The 1 Insight เผยผลวิเคราะห์เชิงลึกพฤติกรรมผู้บริโภคกลุ่ม “Gen Y-Wealth เจนวายล่ำซำ” ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มี (อายุ 25-40 ปี) ที่มีฐานะทางการเงินอยู่ในระดับบนของประเทศไทย โดยกลุ่มนี้มีกำลังซื้อสูงกว่า Gen Y ทั่วไปถึง 7 เท่า นับเป็นกลุ่มลูกค้า High Value และ Premium Consumers ที่ธุรกิจควรให้ความสำคัญ
รายงานระบุว่า คนกลุ่มนี้มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยมีสัดส่วนการใช้จ่ายคิดเป็น 30% ของการใช้จ่ายรวมของ Gen Y ทั้งหมด แม้จะมีจำนวนเพียง 1% ของ Gen Y ทั้งหมดก็ตาม ปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญมาจากการเป็นผู้สืบทอดทรัพย์สินจากครอบครัว รวมถึงการประสบความสำเร็จจากธุรกิจในยุคเศรษฐกิจใหม่ เช่น E-commerce และเทคโนโลยี ยิ่งไปกว่านั้น Gen Y ยังจะเป็นผู้รับมรดกมูลค่ามหาศาลจากปรากฏการณ์ Great Wealth Transfer ซึ่งจะส่งผลให้พวกเขากลายเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูงสุดกลุ่มหนึ่งในประวัติศาสตร์
The 1 Insight ชี้ให้เห็นถึง 3 อินไซต์หลักที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของคนกลุ่มนี้ ได้แก่
1. พร้อมจ่ายเพื่อ “ภาพลักษณ์” (Image-Driven Spending)
คนกลุ่มนี้ให้ความสำคัญกับการสร้างภาพลักษณ์และการแสดงออกถึงตัวตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านสินค้าแฟชั่นลักชัวรี่และเครื่องสำอาง ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิด “Generation ME” ที่เน้นการให้ความสำคัญกับตนเอง ประกอบกับการเติบโตในยุคโซเชียลมีเดีย ที่การนำเสนอภาพลักษณ์ที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ
ซึ่งคนกลุ่มนี้มีกำลังซื้อสูง จึงพร้อมที่จะลงทุนกับสินค้าและบริการที่ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ โดยสินค้าแฟชั่นลักชัวรี่และบิวตี้ คิดเป็น 50% ของการใช้จ่ายทั้งหมด โดยมีการใช้จ่ายในหมวดแฟชั่นลักชัวรี่มากกว่ากลุ่มอื่นๆ ถึง 15 เท่า และในหมวดบิวตี้มากกว่าถึง 4 เท่า
สินค้าแฟชั่นลักชัวรี่ที่ได้รับความนิยมสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ นาฬิกาหรู เครื่องประดับอัญมณี และเสื้อผ้าแบรนด์เนม โดยนิยมซื้อจากห้างสรรพสินค้าระดับไฮเอนด์ เช่น เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ซึ่งเป็นศูนย์รวมแบรนด์ลักชัวรี่ระดับโลก และเป็นสถานที่ที่คนกลุ่มนี้ใช้จ่ายสูงสุด นอกจากนี้ ยังพบว่า คนกลุ่มนี้บางส่วน ให้ความสนใจกับแบรนด์ Quiet Luxury ที่เน้นความเรียบหรู แต่แฝงไปด้วยคุณภาพและความพิเศษเฉพาะตัว
ข้อมูลจาก The 1 ยังระบุว่า 40% ของ Gen Y-Wealth เป็นพ่อแม่ ซึ่งส่งผลต่อพฤติกรรมการใช้จ่ายในหมวดแฟชั่นสำหรับเด็ก โดยกลุ่มนี้มีการใช้จ่ายกับเสื้อผ้าเด็กมากกว่าคนรุ่นอื่นๆ ถึง 2 เท่า
สำหรับสินค้าบิวตี้ 3 อันดับแรกที่ขายดี ได้แก่ แป้ง Shimmer ครีมลดเลือนริ้วรอย และน้ำหอมแบรนด์หรู สะท้อนให้เห็นว่าคนกลุ่มนี้ให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเอง และมองว่า การลงทุนกับสินค้าบิวตี้ เป็นการสร้าง Personal Branding และเป็นการให้รางวัลกับตัวเอง
