Web3 และ Blockchain จะทำให้นักการตลาดต้องเปลี่ยนวิธีการเข้าถึงข้อมูลลูกค้า?

Web3 และ Blockchain จะทำให้นักการตลาดต้องเปลี่ยนวิธีการเข้าถึงข้อมูลลูกค้า?

เคยได้ยินกันไหมว่า Web3 และ Blockchain จะเข้ามาเปลี่ยนวิธีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล จากปัจจุบันแพลตฟอร์มจะเป็นผู้เก็บข้อมูลของเราไว้บน Cloud และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้เมื่อได้รับการยินยอมจากผู้ใช้ ซึ่งปกติคนมักจะกดยินยอมกันอยู่แล้ว แต่เมื่อเข้าสู่ยุคของ Web3 เป็นเจ้าของข้อมูลเก็บทุกอย่างไว้เองบน Wallet (กระเป๋าเงิน) โดยมี Blockchain เป็นตัวยืนยันความถูกต้องของข้อมูล

หากเกมการเก็บข้อมูลเปลี่ยนไปแบบนี้ การทำการแคมเปญหรือออกโปรโมชั่นของนักการตลาด ก็คงจะทำไม่ได้ เพราะแพลตฟอร์มไม่มี Data ของผู้ใช้เลย และจะเป็นอีกครั้งหนึ่งที่นักการตลาดต้องหาวิธีรวบรวมข้อมูลของผู้ใช้ เพื่อนำมาทำแคมเปญทางการตลาด

หากย้อนไปในยุคแรกก่อนจะเข้าสู่ยุคดิจิทัล การตลาดสมัยนั้นจะต้องเก็บข้อมูลดิบผ่านการลงพื้นที่เพื่อทำแบบสำรวจโดยตรงโดยอาจจะให้ของชำร่วยเล็กๆ น้อยๆ กับผู้ทำแบบสำรวจ ก่อนจะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดมาประมวลผลเพื่อนำไปออกสินค้าและบริการให้ตรงใจลูกค้า

สำหรับยุคปัจจุบัน หรือยุคโซเชียลมีเดียมาร์เก็ตติ้ง นักการตลาดสามารถพึ่งพาฐานข้อมูลจากแพลตฟอร์มต่างๆ ได้โดยที่ไม่ต้องเดินไปเก็บข้อมูลเอง ไม่ต้องให้คนทำแบบสำรวจ เช่นการซื้อ Keyword บน Google หรือการยิง Ads ผ่านโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook ซึ่งได้ผลดีทั้งในแง่ของการรับรู้แบรนด์ (Awareness) และ การสร้างยอดขาย (Conversion)

การขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะเหมาะสม คือ ปัญหาสำคัญ ของการขับเคลื่อนความคล่องตัวทางดิจิทัลขององค์กรไทย

แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งเมื่อการทำการตลาดรูปแบบเดิมๆ เริ่มไม่ได้ผลดีเท่าเดิม และราคาค่าโฆษณาผ่านแพลตฟอร์มมีราคาสูงขึ้น ประกอบกับคนเริ่มกังวลกับการให้ข้อมูลส่วนตัวกับแพลตฟอร์มต่างๆ มากขึ้น การตลาดในยุคนี้จึงเริ่มคุ้มค่าน้อยลงไปทีละนิด

อีกส่วนหนึ่งคือ การใช้ฐานข้อมูลจากแพลตฟอร์มนั้นแบรนด์จะไม่สามารถทำ Personalized Marketing หรือการตลาดที่เจาะไปในความต้องการของแต่ละคนได้ เพราะแบรนด์ไม่ได้เป็นผู้ถือข้อมูลของลูกค้าเอง

สำหรับคอนเซ็ปต์ของการตลาดในยุค Web3 นั้น การเก็บข้อมูลถูกมองเป็น Decentralized หมายความว่า ผู้ใช้จะเป็นผู้เก็บข้อมูลส่วนตัวไว้กับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเรื่อง เพศ อายุ สถานะ ไปจนถึง ความชอบต่างๆ เช่น ชอบกินอะไร ชอบเที่ยวที่ไหน ใช้รถยี่ห้ออะไร หรือ มี Gadget อะไรบ้าง โดยมี Blockchain เป็นตัวยืนยันความถูกต้องของข้อมูล

แล้วนักการตลาดจะดึงข้อมูลลูกค้ามาอย่างไร?

สำหรับการตลาด สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไปคือ ความอยากรู้จักลูกค้าว่าลูกค้าเป็นใคร ชอบทำอะไร แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ คือ วิธีการที่จะทำอย่างไรให้ได้ข้อมูลของลูกค้ามาอยู่ในมือ

ซึ่งคอนเซ็ปต์ของยุค Web3 นั้นมาพร้อมกับ Wallet หมายความว่า ผู้ใช้คือผู้ที่เก็บข้อมูลไว้ในกระเป๋าเงินดิจิทัลด้วยตนเอง ซึ่งวิธีการเข้าถึงข้อมูลลูกค้าในยุค Web3 นั้น ถ้ามองเผินๆ จะเหมือนถูกย้อนกลับไปในยุคเริ่มต้นของการทำตลาด คือการทำแบบสำรวจ เพียงแค่สามารถใช้ช่องทางดิจิทัล และเลือกใช้คำถามสั้นๆ ใช้เวลาไม่มาก เพื่อให้ลูกค้าไม่รู้ว่าถูกรบกวนมากไป โดยแลกกับการให้ Voucher หรือ Token เพื่อให้ลูกค้านำไปใช้ประโยชน์ต่อได้

นอกจากนี้ การตลาดในยุค Web3 ยังถูกมองว่า จะเข้ามาช่วยทำ Personalized Marketing ได้แม่นยำขึ้น แบรนด์สามารถออกแพ็กเกจบริการแบบแยกเฉพาะบุคคลได้มากขึ้น มีโอกาสปิดการขายได้มากขึ้น เพราะแพ็กเกจต่างๆ นั้นถูกออกแบบจากตัวลูกค้าที่เป็นผู้ให้ข้อมูลเอง หรือ เรียกว่าเป็นการซื้อข้อมูลส่วนตัวโดยจรงจากลูกค้า เพื่อนำไปวิเคราะห์และออกผลิตภัณฑ์กลับไปขายลูกค้าอีกครั้งหนึ่ง

สุดท้ายคงต้องมาดูกันว่าเทรนด์การเข้าถึงข้อมูลของนักการตลาดยุค Web3 จะวิ่งมาทางนี้จริงหรือไม่ หรือจะมีวิธีการอื่นๆ ที่ทำให้แบรนด์สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวจากลูกค้าได้ดีกว่านี้

Scroll to Top