ช่วงนี้ใครๆ ก็พูดถึง AI โดยเฉพาะ Generative AI ที่เป็น AI ประเภทที่สามารถสร้างคอนเทนต์ต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ ไฟล์เสียง ข้อมูล หรือแม้แต่บทวิเคราะห์ แค่ป้อนคำสั่งง่ายๆ ก็จัดการให้ได้ เรียกได้ว่าเป็นเครื่องมือสุดล้ำที่จะช่วยให้การทำงานง่ายขึ้นเยอะ! แต่หลายคนก็เริ่มกังวลว่า แล้วแบบนี้ AI จะมาแย่งงานเราไหม? ไม่ต้องกลัวไป! บทความนี้จะพาไปดูกันว่า เราจะทำงานร่วมกับ AI และเตรียมตัวให้พร้อมรับมือกับอนาคตของโลกการทำงานที่กำลังจะเปลี่ยนไปได้ยังไงบ้าง
Generative AI ทำอะไรได้บ้างในที่ทำงาน?
AI มีประโยชน์ต่อการทำงานในองค์กรมากมาย โดยเฉพาะการทำงานแบบอัตโนมัติ ซึ่งช่วยประหยัดทั้งเวลาและทรัพยากร ยกตัวอย่างเช่น
- สร้างคอนเทนต์: ช่วยได้หมดไม่ว่าจะเป็นบทความ รายงาน คำอธิบายสินค้า หรือคอนเทนต์การตลาด
- ออกแบบ: ช่วยเหลือนักออกแบบในการสร้างสรรค์ผลงาน ออกแบบเลย์เอาต์ ทำต้นแบบ และหาไอเดียใหม่ๆ
- ประมวลผลภาษา: สรุปเนื้อหา แปลภาษา วิเคราะห์ความรู้สึก และสร้างแชทบอท เพื่อให้การสื่อสารกับลูกค้าเป็นเรื่องง่าย
- เพิ่มข้อมูล: สร้างข้อมูลเสมือนจริงสำหรับฝึกฝนโมเดล Machine Learning
- ผู้ช่วยเสมือน: อย่าง Siri, Alexa หรือ Google Assistant ที่เราคุ้นเคยกันดี
- รู้จำเสียง: แปลงเสียงพูดเป็นข้อความ หรือแปลงข้อความเป็นเสียงพูด
- สร้างภาพและวิดีโอ: สร้างภาพและวิดีโอที่เหมือนจริง
- ปรับแต่งประสบการณ์และแนะนำ: วิเคราะห์พฤติกรรมและความชอบของผู้ใช้ เพื่อแนะนำสิ่งที่ตรงใจ
เตรียมตัวให้พร้อม! ทำงานร่วมกับ AI สบายมาก
การนำ AI มาใช้ในองค์กร สิ่งสำคัญคือการเตรียมความพร้อมให้กับพนักงาน ไม่ว่าจะเป็นทักษะทางเทคนิค หรือทักษะทั่วไป เพื่อให้ทุกคนทำงานร่วมกับ AI ได้อย่างราบรื่น ซึ่งมีแนวทางดังนี้
- มองหาคนมีความสามารถด้าน:
- Data Science
- Machine Learning และอัลกอริทึมต่างๆ
- การวิเคราะห์ข้อมูล (รวมถึง Business Analytics)
- พัฒนาทักษะ (Upskill/Reskill) ให้กับพนักงาน:
- ทั้งทักษะทางเทคนิคและทักษะทั่วไป
- โค้ชพนักงานให้:
- ทำงานร่วมกับแผนกอื่นๆ ได้
- แบ่งปันข้อมูลและมุมมองต่างๆ ภายในองค์กร
- เรียนรู้ซึ่งกันและกัน
- ฝึกอบรมพนักงานให้:
- ออกแบบและมอบประสบการณ์ใหม่ๆ
- ทำงานกับ AI/ระบบอัตโนมัติ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อยากทำงานกับ Generative AI ต้องมีทักษะอะไรบ้าง?
ทักษะทางเทคนิค
- ความรู้ด้านข้อมูล: ต้องเข้าใจวิธีการรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล รู้จักรูปแบบข้อมูล ตีความข้อมูลเชิงลึกจาก AI และเลือกชุดข้อมูลที่เหมาะสม
- การป้อนคำสั่ง AI: คุยกับ AI ให้รู้เรื่อง! ป้อนคำสั่ง คำ หรือประโยคที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
- การตรวจสอบ: เช็คผลลัพธ์จาก AI ดูว่ามีข้อผิดพลาด อคติ ความไม่สอดคล้อง หรือข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิดหรือไม่
- การทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และ AI: เข้าใจจุดแข็ง จุดอ่อนของ AI ปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีใหม่ๆ และทำงานกับ AI ได้อย่างราบรื่น
- ความปลอดภัยทางไซเบอร์: รู้จักภัยคุกคามทางไซเบอร์ และวิธีป้องกันข้อมูลและระบบ AI
- การฝึกอบรมทางเทคนิค: เช่น Machine Learning, Deep Learning และเทคนิค Generative AI ต่างๆ
ทักษะทั่วไป
- คิดวิเคราะห์ แก้ปัญหา: ประเมินผลลัพธ์จาก AI เข้าใจข้อจำกัด และมองหาข้อผิดพลาดหรืออคติ
- ความคิดสร้างสรรค์: คิดนอกกรอบ สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ
- ปรับตัว เรียนรู้: เรียนรู้ทักษะและเครื่องมือใหม่ๆ อยู่เสมอ
- จริยธรรม: ใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบ คำนึงถึงผลกระทบทางจริยธรรม
- ทำงานร่วมกัน สื่อสาร: สื่อสารและทำงานกับคนอื่นๆ ได้ดี
- เข้าใจอารมณ์ เอาใจใส่: เข้าใจและใส่ใจเพื่อนร่วมงาน ลูกค้า และคู่ค้า
AI กับชีวิตการทำงาน
การนำ AI มาใช้ในที่ทำงาน ย่อมส่งผลกระทบต่อพนักงาน ทั้งในด้านบวกและลบ
ด้านบวก
- ลดงานน่าเบื่อ: AI ช่วยทำงานที่ซ้ำซ้อน ทำให้พนักงานมีเวลามากขึ้น
- เพิ่มความคิดสร้างสรรค์: AI ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ และเปิดโอกาสให้พนักงานได้ลองอะไรใหม่ๆ
- ตัดสินใจได้ดีขึ้น: AI ช่วยวิเคราะห์ข้อมูล ให้ข้อมูลเชิงลึก และแนะนำแนวทาง
- ประสบการณ์ที่ปรับแต่งได้: AI ช่วยสร้างประสบการณ์การทำงานที่เหมาะกับแต่ละคน
- โอกาสในการเรียนรู้: AI เป็นโอกาสในการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ และพัฒนาตัวเอง
ด้านลบ
- ความเป็นส่วนตัว: พนักงานอาจกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
- อคติ: AI อาจมีอคติ ถ้าไม่ได้รับการฝึกฝนอย่างถูกต้อง
- จริยธรรม: ต้องคำนึงถึงจริยธรรมในการใช้ AI เช่น การใช้ AI ตัดสินใจแทนที่มนุษย์
ทั้งนี้ Generative AI กำลังจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกการทำงาน องค์กรและพนักงานต้องปรับตัว เตรียมพร้อมรับมือ พัฒนาทักษะ เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ และใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี และขับเคลื่อนธุรกิจไปข้างหน้าในยุคดิจิทัล
#AI #GenerativeAI #FutureOfWork #Upskill #Reskill #EmployeeExperience
ที่มา cx-journey.com