“โดนัลด์ ทรัมป์” คืนชีพ TikTok ในสหรัฐฯ เพราะห่วงคะแนนนิยม?

"โดนัลด์ ทรัมป์" คืนชีพ TikTok ในสหรัฐฯ เพราะห่วงคะแนนนิยม?

หลังจากผู้ใช้ TikTok ในสหรัฐฯ ทั้ง 170 ล้านคน ไม่สามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันได้ตั้งแต่ช่วงดึกของวันเสาร์ที่ผ่านมา แต่ผ่านไปเพียงครึ่งวัน (ประมาณ 12 ชั่วโมง) แอปฯ ก็กลับมาใช้งานได้ปกติ ซึ่งผู้อยู่เบื้องหลังก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น ประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” ที่ได้ประกาศว่าเป็นผู้กอบกู้แอปฯ TikTok ให้กับชาวสหรัฐฯ ซึ่งก็สร้างความงุนงงอยู่พอสมควร เพราะ ทรัมป์ เองถือเป็นคนแรกที่ประกาศแบนแอปฯนี้ออกจากสหรัฐฯ โดยอ้างเรื่องความมั่นคง

หากย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ ต้องกลับไปในปี 2020 ที่โดนัลด์ ทรัมป์ ยังเป็นประธานาธิบดีสมัยแรก ทรัมป์ ได้ออกคำสั่งห้ามบริษัทอเมริกันทำธุรกรรมกับ ByteDance และ TikTok อ้างเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ พร้อมขีดเส้นตายให้ ByteDance ขายกิจการ TikTok ในสหรัฐฯ ภายใน 45 วัน ในเดือนสิงหาคม ปี 2020 ก่อนที่ในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน จะมีการสั่งระงับคำสั่งแบน TikTok ชั่วคราว

ต่อมาในเดือนมิถุนายน ปี 2021 ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ยกเลิกคำสั่งแบน TikTok ของทรัมป์ และสั่งให้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ทบทวนความเสี่ยงด้านความมั่นคงของแอปพลิเคชันที่เชื่อมโยงกับต่างชาติ หลังจากนั้นได้มีการเริ่มเจรจากับ ByteDance เพื่อหาทางออกร่วมกัน

แต่พอเข้าสู่ปี 2022 ก็กลับมามีประเด็นเรื่องการแบน TikTok อีกครั้ง หลังสมาชิกสภาคองเกรสจากทั้งสองพรรค เริ่มผลักดันกฎหมายเพื่อแบน TikTok ในเดือนมีนาคม ก่อนที่สภาคองเกรสจะผ่านร่างกฎหมายห้ามเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางใช้ TikTok บนอุปกรณ์ของรัฐบาล

ถัดมาในปี 2023 คณะกรรมาธิการการต่างประเทศของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้ลงมติเห็นชอบร่างกฎหมายที่ให้อำนาจประธานาธิบดีสหรัฐฯ แบน TikTok ทั่วประเทศ ในเดือนกุมภาพันธ์

ต่อด้วยในเดือนมีนาคมปีเดียวกัน สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมาย “Protecting Americans from Foreign Adversary Controlled Applications Act” หรือ H.R. 7521 ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น หรือเรียกกันง่ายๆ ว่า “กฎหมายแบน TikTok” ก่อนที่ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะลงนามรับรองกฎหมาย H.R. 7521 ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 19 มกราคม 2025

ซึ่งในปี 2024 เองนั้น TikTok ก็ได้มีความพยายามขอให้ระงับการบังคับใช้กฎหมาย H.R. 7521 กับบริษัทต่อศาลสูงสหรัฐฯ แต่ก็ถูกปฏิเสธคำร้อง

และในวันที่ 19 มกราคม 2025 ตามเวลาสหรัฐฯ TikTok ก็ได้ถูกถอดออกจาก App Store และ Google Play ในสหรัฐฯ ทำให้ผู้ใช้ทั้ง 170 ล้านคน เข้าใช้งานไม่ได้ แต่หลังจากนั้นเพียงแค่ครึ่งวัน หรือประมาณ 12 ชั่วโมง TikTok ก็กลับมาอีกครั้ง เรียกว่าหายไปเหมือนระบบล่มมากกว่าโดนแบน ซึ่งผู้ที่กอบกู้ก็คือ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ทั้งนี้การกลับมาในครั้งนี้ก็ใช่ว่าจะกลับมาถาวร แต่เป็นการขยายเวลาการแบนออกไป 90 วัน เพื่อหาข้อตกลงใหม่ในการเปลี่ยนผ่านเจ้าของร่วมของบริษัท ByteDance ในสหรัฐฯ โดยทรัมป์ ก็ได้เสนอว่าอาจจะเป็นการให้นายทุนของทางฟากสหรัฐฯ เข้าไปถือหุ้นกิจการของ ByteDance ที่อยู่ในสหรัฐฯ 50% และให้เจ้าของเดิมถือหุ้นเพียง 50%

แต่ปัจจัยที่ ทรัมป์ เลื่อนการแบน TikTok อาจจะไม่ได้มีเพียงเท่านี้

เพราะหากปล่อยให้ผู้ใช้เข้าใช้งาน TikTok ไม่ได้ในช่วงนี้ อาจจะส่งผลกระทบต่อความนิยมในจังหวะที่กำลังจะเข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ

อีกส่วนหนึ่ง คือหากมาดูจำนวนผู้ใช้ TikTok ในสหรัฐฯจะพบว่า 25% ของผู้ใช้ที่ใช้งานมีอายุระหว่าง 10-19 ปี, 22% มีอายุระหว่าง 20-29 ปี, 21.7% มีอายุระหว่าง 30-39 ปี, 20.3% มีอายุระหว่าง 40-49 ปี และ 11% มีอายุ 50 ปีขึ้นไป

หากนับเฉพาะผู้ใช้ที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี หรือเป็นคน Gen ใหม่ ก็มีมากถึง 47% หรือประมาณ 80 ล้านบัญชีเลยทีเดียว ซึ่งการที่แพลตฟอร์มนี้ใช้งานไม่ได้อาจจะส่งผลกระทบต่อคะแนนเสียงของคนรุ่นใหม่ต่อทั้งตัวทรัมป์ และตัวพรรครีพับลิกันก็เป็นไปได้

ซึ่งทรัมป์เองก็มีผู้ติดตามใน TikTok มากถึง 15 ล้านบัญชี (ณ วันที่ 21 มกราคม 2025) และใช้ช่องทางนี้เป็นหนึ่งในช่องทางหาเสียง รวมถึงการโปรโมตแคมเปญต่างๆ

ขณะเดียวกันทรัมป์เองก็เคยส่งสัญญาณว่าเขาไม่ชอบ Meta ของ Mark Zuckerberg ซึ่งเป็นเจ้าของ Facebook และ Instagram ซึ่งเป็นอีกเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่ตัดสินใจปิด TikTok อย่างถาวร แต่ยังให้โอกาสในการเจรจาเพื่อหาเจ้าของร่วมต่อไป

อย่างไรก็ตาม อนาคตของ TikTok ในสหรัฐฯ ยังคงไม่มีความแน่นอน ByteDance และรัฐบาลสหรัฐฯ อาจกลับมาเจรจาอีกครั้ง หรือ TikTok อาจถูกแบนอย่างถาวร หาก ByteDance ไม่ยอมเจรจาขายกิจการใน 90 วันนี้

Scroll to Top