หลังจาก LINE MAN เพิ่งจัดแถลงใหญ่ไปเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเคลมว่า แคมเปญ “ถูกสุดทุกวัน” เป็นการจัดใหญ่สุดในรอบ 3 ปี ลองมาดูกันว่า ตอนนี้สถานะของ LINE MAN เป็นอย่างไร ส่วนแบ่งตลาดเป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับคู่แข่งอื่นๆ ความกังวลของสถานการณ์คู่แข่งจากต่างประเทศ หรือ ทุนจีน ที่อาจจะเข้ามารุกตลาดไทย รวมถึงแผนการเข้าตลาดในปีหน้าครับ
LINE MAN – Grab มั่นใจเป็นผู้นำทั้งคู่
เริ่มจากภาพรวมการแข่งขันของตลาด Food Delivery วันนี้ต้องยอมรับว่ารายใหญ่สุดในประเทศไทย เหลือแค่ 2 รายหลัก คือ LINE MAN กับ Grab ด้าน foodpanda ก็ยังอยู่แบบเรื่อยๆ เหมือนเดิม ถึงแม้จะเคยมีข่าวว่าจะขายกิจการ ส่วน Robinhood ล่าสุดเพิ่งขายให้กลุ่มยิบอินซอย โดยมูลค่าการซื้อขายคิดเป็นมูลค่ารวมสูงสุด 2,000 ล้านบาท ก็คงต้องดูว่าจะมีการรุกตลาดเพิ่มอย่างไร
ทั้งนี้ทั้งนั้น LINE MAN กับ Grab เองก็ประกาศว่าตัวเองเป็นผู้นำตลาด
ล่าสุด คุณยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai ก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ตลาด Food Delivery ปีนี้โตดีมาก โตเร็วกว่าที่คาด ถ้าให้ประเมินคร่าวๆ ภาพรวมอยู่ที่ประมาณ 10% ส่วน LINE MAN ถึงแม้อาจจะยังไม่มีตัวเลขที่ชัดเจนให้ แต่น่าจะมากกว่า 15% และใน Q4 ที่จัดแคมเปญ ถูกสุดทุกวัน น่าจะโตมากกว่า 25% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน
สำหรับ Active User ของ LINE MAN ยังอยู่ที่ 10 ล้านคนต่อเดือน
คุณยอด ยังตอบในประเด็นที่นักข่าวถามเรื่อง “คู่แข่งอย่าง Grab ก็อ้างการเป็นผู้นำตลาด Food Delivery” ว่า เรื่องใครเป็นผู้นำอาจจะต้องให้ตัวกลางอย่างบริษัทที่ทำวิจัยเป็นผู้วัดผล เราไม่มีตัวเลขของคนอื่น แต่เรามีความมั่นใจในตัวเลขของตัวเอง และเรามั่นใจว่าเราโตเร็วที่สุด โตเร็วกว่าตลาดแน่นอน อีกส่วนคือครอบคลุมอำเภอมากที่สุด
หากมาดูด้าน Coverage จะพบว่าวันนี้ LINE MAN ครอบคลุมอยู่ที่ 328 อำเภอ จาก 878 อำเภอ(ข้อมูลจากกระทรวงมหาดไทย) ซึ่งหากเทียบกับเมื่อ 2 ปีก่อนยังครอบคลุมอยู่ที่ประมาณ 200 กว่าอำเภอ ถือว่าเติบโตมาได้มากกว่า 50% เลยทีเดียว
ซึ่งตรงนี้ความน่าสนใจคือการขยายการให้บริการให้ครอบคลุมทุกอำเภอมันเป็นไปได้หรือไม่ ถ้าพูดกันแบบยอมรับความเป็นจริงก็คงต้องบอกว่าเป็นไปได้ยากมากๆ เพราะบางอำเภอไม่ได้มี Ecosystem มากพอจะให้ความคุ้มค่ากับการเข้าไปลงทุน เช่น อำเภอที่มีแต่ไร่ นา เป็นหลัก คงจะมีร้านอาหาร หรือบ้านคน ไม่มากพอให้ไรเดอร์เข้าไปให้บริการได้ รวมถึงเส้นทางสัญจรก็ไม่ได้เอื้ออำนวยกับการขนส่งเหมือนกับคนเมือง
