ก้าวเข้าสู่โลกแห่งเทคโนโลยีสุดล้ำกับ El Capitan ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ exascale ที่เร็วที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน พัฒนาโดย Hewlett Packard Enterprise เจาะลึกความลับเบื้องหลังพลังประมวลผลอันน่าทึ่ง สถาปัตยกรรมอันซับซ้อน และภารกิจระดับชาติที่รอคอยการพิชิต!
ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกด้าน การประมวลผลข้อมูลด้วยความเร็วสูงกลายเป็นกุญแจสำคัญในการไขความลับของจักรวาล พัฒนาสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ และแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนของโลก ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ exascale จึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการเหล่านี้ ด้วยพลังประมวลผลอันมหาศาล ที่สามารถทำลายสถิติความเร็วของซูเปอร์คอมพิวเตอร์รุ่นก่อนๆ และก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง “ยอดเขาแห่งพลังประมวลผล” ณ ปัจจุบัน
El Capitan คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญ?
El Capitan คือ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ exascale ที่พัฒนาโดย Hewlett Packard Enterprise (HPE) ภายใต้สถาปัตยกรรม Cray EX Shasta ได้รับทุนสนับสนุนจากกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ และติดตั้ง ณ Lawrence Livermore National Laboratory (LLNL) ในเมืองลิเวอร์มอร์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อใช้ในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ขั้นสูง รวมถึงการพัฒนาและดูแลรักษาอาวุธนิวเคลียร์ของประเทศ
ความสำคัญของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ตัวนี้ นั้นอยู่ที่ความสามารถในการประมวลผลข้อมูลด้วยความเร็วระดับ exascale ซึ่งหมายถึงความเร็วในการคำนวณมากกว่า 1 exaFLOPS หรือ 1 ล้านล้านล้าน (10<sup>18</sup>) การคำนวณต่อวินาที พลังประมวลผลอันมหาศาลนี้ เปิดประตูสู่การวิจัยและพัฒนาในด้านต่างๆ เช่น
- การจำลองแบบ NNSA: ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ตัวนี้จะถูกใช้ในการจำลองแบบสามมิติ เพื่อทำนายประสิทธิภาพและความปลอดภัยของอาวุธนิวเคลียร์ โดยไม่ต้องทำการทดสอบจริง ซึ่งช่วยประหยัดงบประมาณ และลดความเสี่ยงต่อสิ่งแวดล้อม
- การวิจัยทางวิทยาศาสตร์: นอกจากนี้ ยังถูกใช้ในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ด้านต่างๆ เช่น ฟิสิกส์พลังงานสูง ชีววิทยา และวัสดุศาสตร์ ซึ่งจะนำไปสู่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของมนุษย์
- การพัฒนาปัญญาประดิษฐ์: สามารถใช้ในการฝึกฝน และพัฒนา AI ให้มีความฉลาด และแม่นยำมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การประยุกต์ใช้ AI ในด้านต่างๆ เช่น การแพทย์ การคมนาคม และการเงิน
เจาะลึกสถาปัตยกรรม
ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ตัวนี้ ได้รับการออกแบบให้มีประสิทธิภาพในการประมวลผลสูงสุด ด้วยการผสมผสานหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) และหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) จาก AMD เข้าด้วยกัน โดยประกอบด้วย
- CPU: AMD EPYC เจนเนอเรชั่น 4 จำนวน 43,808 ตัว รวม 1,051,392 คอร์
- GPU: AMD Instinct MI300A จำนวน 43,808 ตัว รวม 9,988,224 คอร์
CPU และ GPU เหล่านี้ ทำงานร่วมกัน เพื่อประมวลผลข้อมูล โดย CPU จะรับผิดชอบการคำนวณทั่วไป ส่วน GPU จะรับผิดชอบการคำนวณที่เกี่ยวข้องกับกราฟิก และการประมวลผลแบบขนาน นอกจากนี้ มันยังใช้เทคโนโลยี Slingshot-11 ในการเชื่อมต่อระหว่างโหนดต่างๆ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรับส่งข้อมูล และลด latency ให้เหลือน้อยที่สุด ส่งผลให้ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ตัวนี้มีความเร็วในการประมวลผลสูงถึง 1.742 exaFLOPS (Rmax) หรือ 2.746 exaFLOPS (Rpeak) ซึ่งเร็วกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์อันดับสองอย่าง Frontier ถึง 1.5 เท่า
