หลังจากที่ได้ทุ่มเทวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์เพื่อส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ให้กับผู้บริโภคมาตลอดหลายปีในฐานะบริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยี เกรท วอลล์ มอเตอร์ (GWM) ได้ประสบความสำเร็จในการคิดค้นแพลตฟอร์มอัจฉริยะ L.E.M.O.N DHT แพลตฟอร์มแบบโมดูลาร์สุดล้ำที่สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับเครื่องยนต์ได้หลากหลายรูปแบบ ช่วยให้ตัวรถมีน้ำหนักเบา สามารถลดแรงระหว่างการขับขี่ให้สะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
อีกทั้งยังใช้กับทั้งรถยนต์ระบบสันดาปภายใน (ICE) ยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานผสม หรือ ไฮบริด (HEV) ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ (BEV) และยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานเซลล์เชื้อเพลิง (FCEV) ซึ่งรวมถึงความสามารถในการเชื่อมต่อระบบ 5G ในอนาคต โดย เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้พัฒนาแพลตฟอร์มนี้ขึ้นจากการทดสอบบนถนนมากกว่า 6 ล้านกิโลเมตรและในสภาพแวดล้อมสุดขั้นถึง 76 แบบ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถส่งมอบประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับที่ทั้งปลอดภัย ประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
–SCG จับมือ AIS และ Huawei พัฒนาระบบขนส่งแบบไร้คนขับ ผ่านเครือข่าย 5G
การพัฒนารถยนต์ด้วยแพลตฟอร์มอัจฉริยะดังกล่าวจึงเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าจาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้รับการตอบรับอย่างท่วมท้นจากผู้บริโภคและสื่อมวลชนในหลายประเทศทั่วโลก ขณะที่ L.E.M.O.N DHT ก็ได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมถึง 5 ด้าน คือ ด้านประสิทธิภาพ (Performance) สถาปัตยกรรมไฮบริด (Hybrid Architecture) สมรรถนะการขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD Performance) การใช้พลังงานและระยะการขับขี่ (Energy Consumption and Driving Range) และประสบการณ์การขับขี่ (Driving Experience) จนอาจเรียกได้ว่ายืนหนึ่งในวงการยนตรกรรมไฮบริดด้วยความแข็งแกร่งครบทุกมิติ (Excellent Comprehensive Strength)
ความจัดจ้านด้านเทคโนโลยีไฮบริด กุญแจสู่ความสำเร็จของการพัฒนายานยนต์อัจฉริยะ
เกรท วอลล์ มอเตอร์ เป็นผู้ออกแบบและพัฒนารวมถึงเป็นเจ้าของสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาของแพลตฟอร์มนี้ ซึ่งถือเป็นผลงานชิ้นเอกด้านเทคโนโลยีไฮบริดของผู้ผลิตรถยนต์ทั้งหมดในประเทศจีน โดยการเกิดขึ้นของแพลตฟอร์ม นำมาซึ่งเทคโนโลยีไฮบริดที่มีการบูรณาการระดับสูงโดยใช้โครงสร้างการเชื่อมต่ออนุกรมแบบขนานด้วยมอเตอร์คู่ในเชิงสถาปัตยกรรมระบบ ครอบคลุมทั้งรูปแบบ HEV และ PHEV รวมถึงระบบส่งกำลังสามชุด คือ ระบบส่งกำลัง 1.5L + DHT115, 1.5T + DHT130 และ 1.5T + DHT130 + P4 จึงเป็นที่มาของความสำเร็จทั้งในด้านสมรรถนะ ความอัจฉริยะ ระยะทางการขับขี่ และด้านอื่นๆ อีกมากมาย
องค์ประกอบสำคัญที่สร้างสรรค์มาเพื่อการทำงานอย่างชาญฉลาดหลากหลายรูปแบบ
