แม้เผชิญความท้าทายทางเศรษฐกิจและการค้า แต่ตลาดยานยนต์ไฟฟ้าโลก (EV) ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยคาดการณ์ว่ายอดขาย EV ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเกือบ 30% ในปี 2025
S&P Global Mobility บริษัทวิจัยยานยนต์ชั้นนำ คาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกจะพุ่งสูงขึ้นถึง 15.1 ล้านคันในปี 2025 เพิ่มขึ้น 29.9% จากปี 2024 ซึ่งคาดว่าจะมียอดขายอยู่ที่ 11.6 ล้านคัน การเติบโตนี้ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดของรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจาก 13.2% เป็น 16.7% แม้ว่าการผลิตรถยนต์ทั่วโลกโดยรวมจะลดลง 0.4% เหลือ 88.7 ล้านคันก็ตาม
Mark Fulthorpe ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายพยากรณ์ยานยนต์ขนาดเล็กทั่วโลกของ S&P Global Mobility กล่าวว่า “อุตสาหกรรมยานยนต์ยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนในขณะที่เราก้าวเข้าสู่ปี 2025 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราคาดการณ์ภาษีศุลกากรแบบครอบคลุมที่จะเกิดขึ้นในสมัยประธานาธิบดีทรัมป์ ในช่วงปี 2025 ภูมิทัศน์การผลิตจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เนื่องจากการค้าโลกชะลอตัว และมาตรการตอบโต้ทางการค้าที่อาจเกิดขึ้น”
จีนยังคงครองตลาด EV ทั่วโลก
แม้ว่าอัตราการเติบโตจะชะลอตัวลง แต่จีนยังคงเป็นผู้นำในตลาด EV โดยคาดว่าจะมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าคิดเป็น 29.7% ของตลาดโลกภายในสิ้นปี 2025 ซึ่งเพิ่มขึ้น 19.7% เมื่อเทียบกับปี 2024 การเติบโตที่เป็นผู้ใหญ่นี้สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้นำของจีนในการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าซึ่งขับเคลื่อนโดยผู้ผลิตรถยนต์เช่น BYD, Changan และ Tesla
สหรัฐอเมริกาและยุโรปเร่งเครื่อง
สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีส่วนแบ่งตลาดยานยนต์ไฟฟ้าใหญ่เป็นอันดับสอง โดยคาดว่าจะอยู่ที่ 11.2% ภายในสิ้นปี 2025 เพิ่มขึ้น 36% จากปี 2024 ส่วนยุโรปกลางและยุโรปตะวันตก แม้จะประสบปัญหาบางประการในปีนี้ แต่คาดว่าจะมียอดขายยานยนต์ไฟฟ้าคิดเป็น 20.4% ของตลาดภายในสิ้นปี 2025 ซึ่งเพิ่มขึ้น 43.4%
อินเดียเติบโตแบบก้าวกระโดด
อินเดียเป็นประเทศที่น่าจับตามอง โดยคาดว่าจะมียอดขาย EV เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในปีหน้า โดยมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 7.5% ในเดือนธันวาคม 2025 ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 117% เมื่อเทียบกับปี 2024
ความท้าทายและโอกาสในอนาคต
แม้ว่าตัวเลขเหล่านี้จะแสดงถึงการเติบโตที่น่าoptimistic แต่ก็ยังคงมีความไม่แน่นอนอยู่บ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกา ซึ่งคาดว่าแรงจูงใจทางภาษีสำหรับ EV ของรัฐบาลกลางจะหมดไปในเร็วๆ นี้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อทั้งผู้ผลิตรถยนต์และผู้ซื้อ
อย่างไรก็ตาม การเติบโตของตลาด EV ทั่วโลกยังคงเป็นแนวโน้มที่แข็งแกร่ง โดยปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญ ได้แก่
- ความกังวลด้านสิ่งแวดล้อม: ผู้บริโภค increasingly มีความตระหนักถึงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และมองหารถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
- นโยบายสนับสนุนของรัฐบาล: หลายประเทศทั่วโลกมีนโยบายสนับสนุนการใช้ EV เช่น การให้เงินอุดหนุน การลดหย่อนภาษี และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการชาร์จไฟ
- ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี: แบตเตอรี่ EV มีราคาถูกลง มีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถวิ่งได้ระยะทางไกลขึ้น
- การแข่งขันในตลาด: ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ต่างเปิดตัวรถยนต์ EV รุ่นใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้น
แม้จะมีความท้าทายอยู่บ้าง แต่แนวโน้มการเติบโตของตลาด EV ทั่วโลกยังคงสดใส โดยคาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอีกหลายปีข้างหน้า ซึ่งจะส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตของผู้คนทั่วโลก
#ยานยนต์ไฟฟ้า #EV #ตลาดรถยนต์ #เศรษฐกิจ #เทคโนโลยี #สิ่งแวดล้อม #จีน #สหรัฐอเมริกา #ยุโรป #อินเดีย
ที่มา insideevs.com
–5 นวัตกรรมพลิกโฉม “สมาร์ทโฟน” ปี 2025: สู่ยุค แบตเตอรี่ทรงพลัง จอพับสุดล้ำ และ AI อัจฉริยะ