ภารกิจระดับชาติ
ด้วยพลังประมวลผลอันมหาศาล ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ตัวนี้จึงมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจระดับชาติของสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความมั่นคงของชาติ และการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ขั้นสูง
1. การดูแลรักษาอาวุธนิวเคลียร์:
ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ตัวนี้จะถูกใช้ในการจำลองแบบสามมิติ เพื่อทำนายประสิทธิภาพและความปลอดภัยของอาวุธนิวเคลียร์ โดยไม่ต้องทำการทดสอบจริง ซึ่งเป็นไปตามสนธิสัญญาว่าด้วยการห้ามทดลองอาวุธนิวเคลียร์อย่างครอบคลุม (Comprehensive Nuclear-Test-Ban Treaty – CTBT) การจำลองแบบด้วย ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ตัวนี้ ช่วยให้ NNSA สามารถประเมิน และพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ได้อย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
2. การวิจัยพลังงานฟิวชั่น:
นอกจากนี้มันยังถูกใช้ในการวิจัยพลังงานฟิวชั่น ซึ่งเป็นพลังงานสะอาด และมีศักยภาพในการเป็นแหล่งพลังงานแห่งอนาคต การจำลองแบบ และการวิเคราะห์ข้อมูลด้วย ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ตัวนี้จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ สามารถเข้าใจ และควบคุมปฏิกิริยาฟิวชั่น ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาเตาปฏิกรณ์ฟิวชั่น ที่สามารถผลิตพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยั่งยืน
3. การวิจัยทางวิทยาศาสตร์อื่นๆ:
นอกจากภารกิจหลัก ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ตัวนี้ยังถูกใช้ในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ด้านต่างๆ เช่น
- ฟิสิกส์พลังงานสูง: ศึกษา และจำลอง ปรากฏการณ์ทางฟิสิกส์ ที่เกี่ยวข้องกับอนุภาคพลังงานสูง เช่น การชนกันของโปรตอน ในเครื่องเร่งอนุภาคขนาดใหญ่
- ชีววิทยา: วิเคราะห์ และจำลอง โครงสร้าง และการทำงานของโปรตีน เพื่อพัฒนายา และวิธีการรักษาโรคใหม่ๆ
- วัสดุศาสตร์: ออกแบบ และพัฒนาวัสดุใหม่ๆ ที่มีคุณสมบัติพิเศษ เช่น ความแข็งแรงสูง น้ำหนักเบา และทนความร้อน เพื่อนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ
El Capitan กับอนาคตของซูเปอร์คอมพิวเตอร์
El Capitan ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาซูเปอร์คอมพิวเตอร์ โดยแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยี exascale ในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน และขับเคลื่อนวงการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในอนาคต คาดว่าจะมีการพัฒนาซูเปอร์คอมพิวเตอร์ exascale ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และนำไปประยุกต์ใช้ในด้านต่างๆ มากยิ่งขึ้น เช่น การพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ และการสร้างแบบจำลองสภาพภูมิอากาศ
การพัฒนาซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ยังคงเป็น “การแข่งขัน” ทางเทคโนโลยี ระหว่างประเทศต่างๆ เพื่อชิงความเป็นผู้นำ ในด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ในอนาคต เราอาจจะได้เห็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ที่มีความเร็ว และประสิทธิภาพ สูงกว่า El Capitan หลายเท่าตัว ซึ่งจะนำไปสู่การค้นพบใหม่ๆ และการพัฒนาเทคโนโลยี ที่เหนือจินตนาการ
#ElCapitan #Supercomputer #Exascale #HPE #AMD #LLNL #Technology #Science #AI #Physics #Biology #MaterialScience
ที่มา wikipedia.org , hpe.com , manufacturingtodayindia.com