นอกจากนี้ยังเป็นโซลูชันด้านเทคโนโลยีไฮบริดที่มีประสิทธิภาพเป็นอันดับต้นๆ ของโลก โดยถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อให้เป็นระบบประกอบยานยนต์ไฮบริดแบบ “Seven-in-one” ที่มีประสิทธิภาพสูงและรองรับการขับขี่หลากหลายรูปแบบ ซึ่งเมื่อเทียบกับระบบการประกอบรถยนต์เชื้อเพลิงทั่วไป จะมีขนาดเล็กกว่า น้ำหนักเบากว่า ประสิทธิภาพการส่งกำลังสูงกว่า ทั้งยังเหนือกว่าในด้านระดับเสียง ความสั่นสะเทือน และความกระด้างที่ลดลงทั้งหมด
ขณะที่โครงสร้างการเชื่อมต่ออนุกรมแบบขนานด้วยมอเตอร์คู่สามารถควบคุมระบบเพื่อสลับโหมดการขับขี่ได้อย่างชาญฉลาด และสามารถทำงานร่วมกันกับเครื่องยนต์ไฮบริดที่มีประสิทธิภาพสูงได้เป็นอย่างดีเพื่อให้ใช้กำลังและเชื้อเพลิงได้อย่างเหมาะสมที่สุดภายใต้สถานการณ์การขับขี่ที่แตกต่างกัน นอกจากนั้น การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเหนือระดับยังช่วยให้มีความโดดเด่นในด้านประสิทธิภาพ พละกำลัง ประหยัดพลังงานมากขึ้น มีอัตราความล้มเหลวต่ำ และให้ระยะทางการขับขี่ที่ไกลขึ้น เป็นต้น
และไม่เพียงมาพร้อมกับความสปอร์ตและสมรรถนะตลอดจนระยะทางการขับขี่ที่ไปได้ไกลยิ่งขึ้นเท่านั้น แต่ยังถือเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่มีความโดดเด่นด้านการทำงานและความอัจฉริยะ โดยระบบจัดการความร้อนอัจฉริยะยังสามารถควบคุมอุณหภูมิของแบตเตอรี่ได้อย่างชาญฉลาดตามสภาพแวดล้อมเฉพาะในแต่ละพื้นที่เพื่อให้มั่นใจว่าพลังงานจากแบตเตอรี่จะถูกใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ขณะเดียวกันเทคโนโลยีคันเร่งเดี่ยวอัจริยะ (Single-pedal) ทำให้การขับขี่ง่ายดายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น ระบบควบคุมขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะช่วยเพิ่มเสถียรภาพและความอุ่นใจในการควบคุมรถ ส่วนการปรับไดนามิกอัจฉริยะทำได้ตั้งแต่ 0:100 ถึง 100:0 สำหรับการกระจายแรงบิดไปยังเพลาหน้าและเพลาหลังเพื่อการยึดเกาะถนนอย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มเสถียรภาพในการควบคุมรถ สะท้อนให้เห็นว่าแพลตฟอร์มนี้เป็นเทคโนโลยีไฮบริดที่ชาญฉลาดที่สุดเท่าที่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้เคยสร้างสรรค์ขึ้นมา
“ตัวถัง” ที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน ผสานพลัง “ความอัจฉริยะ” กำเนิดโซลูชันด้านไฮบริดที่พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการได้อย่างลงตัว
และการออกแบบแพลตฟอร์มนี้ยังเป็นบทพิสูจน์ของความสมดุลระหว่างประสิทธิภาพเหนือชั้นและสมรรถะทรงพลังที่ครอบคลุมทุกระดับความเร็วในทุกสถานการณ์ผ่านการเชื่อมต่ออนุกรมแบบขนานของเครื่องยนต์ไฮบริดประสิทธิภาพสูงและมอเตอร์คู่ ส่งมอบโซลูชันด้านการขับขี่ยานยนต์ไฮบริดที่ดีที่สุดตลอดจนประสบการณ์การขับขี่ที่ราบรื่นไร้สะดุด
ใช้พลังงานอย่างชาญฉลาดสำหรับทุกรูปแบบการขับขี่ ด้วย DHT Hybrid Powertrain
L.E.M.O.N DHT จะช่วยเลือกโหมดการขับขี่ที่เหมาะสมพร้อมระบบการควบคุมอัจฉริยะให้เข้ากับแต่ละสถานการณ์ อาทิ
การจับคู่อย่างชาญฉลาดระหว่างโหมดพลังงานกับสถานการณ์การขับขี่รูปแบบต่างๆ ทำให้สามารถสร้างความสมดุลระหว่างระบบการใช้ไฟฟ้าและการใช้เชื้อเพลิงได้อย่างยอดเยี่ยม มอบประสบการณ์เหนือระดับให้กับผู้ใช้รถ
