โลกเดือด! ไทยเผชิญวิกฤติสิ่งแวดล้อมหนัก NIA หนุน “นวัตกรรม” สู้ภัยพิบัติ

โลกเดือด! ไทยเผชิญวิกฤตสิ่งแวดล้อมหนัก NIA หนุน “นวัตกรรม” สู้ภัยพิบัติ

ประเทศไทยกำลังเผชิญกับวิกฤตการณ์สิ่งแวดล้อมอย่างหนัก “ยุคโลกเดือด” มาเยือน ภัยพิบัติทางธรรมชาติรุนแรงขึ้น น้ำท่วม ไฟป่า อากาศร้อนทำลายสถิติ เอ็นไอเอ (NIA) ชู นวัตกรรมรับมือ ตั้งแต่ระบบแจ้งเตือนภัยน้ำท่วม AI เรือกู้ภัยพลังงานแสงอาทิตย์ ยันกล่องลังฟอกอากาศ DIY สู้ฝุ่น PM 2.5

จาก “โลกร้อน” สู่ “โลกเดือด” ภัยพิบัติทางธรรมชาติทวีความรุนแรง

ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ ภาวะโลกร้อน เป็นความท้าทายระดับโลกที่ส่งผลกระทบต่อทุกประเทศ รวมถึงประเทศไทย ที่ผ่านมา เราเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา ประเทศไทยต้องรับมือกับปัญหาน้ำท่วมใหญ่ในหลายพื้นที่ ดินโคลนถล่ม ไฟป่า

  • ปี 2565 ประเทศไทยมีปริมาณน้ำฝนสูงสุดในรอบ 40 ปี เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน รุนแรงกว่าปี 2554 ที่เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่
  • ปี 2566 ประเทศไทยเผชิญกับอากาศร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์
  • ปี 2567 อุณหภูมิในหลายพื้นที่ของไทยพุ่งสูงขึ้น ทำลายสถิติเดิม จากอิทธิพลของปรากฏการณ์เอลนีโญ
  • ภาคเหนือเกิดน้ำท่วมรุนแรงที่สุดในรอบ 80 ปี สร้างความเสียหายกว่า 30,000 ล้านบาท

เลขาธิการสหประชาชาติ อันโตนิโอ กูเตร์เรส ประกาศว่า ยุคโลกร้อนสิ้นสุดลงแล้ว และยุคโลกเดือดได้มาถึง ซึ่งเป็นผลมาจากกิจกรรมของมนุษย์ การพัฒนา และความเจริญก้าวหน้าต่าง ๆ ภาวะโลกเดือดส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ ตั้งแต่ อุณหภูมิที่สูงขึ้น ภัยแล้ง อากาศแปรปรวน ส่งผลต่อสุขภาพ ความหลากหลายทางชีวภาพ ภาคการเกษตร และภาคอุตสาหกรรม

เอ็นไอเอ ผลักดันนวัตกรรมรับมือภัยพิบัติ

สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ เอ็นไอเอ เล็งเห็นถึงความสำคัญของการนำนวัตกรรมมาใช้รับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ สนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหา บรรเทาความเสียหาย และช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยมีตัวอย่างนวัตกรรมที่น่าสนใจ ดังนี้

1. Fon Faa Arkat: สถานีแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมและสภาพอากาศ AI

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น พัฒนา “Fon Faa Arkat” สถานีแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมและสภาพอากาศ โดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทำนายปริมาณน้ำฝนล่วงหน้าอย่างแม่นยำ

  • Edge AI: ประมวลผลข้อมูลบนอุปกรณ์ ไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เหมาะกับพื้นที่ห่างไกล
  • Machine Learning: วิเคราะห์ข้อมูล เรียนรู้ และพัฒนาความแม่นยำในการพยากรณ์
  • แจ้งเตือนแบบเรียลไทม์: ผ่าน Line และจอแสดงผลสาธารณะ เข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็ว ทันเหตุการณ์

นวัตกรรมนี้ช่วยให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย เช่น เทศบาลตำบลกุดหว้า อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ สามารถเตรียมรับมือกับภัยน้ำท่วม วางแผนการเพาะปลูก ลดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน

2. เรือกู้ภัยไฟฟ้าพลังงานโซล่าเซลล์

วิทยาลัยเทคนิคนครอุบลราชธานี ร่วมกับ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุบลราชธานี พัฒนา “เรือกู้ภัยไฟฟ้าพลังงานโซล่าเซลล์” เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ชุมชนหาดสวนยา

  • มอเตอร์ 1,200 วัตต์: ขับเคลื่อนได้ ทั้งเดินหน้า และถอยหลัง
  • บรรทุกน้ำหนักได้ 1,000 กิโลกรัม: ขนย้ายผู้ประสบภัย สิ่งของ และอุปกรณ์ช่วยเหลือ
  • พลังงานแสงอาทิตย์: ชาร์จพลังงานได้ต่อเนื่อง ใช้งานได้แม้ไม่มีแสงแดด
  • ชุดแปลงแรงดันไฟฟ้า: ใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น พัดลม โทรศัพท์มือถือ

เรือกู้ภัยไฟฟ้าพลังงานโซล่าเซลล์ เป็นนวัตกรรมที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม เข้าถึงพื้นที่น้ำท่วมขัง ขนส่งสิ่งของจำเป็น และอำนวยความสะดวกในการสื่อสาร

3. ชุดการเรียนรู้การรับมือสถานการณ์ฝุ่น กล่องลังฟอกอากาศ DIY และมุ้งสู้ฝุ่น

ภาคเหนือของประเทศไทยต้องเผชิญกับปัญหาหมอกควันและฝุ่น PM 2.5 เป็นประจำทุกปี ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก สตรีมีครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ

ศูนย์วิชาการเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับ ชุมชนสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ พัฒนา “ชุดการเรียนรู้การรับมือสถานการณ์ฝุ่น” ประกอบด้วย

  • กล่องลังฟอกอากาศ DIY: ทำจากกระดาษลังรีไซเคิล ราคาถูก หาซื้อได้ง่าย ประกอบเองได้
  • มุ้งสู้ฝุ่น: มุ้งความละเอียดสูง ช่วยป้องกันฝุ่น PM 2.5
  • คู่มือการเรียนรู้เรื่องมลพิษทางอากาศ: ให้ความรู้ สร้างความเข้าใจ และแนวทางป้องกัน

กล่องลังฟอกอากาศ DIY มีประสิทธิภาพในการลดฝุ่น PM 2.5 เทียบเท่าเครื่องฟอกอากาศในท้องตลาด แต่มีราคาถูกกว่า ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงอากาศบริสุทธิ์ได้ง่ายขึ้น

เอ็นไอเอ เดินหน้าสนับสนุนนวัตกรรมเพื่อชุมชนในยุคโลกเดือด

เอ็นไอเอ มุ่งมั่นสนับสนุนนวัตกรไทย พัฒนา และสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม รับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ และสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชน ในปี 2568 เอ็นไอเอ ดำเนินโครงการ “นวัตกรรมเพื่อชุมชนในยุคภาวะโลกเดือด” (Innovation for Communities in the era of Global Boiling) ภายใต้โครงการ “นวัตกรรมสำหรับเมืองและชุมชน” (City & Community Innovation Challenge 2025) โดยสนับสนุนเงินทุนสูงสุด 1.5 ล้านบาทต่อโครงการ เพื่อนำไปพัฒนา ทดลอง และขยายผลสู่การใช้งานจริงในพื้นที่

เจาะลึก ‘ทรูฟาร์มคาว’ เพิ่มผลตอบแทนฟาร์มโคนมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล

Scroll to Top