ตลาด Food Delivery ไม่ต้อง Subsidize แต่ยังต้องทำโปรโมชั่น
ส่วนในประเด็นต่อมาที่น่าสนใจในการแข่งขันของตลาด Food Delivery คือ วันนี้ยังต้องเผาเงินเพื่อเอาชนะคู่แข่งกันอยู่หรือไม่
คุณยอด ตอบในประเด็นนี้ว่า ในภาพรวมของธุรกิจ Food Delivery อาจจะไม่ต้อง Subsidize แล้ว แต่ในแคมเปญ วันพิเศษ ยังต้องมีการกระตุ้นยอดขาย เช่นเดียวกับอีคอมเมิร์ซที่จัด Double day ต้องมีช่วงลดราคาบ้าง ซึ่งบริษัทจะต้องรู้ว่าในแต่ละแคมเปญลงทุนได้เท่าไร ทำแคมเปญได้นานเท่าไร
ซึ่ง คุณยอด ยังย้ำอีกว่า เราไม่ต้องไปเผาเงิน และการจัดแคมเปญครั้งนี้ไม่ได้เริ่มสงครามราคารอบใหม่ แต่มาจากการที่ทำธุรกิจมาหลายปี และจากการทำวิจัย พบว่า ค่าส่งที่ถูก ราคาอาหารที่เป็นมิตร ติดอันดับ Top ของผู้ใช้
อีกส่วนหนึ่งคือ ทุกวันนี้ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับเรื่อง การระมัดระวังการใช้จ่าย และ ความคุ้มค่า โดยเฉพาะกับอาหารที่ต้องกินทุกวัน เพราะฉะนั้นการทำแคมเปญ จะมีโอกาสสร้างโมเมนตัมมากขึ้นในการเพิ่มส่วนแบ่งตลาด
หากมาดูรายละเอียดของแคมเปญ ถูกสุดทุกวัน นี้ จะมีการใช้งบลงทุนประมาณ 300 ล้านบาท เป็นอย่างน้อย โดยแบ่งโปรโมชั่นออกเป็น 3 ส่วน คือ 1. ส่วนลดอาหารสูงสุด 60% 2. เก็บโค้ดลดเพิ่มสูงสุด 100 บาท และ 3. ส่งฟรี 0 บาท ซึ่งลูกค้าสามารถใช้ส่วนลด 3 ต่อใน Order เดียว และจุดสำคัญอยู่ตรงนี้ คือ ไม่ต้องเป็นสมาชิก Subscription รายเดือนก็ใช้ได้
โดยแคมเปญนี้จะรัน 3 เดือน ตั้งแต่ ตุลาคม – ธันวาคม 2567
พร้อมเข้าตลาดปีหน้า
การทำแคมเปญใหญ่ในรอบ 3 ปีนี้ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เป็นการขยับเพื่อเตรียมความพร้อมกับการเข้าตลาดในปีหน้า พ.ศ. 2568
ซึ่ง คุณยอด ตอบในประเด็นนี้ว่า สำหรับแผนการเข้าตลาดหลักทรัพย์ยังเหมือนเดิม คือ ปีหน้า (พ.ศ. 2568) แต่ความชัดเจนต้องดูความเคลื่อนไหวในตลาดอีกครั้ง จะเป็น Q3 หรือ Q4 แต่ยังให้ข้อมูลใดๆ มากไม่ได้ เพราะค่อนข้าง Sensitive จะให้รายละเอียดได้มากกว่านี้ในช่วงที่ใกล้เข้าตลาดจริงๆ
หากมาดูธุรกิจของ LINE MAN จะพบว่าวันนี้ไม่ได้มีแค่ธุรกิจส่งอาหาร ส่งของ หรือ รับส่งคน แต่ยังมีอีก 2 ธุรกิจที่คอยช่วยดันผลประกอบการ คือ Merchant Solution หรือระบบ POS (Point of Sale System) เป็นธุรกิจที่เกิดจากการเข้าซื้อ FoodStory ซึ่งแน่นอนว่าร้านค้าที่อยู่ใน LINE MAN ส่วนหนึ่งใช้ระบบนี้ในการจัดการร้านอาหารอยู่ และยังมีอีกหลายร้านที่ยังไมได้ใช้ เพราะฉะนั้นโอกาสการขยายฐานลูกค้ายังมีอีกมากทีเดียว
