หลังเปิดตัว Xiaomi 14T Pro มาเมื่อวันก่อน เรามาเทียบกับคู่แข่งอีก 2 แบรนด์ในเรตราคาใกล้ๆ กัน อย่าง vivo V40 Pro และ Samsung Galaxy S24 FE ว่าวันนี้หากมีงบประมาณ 25,000 บาท แล้วกำลังตัดสินใจซื้อ 1 ใน 3 รุ่นนี้ ตัวไหนมีข้อดีอย่างไร สเปคใครดีกว่าทั้ง ความเร็ว กล้อง แบตเตอรี่ มาดูกันเลยครับ
เริ่มกันที่ขนาดตัวเครื่องกันก่อนเลยครับ ทั้ง 3 รุ่นมีขนาดตัวเครื่องต่างกันเล็กน้อยมากๆ แต่ถ้าจะโฟกัสกันที่ความหนาอย่างเดียว เริ่มที่ตัวที่เพิ่งเปิดล่าสุด คือ Xiaomi ตัวเครื่องหนา 8.4 มม. ด้าน Samsung ที่ประกาศเปิดตัวไปก่อนหน้า 1 วัน หนา 8 มม. ด้าน vivo หนา 7.6 มม.
และด้วยความที่บางสุด vivo ก็เบาสุดเช่นกันที่ 192 กรัม ตามมาด้วย Xiaomi 209 กรัม เรียกว่าถึงจะหนากว่าแต่ทำน้ำหนักได้ดีอยู่ครับ ส่วน Samsung หนักสุดที่ 213 กรัม
ทั้ง 3 รุ่นนี้หน้าจอต่างกันเล็กน้อยมากๆ Xiaomi หน้าจอ AMOLED 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1220 x 2712 พิกเซล ตามมาด้วย Samsung ใช้ Dynamic AMOLED 2X 6.7 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2340 พิกเซล และ vivo ให้มาที่ AMOLED 6.78 นิ้ว 1260 x 2800
ทั้ง 3 ตัวรองรับ HDR10+ เหมือนกัน โดย vivo และ Samsung ให้รีเฟรชเรต 120Hz มา ส่วน Xiaomi ให้มามากสุดที่ 144Hz
ด้านความสว่างสูงสุด (Peak) ตรงนี้ vivo ดีกว่า เพราะให้มาถึง 4500 nits ตามมาด้วย Xiaomi ที่ 4000 ส่วน Samsung ให้มาแค่ 1900 nits เท่านั้น
สำหรับการกันน้ำ กันฝุ่น ทั้ง 3 รุ่นให้มาเท่ากันหมดที่ IP68
เรียกว่าเป็นสเปคที่ถูกเอามาเปรียบเทียบกันมากที่สุดของการเปิดตัวมือถือในแต่ละครั้งก็ว่าได้
ทางค่ายจีนเองก็เข้าไปจับมือกับค่ายกล้องใหญ่ๆ ขณะที่ค่ายเกาหลีอย่าง Samsung ก็ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีกล้องเป็นของตัวเอง
ด้าน Xiaomi ให้กล้องมา 3 ตัวที่ เป็น LEICA นะครับ
ถ่าย Video ได้สูงสุด 8K 30fps
มาดู vivo ที่มากับ ZEISS กันบ้าง
ถ่าย Video ได้ 4K 60fps
ส่วน Samsung ให้อะไรมาบ้าง มาดูกัน
ถ่าย Video ได้สูงสุด 8K 24fps
สรุปข้อดี ข้อได้เปรียบของกล้องแต่ละรุ่น
เริ่มการที่สเปคของเลนส์ vivo ไม่กั๊กเลย คือให้ 50 MP มาทั้ง 3 ตัว ด้าน Xiaomi ให้ 50 MP มากับกล้องหลักและ Telephoto ส่วน Samsung ให้ 50 MP มาแค่กล้องหลัก
การซูม Xiaomi และ vivo 2 ตัวนี้ซูมได้มากที่สุด คือซูมได้ 5X จากระยะปกติ ส่วน Samsung ได้แค่ 75mm เท่านั้น
ด้านรูรับแสงกล้องหลัก Xiaomi ทำได้ดีที่สุด ที่ f/1.6
