธีการสร้างรายได้ ทำอาชีพใหม่ๆ ผ่านโลกดิจิทัล แต่ก็ยังมีเด็กอีกกลุ่มหนึ่ง ที่มุ่งมั่นกับการเข้าสู่วงการบันเทิง ได้ร้องเพลง เต้น บนเวที สร้างประสบการณ์ร่วมกับแฟนคลับมากกว่าการทำ TikTok หรือ YouTube เพื่อสร้างรายได้ ในบทความนี้ BiztalkNews ได้มีโอกาสพูดคุยกับ 3 สาวรุ่นใหม่วง DREAMERS “พลอยฝน-กมลลักษณ์ ยอดปทุม, ครีมมี่-ชนัญชิดา ตันติศิริรักษ์ และ เหมยลี่-พิฐชญาณ์ จิระชัยประสิทธิ” ที่มองโลกโซเชียลเป็นเพียงเครื่องมือช่วยให้คนรู้จัก ติดตามผลงานได้ และมีความฝันสูงสุดคือการได้เป็นศิลปินไอดอล เติบโตอยู่ในวงการบันเทิง แต่อีกมุมหนึ่งก็ไม่ทิ้งการเรียนหรือสายอาชีพที่เรียนมา
–ส่อง 5 แบรนด์ไทยอยู่เป็น! ปรับตัวเก่งจนผ่านมากี่ยุคก็ปังเสมอ
เมื่อสิ่งที่เรียนก็ชอบ บันเทิงก็ใช่ จึงอยากทำไปคู่กัน
พลอยฝน-กมลลักษณ์ ยอดปทุม หนึ่งในสมาชิกวง DREAMERS ปัจจุบันศึกษาอยู่ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวัสดุศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 เล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่เด็กเป็นคนชอบทำอะไรใหม่ๆ ขี้สงสัย ชอบทำการทดลอง จึงเลือกเรียนด้านนี้ แต่อีกมุมหนึ่งเราก็ชอบร้องเพลง ชอบเต้นตามวงไอดอล จนเมื่อปีที่แล้วได้มีโอกาสไปขึ้นเวที ทำให้รู้สึกว่าชอบที่จะมอบความสุขให้กับแฟนๆ ที่มาดู จึงเดินหน้าทำทั้งเรื่องการเรียนและบันเทิงควบคู่มาโดยตลอด

ด้าน ครีมมี่-ชนัญชิดา ตันติศิริรักษ์ นักศึกษา ปี 1 คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เล่าว่า ที่เดินหน้าเข้าสู่วงการไอดอลเพราะชอบมาตั้งแต่เด็ก จนพัฒนามาเป็นงานอดิเรก พอมีเวลาว่างก็จะไปเต้นตามไอดอล เพราะนอกจากจะสนุกแล้วยังช่วยคลายเครียดจากการเรียนได้อีกด้วย วันนี้เราชอบทั้งการเรียนทันตแพทย์และการเข้าสู่วงการบันเทิง จะลองทำให้มันดีทั้งสองอย่างไปด้วยกัน
ส่วน เหมยลี่-พิฐชญาณ์ จิระชัยประสิทธิ อยู่ชั้น ม.4 โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ๒ เล่าว่า ตอนเด็กๆ นั่งดู K-Pop และรู้สึกชอบพี่ ลิซ่า BlackPink มองเขาเป็นไอดอล แต่ก็ยังไม่ได้คิดว่าจะเข้ามายืนอยู่ในจุดนี้ จนวันหนึ่งตัดสินใจลองเข้ามาออดิชั่นกับวงไอดอล รู้สึกว่าชอบ และเคยคิดว่าจะต้องทิ้งการเรียนหรือไม่หากจะไปเข้าวงการบันเทิง แต่ในอีกมุมเราก็คิดว่าถ้าไปไม่รอดจะต้องกลับมาเริ่มเรียนใหม่หรือไม่ จึงตัดสินใจทำคู่กันไป
เหมยลี่ ยังกล่าวอีกว่า “เราโตแล้ว สามารถบริหารจัดการตัวเองได้แล้ว หากตัดสินใจหรือทำอะไรผิดพลาดก็ต้องยอมรับผลของมัน และพยายามให้มากขึ้นกว่าเดิม”
ด้าน พลอยฝน กล่าวเสริมว่า “ในอนาคตเราเชื่อว่าเราไม่สามารถสละอะไรไปได้เลย ทั้งอาชีพและงานอดิเรก โดยเฉพาะงานอดิเรก เพราะถึงแม้เราจะมีอาชีพปกติ แต่เราก็ยังจะต้องร้อง เล่น เต้นอยู่ที่บ้านด้วยตัวเองอยู่ดี ซึ่งเราวางแผนว่าจะเรียนต่อให้สูงกว่านี้ แต่ยังไงก็ไม่ทิ้งงานไอดอล”
“ถ้าเราจะทิ้งโอกาสอย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วไปโฟกัสเพียงอย่างเดียว เชื่อว่าเราจะเสียดายโอกาสมากๆ ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าจะสามารถโฟกัสทั้ง 2 ส่วนไปพร้อมกันได้ ในวันนี้เราไม่สามารถบอกได้ว่า การเป็นทันตแพทย์หรือการเป็นไอดอลทางไหนจะไปได้สุดกว่ากัน มันอาจจะไม่ใช่ทั้งสองอย่างนี้ก็ได้ แต่ ณ ตอนนี้ การที่เราพยายามทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง จะเป็นบทเรียนที่สอนเราได้ในอนาคต ว่าอะไรที่ทำแล้วดีอะไรที่ทำแล้วบกพร่อง ทำให้เราพัฒนาตัวต่อไปได้ในอนาคต” ครีมมี่ กล่าวทิ้งท้ายในประเด็นการเลือกทำทั้ง 2 สิ่ง