และอีกหนึ่งธุรกิจ คือ Financial Service หรือระบบ Payment ก็เป็นอีก 1 ธุรกิจที่ยังเติบโตได้ดี เพราะทุกวันนี้เวลาเราสั่งอาหารเราก็ใช้จ่ายผ่านการโอน หรือผ่านบัตรเครดิตกันหมดแล้ว รวมไปถึง ไรเดอร์ หรือ ร้านค้าร้านอาหาร ที่ต้องการวงเงินเพื่อซื้อของที่จำเป็น หรือขยายธุรกิจ ก็สามารถใช้ Financial Service เพื่อเข้าไปช่วยให้คนกลุ่มนี้ที่เข้าไม่ถึงระบบการเงินหลัก สามารถกู้เงินได้
ขณะเดียวกัน ยอดการสั่งซื้อเฉลี่ยต่อออเดอร์ หรือ (Basket Size) ก็เติบโตขึ้นทุกปี ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากภาวะเงินเฟ้อ และอีกตัวเลขที่น่าสนใจก็คือ คนกรุงเทพฯ และคนในต่างจังหวัด มียอดการสั่งซื้อเฉลี่ยนต่อออเดอร์ที่ใกล้เคียงกัน
“ซึ่งแผนการเข้าตลาด ทั้งเรื่องการเงิน ส่วนแบ่งตลาด และการทำงาน ทุกอย่างต้องไปพร้อมกัน” คุณยอด กล่าว
ไม่กังวลทุนจีนทุ่มแข่งในไทย
สำหรับประเด็นสุดท้าย คิดว่าคนไทยน่าจะให้ความสนใจ เพราะก่อนหน้านี้ที่ Temu บุกเข้ามาก็เป็นกระแสกันยกใหญ่ แต่ตรงนั้นเป็นส่วนของธุรกิจขายสินค้า ซึ่งจะแตกต่างจากธุรกิจส่งอาหาร
แต่เมื่อถามว่า แล้วถ้ามีทุนจีนเข้ามาถล่มเงินสู้ในธุรกิจส่งอาหารล่ะ LINE MAN จะรับมืออย่างไร
ซึ่ง คุณยอด เองก็กล่าวไว้น่าสนใจว่า “ตลาดฟู้ดจีนบุกไทย ผมได้ยินทุกปีเลย ซึ่งเขาบุกมานานหลายปีแล้ว วันนี้ก็ยังอยู่ในตลาด แต่เรา (LINE MAN ) ก็อยู่ตรงนี้เสมอ และเป็นคนที่เพิ่มส่วนแบ่งตลาดทุกปี เพราะฉะนั้นเราไม่กังวล
หากเรามาดูปัจจัยที่ทำให้ผู้เล่นหน้าใหม่บุกในตลาดนี้ยาก ก็มีอยู่ 2-3 ข้อ คือ
1.Coverage หรือ การครอบคลุมพื้นที่ให้บริการ และจำนวนไรเดอร์ ที่ต้องเสิร์ฟไดัทั่วถึง นั่นเป็นสาเหตุแรกที่ผู้เล่นใหม่เข้ามาไม่ได้ง่ายนัก
2.ค่าส่งต้องถูก ประเด็นนี้เราถามตัวเองก็ได้ ว่าถ้าจะเลือกสั่งอาหารจากร้านเดียวกัน เปิดมา 2 แอปฯ ค่าอาหารไม่ต่างกัน แต่ค่าส่งต่างกันมาก คงไม่มีใครที่เลือกร้านที่ส่งแพงกว่า ซึ่งการที่ผู้เล่นใหม่จะเข้ามาแข่งขันได้ก็จะต้องอัดงบเข้ามาแข่งขันลดค่าส่งอย่างมหาศาล
3.ร้านอาหารครบ มีครบทุกร้านอร่อย ซึ่งวันนี้ที่ LINE MAN มีร้านค้าอยู่ในมือมากถึงเกือบ 500,000 ร้านค้า ทั้งร้านใหญ่ ร้านเล็ก สตรีทฟู้ด ก็ต้องใช้เวลารวบรวมอยู่หลายปี เพราะฉะนั้นแพลตฟอร์มที่เข้ามาใหม่ หากไม่มีร้านที่เป็นแม่เหล็กต่างๆ ก็คงไม่มีลุกค้าอยากกดสั่งอย่างแน่นอน
ซึ่งแน่นอนว่า คุณยอด มั่นใจว่ามีทั้ง 3 ข้อนี้ ทำให้วันนี้คนไทยหันมาสั่งอาหารผ่าน LINE MAN และยังมั่นใจว่าวันนี้ LINE MAN เป็นหนึ่งในผู้นำของตลาด Food Delivery