ด้าน Video ทั้ง Xiaomi และ Samsung ถ่ายได้ 8K ขณะที่ vivo ได้แค่ 4K
แต่ตรงนี้ถ้าพูดกันตรงไปตรงมา การถ่าย Video 4K ด้วยมือถืออาจจะยังได้คุณภาพไม่ต่างกับการใช้ FHD มากนัก ซึ่งการถ่าย Video 8K ทาง Samsung เองก็ออกมาชูจุดขายว่ามีประโยชน์เวลาถ่ายแล้วเอาไปแคปเป็นภาพนิ่ง จะได้ความคมชัดเท่าภาพถ่ายจากกล้อง
“สำหรับภาพถ่ายที่ได้ทั้งคุณภาพหรือสีสัน ตรงนี้แล้วแต่ชอบโทนสีกันเลยครับ ถ้าชอบโทนสีแบบ LEICA ก็ไป Xiaomi ซึ่งครั้งนี้เขาเพิ่ม Leica Portrait มาสำหรับช่างภาพที่ชอบถ่ายรูปคนมาด้วย ถ้าชอบถ่ายคนขาวเนียนก็ไป ZEISS ของ vivo รับรองไม่ผิดหวัง ส่วนถ้าชอบสีสดใสก็ไป Samsung ครับ”
ส่วนกล้องหน้า Xiaomi ให้มา 32 MP, f/2.0 ระยะ 25mm ด้าน vivo ให้มา 50 MP, f/2.0 ระยะ 21mm และ Samsung ให้มา 10 MP, f/2.4 ระยะ 26mm หากมองมุมกว้างที่เก็บได้ตรงนี้ vivo ทำได้กว้างที่สุด ส่วน Video กล้องหน้าทั้ง 3 รุ่น ถ่าย 4K ได้ทั้งหมด
ประสิทธิภาพของชิปเซ็ต ถ้ามองตามซีรีส์ที่ให้มาก็เรียกว่าไม่ต่างกันมาก ด้าน Xiaomi 14T Pro Mediatek Dimensity 9300+ แรงกว่า vivo V40 Pro ที่มาพร้อม Mediatek Dimensity 9200+ เพียงเล็กน้อย ส่วน Samsung Galaxy S24 FE ใช้ Exynos 2400e รุ่นลดสเปคจาก S24 มาเล็กน้อย
ถ้าดูจากคะแนนในต่างประเทศ ความแรงของ Samsung นั้นน้อยที่สุดใน 3 รุ่น
ด้าน Battery ทาง vivo ให้มามากที่สุดที่ 5500 mAh ตามมาด้วย Xiaomi ที่ 5000 mAh และ Samsung ให้มาที่ 4700 mAh
ส่วนการชาร์จนั้น Xiaomi เรียกว่ามาเต็ง 1 กับการชาร์จไวที่ 120W แบบเสียบสาย และแบบไร้สายที่ 50W ส่วน Samsung ให้ชาร์จไวมาที่ 25W ซึ่งเป็นความเร็วมาตรฐานที่ให้มาในหลายๆ รุ่น และ รองรับชาร์จไร้สายที่ 15W ส่วน vivo นั้น รองรับแค่การชาร์จแบบเสียบสายที่ 80W
สำหรับระบบปฏิบัติการ (OS) ใช้ Android 14 ทั้ง 3 รุ่น
Xiaomi และ vivo รองรับ Wi-Fi 7 ขณะที่ Samsung รองรับแค่ Wi-Fi 6 ในส่วนของฟีเจอร์ต่างๆ เช่น NFC และเซ็นเซอร์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการ Fingerprint, Gyro, Proximity หรือ Compass มีให้มากันทุกรุ่น เรียกว่าเป็นเซ็นเซอร์พื้นฐานไปแล้วก็ได้
ก่อนเปิดตัว Xiaomi 14T Pro ทาง Samsung ก็คงจะเคลมได้ว่าเป็นเจ้าเดียวที่ใส่ AI มาด้วย แต่วันนี้การแข่งขันด้าน AI มันเปลี่ยนไปแล้ว เพราะทาง Xiaomi เองก็เปิดตัว AI อย่าง Circle to Search, Live Translation ซึ่งทำงานได้คล้ายกับ Galaxy AI แต่ก็ไม่ต้องแปลกใจเพราะใช้ Gemini เหมือนกันทั้ง 2 ค่าย