2. เหนือระดับด้วย “ประสบการณ์” (Prestige Experience)
คนกลุ่มนี้ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ที่เหนือกว่า มากกว่าการซื้อสินค้าเพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะประสบการณ์ที่หรูหรา พิเศษ และน่าจดจำ เช่น การท่องเที่ยวต่างประเทศ การเข้าพักในโรงแรมระดับโลก หรือการเข้าร่วมกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ซึ่งกลุ่มนี้มีการใช้จ่ายในการท่องเที่ยวต่างประเทศมากกว่ากลุ่มอื่นๆ ถึง 4 เท่า
แบรนด์ที่ต้องการเจาะคนกลุ่มนี้ จึงควรเน้นการสร้างประสบการณ์ที่แตกต่าง และตอบโจทย์ความต้องการในด้านความหรูหรา และความพิเศษเฉพาะตัว เพื่อสร้างความประทับใจ และความภักดีต่อแบรนด์ในระยะยาว
ข้อมูลจาก The 1 พบว่า คนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนสมาชิกสูง ในโปรแกรม The 1 Exclusive และ Cenfinity ซึ่งเป็นโปรแกรมสำหรับลูกค้า Wealth Segment โดยเฉพาะ โดยมอบสิทธิประโยชน์ และบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ครอบคลุม Dining, Hospitality, Travel, Wellness และ Lifestyle เช่น บริการ Personal Shopper และ บริการลิมูซีนรับส่ง ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำในยุโรป
3. ช้อปได้ “ไร้รอยต่อ” (Omni-Centric & Phygital)
คนกลุ่มนี้เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีดิจิทัล จึงคุ้นเคยกับการใช้ชีวิตแบบ Phygital ที่ผสานโลกออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกันอย่างลงตัว ดังนั้น แบรนด์จึงต้องมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ไร้รอยต่อ เชื่อมโยงทุกช่องทางเข้าด้วยกัน เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย
นอกจากนี้ยังนิยมซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น E-Commerce และ Personal Shopper มากกว่ากลุ่มอื่นๆ ถึง 4 เท่า เนื่องจากต้องการความสะดวกสบาย และความรวดเร็ว รวมถึงนิยมใช้บริการเดลิเวอรี่ เช่น LINE MAN ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากการแลกคะแนน The 1 เพื่อรับส่วนลด LINE MAN ที่ได้รับความนิยมสูงสุด
แม้จะคุ้นเคยกับการช้อปปิ้งออนไลน์ แต่คนกลุ่มนี้ก็ยังให้ความสำคัญกับประสบการณ์การช้อปปิ้งในห้างสรรพสินค้า โดยนิยมช้อปปิ้งในวันธรรมดา เพื่อหลีกเลี่ยงความแออัด และต้องการความเป็นส่วนตัว
จะเห็นได้ว่า Gen Y-Wealth เป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีศักยภาพสูง และมีอิทธิพลต่อตลาดในปัจจุบัน การเข้าใจถึงพฤติกรรม และความต้องการของกลุ่มนี้ จึงเป็นกุญแจสำคัญ ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถกำหนดกลยุทธ์ และนำเสนอสินค้า บริการ และประสบการณ์ ที่ตอบโจทย์คนกลุ่มนี้ได้อย่างตรงจุด เพื่อสร้างยอดขาย และความเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
–โลกเดือด! ไทยเผชิญวิกฤติสิ่งแวดล้อมหนัก NIA หนุน “นวัตกรรม” สู้ภัยพิบัติ