วงการบันเทิงถึงแม้จะยาก แต่เริ่มแล้วไม่มีถอย
แต่ละสายอาชีพนั้นมีความยากง่ายแตกต่างกันไป กับงานสายบันเทิงหลายคนอาจจะเห็นแค่ว่าวงนั้นวงนี้ออกมาโชว์เต้น ร้องเพลง ไม่เห็นมีอะไรพิเศษ แต่ในความเป็นจริงแล้วมันมีความยากที่ซ่อนอยู่อีกมากมาย ลองมาดูความเห็นของทั้ง 3 สาวสมาชิกวง DREAMERS ว่าแต่ละคนมีมุมมองกับเรื่องนี้อย่างไร
พลอยฝน เล่าว่า สิ่งที่ยากคือ บางครั้งเราทำสิ่งที่เราชอบ แต่เราไม่รู้ว่าคนที่จับจ้องเขาคิดเห็นอย่างไร ซึ่งอาจจะมีทั้งแง่ดีและไม่ดี แต่สุดท้ายสิ่งที่กลับมาหาเราก็คือคอมเมนต์ เพื่อให้เราพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น อยู่ในจุดที่ดีขึ้น ซึ่งเราเชื่อว่าความพยายามของเราไม่ทำร้ายใครแน่นอน และถึงจะไม่สำเร็จแต่อย่างน้อยก็ทำให้เราอยู่ในจุดที่สูงกว่าสิ่งที่เราเคยเป็นแน่นอน ทุกอย่างมันกลับมาเป็นบทเรียนให้เรามีแรงผลักดันเพื่อที่จะกลับมาทำให้ดีกว่าเดิม และให้คนดูเป็นคนตัดสินเรา
เหมยลี่ เสริมว่า เรารู้ว่าการเข้ามาอยู่ในวงการบันเทิงมันยาก อย่างพี่ ‘ลิซ่า BlackPink’ กว่าจะได้เดบิวต์ก็ใช้เวลาฝึกหัดถึง 5 ปี บางคนอาจจะยอมแพ้ไปแล้ว แต่เพราะพี่ลิซ่าเป็นคนที่สู้จึงมีอย่างทุกวันนี้ได้ ส่วนเราเริ่มเข้ามาในวงการนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย (15ปี) ยังมีเวลาเรียนรู้อีกมาก ทุกวันนี้หลังจากเลิกเรียนจะใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงฝึกซ้อมและพัฒนาตัวเอง บางครั้งก็ให้คนที่บ้านมาดูเราร้องเพลงกับเต้น และให้คอมเมนต์กลับมาว่ามันดีหรือไม่ ถ้าไม่ดีก็จะนำไปปรับปรุง
ขณะที่ ครีมมี่ มองว่า การพัฒนาตัวเองในสายบันเทิงจะต้องวางแผนก่อนว่าอยากพัฒนาในด้านใด และฝึกซ้อมตามแผนที่วางไว้ ให้เพื่อน ครอบครัว เข้ามาช่วยกันคอมเมนต์ ตรงไหนควรจะแก้ไข ควรจะปรับ เพื่อพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้น บางครั้งเพื่อนอาจจะบอกว่าดีแล้ว แต่ก็ยังต้องพัฒนาต่อไปจากสิ่งที่มันดีอยู่แล้ว

“เรามีเป้าหมายชีวิต อยากจะขึ้นเวที ได้เจอกันแฟนคลับ ให้เขารู้จักตัวตนของเรา มากกว่าให้รู้จักเราผ่านเพียงแค่โซเชียลมีเดีย” ครีมมี่ กล่าวเสริม
พลอยฝน เชื่อว่าจะก้าวสู่สายอาชีพในวงการบันเทิงได้ “ที่ผ่านมีหลายคนที่ทำได้แล้ว แต่สุดท้ายต่อให้สำเร็จหรือไม่สำเร็จอย่างน้อยเราก็ได้ทำ การที่เราได้มาอยู่ตรงนี้ ทำในสิ่งที่เรารัก มันทำให้เรามีความสุข และถ้าสิ่งที่เรารักสร้างรายได้ให้กับเรา สามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้ ก็จะยิ่งทำให้เรามีความสุขมากขึ้นไปอีก”
ซึ่งทั้ง 3 สาวตั้งเป้าไว้ว่า “ใน 1 ปี หลังจากนี้จะพยายามพัฒนาตัวเองอย่างหนัก เพื่อให้เป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีกว่าเดิม ภูมิใจเมื่อหันกลับมามองตัวเอง อยากมีซิงเกิลแรก มีคนรู้จักมากขึ้น มีฐานแฟนคลับมากขึ้น เราอยากทุ่มเทให้กับคนที่สนับสนุนเรา เพราะถ้าเราทำให้พวกเขาผิดหวัง เราเองก็คงรู้สึกไม่ดี”