อย่างไรก็ตาม Samsung ยังคงมีจุดเด่นมากกว่าในการปรับแต่งภาพ อย่างฟีเจอร์ Sketch to image และ Portrait Studio ที่เพิ่งปล่อยมาให้ใช้ในรุ่นนอกเหนือจาก Galaxy Z Flip6 และ Fold6
ส่วน vivo ยังคงเป็นค่ายเดียวที่ไม่ได้ขาย AI มาแข่ง แต่ยังคงชูจุดเด่นของการถ่ายภาพด้วย ZEISS เป็นหลัก
ด้านราคากับความจุที่ให้มาเราคงไม่ต้องสรุปกัน เพราะตัวเลขก็เห็นกันชัดๆ อยู่แล้ว
ทั้งนี้การจะเลือกซื้อรุ่นใดรุ่นหนึ่ง ก็คงต้องแล้วแต่ความชอบส่วนตัวครับ สำหรับคนที่ไม่ได้เป็นแฟนค่ายใดค่ายหนึ่ง ก็อยากให้ไปลองจับตัวจริงกันดูว่าชอบความรู้สึกเมื่อถือรุ่นไหนมากที่สุด รวมถึงสีฝาหลังของแต่ละค่ายก็สวยแตกต่างกันไป รวมถึงโปรโมชั่นของแต่ละรุ่น ก็อาจจะส่งผลต่อการตัดสินใจได้อีก แนะนำให้ลองเช็คดีๆ ก่อนตัดสินใจครับ
แคนนอน (Canon) เปิดตัวกล้องซีรีส์ V ใหม่ล่าสุด 2 รุ่น ได้แก่ EOS R50 V และ PowerShot V1 ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของครีเอเตอร์รุ่นใหม่ที่กำลังมองหากล้องขนาดกะทัดรัด…
Thailand is taking a significant step towards becoming a leading medical and wellness hub in…
ทะยานสู่ Medical Hub! โรช ไดแอกโนสติกส์ จับมือสภาเทคนิคการแพทย์ เสริมแกร่งห้องแล็บไทย ตั้งเป้า 150 แห่งเข้าร่วมโครงการ Lab Benchmarking 2025 พร้อมดันมาตรฐานสากล เพิ่มห้องแล็บรับรอง…
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ร่วมกับ ไปรษณีย์ไทย เปิดตัวบริการ "EMS ส่งด่วนผลไม้" ในอัตราค่าบริการสุดพิเศษ เริ่มต้นเพียง 3 กิโลกรัม 60 บาททั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนเกษตรกรไทยในการกระจายผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะผลไม้สดใหม่…
"Market Place เทพรักษ์" เปิดตัวแล้ว! โมเดลใหม่ Community Mall ผสาน Urban Fresh Market ชู Neighbourhood-Centric ยึดใจกลางพหลฯ-วัชรพล ดึงแบรนด์ดังกว่า…
นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในฐานะประธานมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา เผยว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่ศูนย์กลางประเทศเมียนมา ส่งผลให้อาคารบ้านเรือนในหลายพื้นที่ของไทยได้รับความเสียหาย ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก รวมทั้งโรงเรียนภายใต้การดูแลของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กฟผ. จึงร่วมกับมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา…
This website uses cookies.