โหมดอัจฉริยะ รองรับการใช้งานและสภาพถนนที่แตกต่างได้อย่างครอบคลุม
ด้วยความสะดวกสบายในการขับขี่ที่มากขึ้น รวมทั้งระดับเสียง ความสั่นสะเทือน และความกระด้าง (NVH) ที่ลดลง ตลอดจนประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิงที่ดียิ่งกว่าที่เคย ทำให้ L.E.M.O.N DHT เป็นแพลตฟอร์มที่มอบประสบการณ์การขับขี่คุณภาพให้แก่ผู้บริโภค ครอบคลุมครบทุกมิติทั้งด้านความเร็ว ความราบรื่น ความเงียบ และความประหยัด
นอกจากนั้น การผสานการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์คู่ รวมถึงการสลับโหมดการขับขี่ที่ดีขึ้นช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงแต่เพิ่มสมรรถนะในทุกช่วงความเร็วและในทุกสถานการณ์ที่เป็นไปได้ เรียกได้ว่าเป็นกลยุทธ์ควบคุมการใช้พลังงานซึ่งได้รับการจดสิทธิบัตรทรัพย์สินทางปัญญาที่ช่วยให้การสลับไปมาระหว่างการใช้น้ำมันและพลังงานไฟฟ้าเป็นไปอย่างราบรื่นไร้รอยต่อ ขณะที่ระดับเสียง ความสั่นสะเทือน และความกระด้าง ต่างได้รับการปรับปรุงและยกระดับให้ดียิ่งขึ้นเพื่อมอบความเงียบสงบเป็นพิเศษในระหว่างการเดินทาง
ZEEHO Thailand ผู้เล่นในตลาดรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า สร้างสีสันให้กับงาน “มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 41” (Motor Expo 2024) ด้วยการเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ถึง 3 รุ่น ได้แก่ ZEEHO AE4,…
ผลการจัดอันดับดัชนีนวัตกรรมโลกประจำปี 2567 หรือ Global Innovation Index 2024 (GII 2024) โดยองค์การทรัพย์สินทางปัญญาแห่งโลก (WIPO) เปิดเผยข่าวดีที่ทำให้คนไทยภาคภูมิใจ ประเทศไทยทะยานขึ้นสู่อันดับที่ 41 ด้วยคะแนน…
ทรู คอร์ปอเรชั่น (True) ติดอันดับดัชนีความยั่งยืน FTSE4Good ประจำปี 2024 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน ESG ในกลุ่มอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ด้วยคะแนนรวมสูงถึง 4.5 จากคะแนนเต็ม…
ประเทศไทยเตรียมยกระดับวงการศึกษาไทยสู่เวทีสากล ด้วยการเปิดตัวโครงการนำร่องหลักสูตรปริญญาร่วมไทย-สหรัฐอเมริกา สาขาครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ ด้านสะเต็มศึกษา (Thai-US Joint-degree Sandbox for STEM Teacher Education Program) มุ่งพัฒนาครูมืออาชีพยุคใหม่ ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงานในอนาคต โครงการนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของหลากหลายหน่วยงาน…
ไทย สมายล์ บัส บริษัทรถเมล์ของคนไทย โชว์ศักยภาพผงาดคว้า 2 รางวัลระดับเอเชีย บนเวที International Innovation Awards (IIA) 2024 จาก Asia…
AI กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าวงการบันเทิงอย่างรวดเร็ว นำเสนอประสบการณ์สุดพิเศษที่ปรับแต่งให้เข้ากับรสนิยม ความสนใจ และอารมณ์ของแต่ละบุคคล จากหน้าจอทีวีสู่สนามกีฬา AI สร้างโลกบันเทิงไร้ขีดจำกัด ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวกระโดดอย่างไม่หยุดยั้ง ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการพลิกโฉมวงการบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์เนื้อหา การผลิต การตลาด…