เสร็จสิ้นไปแล้วกับพิธีวางศิลาฤกษ์โรงงานแห่งแรกของ CHANGAN ประเทศไทย ณ จ.ระยอง เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา เป็นอีกหนึ่งค่ายรถจากจีนที่เลือกไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อกระจายรถยนต์พลังงานใหม่ หรือ EV ไปสู่ภูมิภาคอาเซียน ตั้งเป้าใช้เงินลงทุนรวมประมาณ 2 หมื่นล้านบาท บนพื้นที่ 1,500 ไร่ ผลิตรถยนต์สูงสุด 2 แสนคันต่อปี และสำหรับการทำตลาดในไทย CHANGAN ตั้งเป้านำรถยนต์ EV 100% เข้ามาแข่งขันในตลาดเพียงอย่างเดียว
สำหรับการลงทุนจะแบ่งเป็น 2 เฟส โดยในเฟสแรก ใช้เงินลงทุนประมาณ 8.8 พันล้านบาท สร้างโรงงานที่ครอบคลุมการผลิตทั้ง พ่นสี งานประกอบตัวรถยนต์ เครื่องยนต์ และแบตเตอรี่ ตั้งเป้าผลิต 100,000 คันต่อปี โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในต้นปี 2568 และในเฟสที่ 2 จะตั้งฐานผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ (EV) ตั้งเป้าผลิตสูงสุด 200,000 คัน ต่อปี ครอบคลุมทั้งตลาดอาเซียน และตลาดรถยนต์พวงมาลัยขวาทั่วโลก
ทั้งนี้การเข้ามาตั้งโรงงานในไทยจะเกิดการจ้างงานคนไทยในเฟสแรกประมาณ 1,000 คน และหากเสร็จในเฟสที่ 2 จะเกิดการจ้างงานประมาณ 2,000 คน
มั่นใจผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์คนไทย
หวาง ฮุย รองประธานกรรมการ Changan Automobile กล่าวถึงการเข้ามาทำตลาดในไทยว่า “รถยนต์ของ CHANGAN มีขุดแข็งที่เทคโนโลยี ซึ่ง AI และเทคโนโลยีอื่นๆ ที่พัฒนาในจีนนั้นมีความล้ำหน้ามากและถูกพัฒนามาเพื่ออนาคต สำหรับการออกแบบรถ เรามีดีไซน์ที่เหนือกว่าคู่แข่ง ล่าสุดเราได้ Product Design Award ในปี 2023 จาก Red Dot Award”
หวาง ฮุย ยังกล่าวต่อว่าปัจจุบัน CHANGAN ได้ดีลเลอร์แล้วกว่า 40 เจ้า และตั้งเป้าว่าจะขยายดีลเลอร์ไปมากกว่า 100 เจ้าในอนาคต และจะสร้างความแตกต่างด้วยการเปิดศูนย์บริการที่ให้บริการกับลูกค้าได้ตลอด 24 ชม.
CHANGAN ถือว่าเป็น 1 ใน 4 ยักษ์ใหญ่ค่ายรถจากจีน และมีรถยนต์หลายแบรนด์อยู่ภายใต้การบริหาร ซึ่งการมาลงทุนในไทยครั้งนี้ หวาง ฮุย ให้ความเห็นว่า “เรามองเรื่องการเติบโตไปด้วยกัน สำหรับรุ่นรถยนต์ที่จะนำมาเปิดตัวในไทยเราเชื่อมั่นว่าจะตอบโจทย์คนไทยมากที่สุด เพราะเราได้ทำรีเสิร์จมาระดับหนึ่ง ทำความเข้าใจลูกค้าชาวไทย”
สำหรับแบรนด์และรุ่นที่จะนำเข้ามาทำตลาดในไทยจะมีการประกาศอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 27 พ.ย, นี้ และภายในงาน Motor Expo 2023 ที่จะจัดเร็วๆ นี้ CHANGAN ก็จะนำรถยนต์เข้ามาจัดแสดงภายในงานด้วย โดยทุกรุ่นที่จะเข้ามาจัดแสดงและทำตลาดในไทยนั้นจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% เท่านั้น ซึ่งการตัดสินใจแข่งขันในตลาดไทยด้วยรถยนต์ EV เท่านั้น มาจากปัจจัยหลักๆ 3 ด้านคือ 1.รัฐบาลไทยให้การสนับสนุนการผลิตรถยนต์ EV ในไทย 2.คนไทยชื่นชอบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และ 3.ตั้งใจจะลงทุนระยะยาวในไทย
ส่วนแบรนด์รถที่จะนำมาทำตลาดในปีต่อๆ ไปจะต้องดูทิศทางและไลฟ์สไตล์ความชื่นชอบของลูกค้าในไทยก่อน