Business

“ฉมา” ปลื้มสมุนไพรฟ้าทะลายโจรโตต่อเนื่อง เปิดตลาด 5 ตำรับยาสมุนไพรไทยทางเลือก ดูแลบรรเทาโควิด-19

ฉมา แอ็สเซ็ท เจ้าของผลิตภัณฑ์อาหาร ยา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และเครื่องสำอาง จากผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยออร์แกนิค ภายใต้แบรนด์ “ฉมา” เผยผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจรยังเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ มีมูลค่าการบริโภคสูงถึงกว่า 5.2 หมื่นล้านบาท ส่งผลยอดขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรฟ้าทะลายโจร “ฉมา” โตตามตลาดในช่วงปีที่ผ่านมา หลังจากได้รับการยอมรับเป็นสมุนไพรทางเลือกในการบรรเทาอาการผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว ประกอบกับภาครัฐและเอกชน ร่วมผลักดันเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ เปิดตลาด สร้างการรับรู้และความน่าเชื่อถือให้กับผู้บริโภคทั่วโลก เป็นผู้นำผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจรและสมุนไพรตัวอื่นๆ ออกสู่ตลาดโลก

โดยในด้านของฉมาแนะนำตำรับยาสมุนไพรไทย ทั้งยาเบญจโลกวิเชียร (ยาห้าราก) ยาจันทลีลา ยาตรีผลา ยาปราบชมพูทวีป และยาขิง เป็นทางเลือกใหม่เพื่อดูแลสุขภาพผู้ป่วยตามอาการจากการติดเชื้อโควิด-19 กลุ่มสีเขียว เผยแนวโน้มอนาคตพบผู้บริโภคทั่วโลกมองหาผลิตภัณฑ์สมุนไพรเป็นทางเลือกด้านการดูแล รักษาสุขภาพ และป้องกันอาการเจ็บป่วยมากขึ้น พบกว่าร้อยละ 70 ต้องการผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่สามารถปรับสมดุลในร่างกาย โดยเน้นผลิตภัณฑ์สมุนไพรจากธรรมชาติที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ย้ำการสร้างมูลค่าเพิ่มเริ่มได้ตั้งแต่แปลงปลูกจนถึงโรงงานแปรรูปที่ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับสากล มั่นใจผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนบนเวทีโลก

CEO ไทยยูเนี่ยน รับตำแหน่งประธาน SeaBOS สานต่อภารกิจดูแลท้องทะเลยั่งยืน

ปรินดา ตั้งพิรุฬห์ธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฉมา แอ็สเซ็ท จำกัด และหนึ่งในผู้ก่อตั้ง บริษัท ไทยฮา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันผลิตภัณฑ์สมุนไพรฟ้าทะลายโจรยังมีแนวโน้มเติบโตและเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรฟ้าทะลายโจรกลายเป็นหนึ่งทางเลือกสำหรับการดูแลป้องกัน บรรเทาอาการโควิด-19 ส่งผลให้เป็นที่รู้จัก เป็นที่ยอมรับ และเชื่อถือในกลุ่มผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศในวงกว้าง เป็นอีกหนึ่งทางเลือกเพื่อป้องกัน ดูแล และบรรเทา รวมไปถึงการนำไปใช้ในทางการแพทย์ จากข้อมูลโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรชี้ให้เห็นว่า สถานการณ์ความต้องการและมูลค่าการบริโภคสมุนไพรในระดับสากลสูงถึงกว่า 5.2 หมื่นล้านบาท สอดคล้องกับยอดขายผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจรของ “ฉมา” ที่เติบโตตามตลาดมาอย่างต่อเนื่อง

“ที่ผ่านมาพืชสมุนไพรที่เป็นภูมิปัญญาไทยอย่างฟ้าทะลายโจรได้รับความนิยม และมีความต้องการในตลาดโลกสูง ส่งผลให้ภาครัฐตลอดจนภาคเอกชนร่วมกันผลักดันเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ให้มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยพระเอกชูโรงอย่างสมุนไพรฟ้าทะลายโจรนับเป็นใบเบิกทางเปิดตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพร สร้างการรับรู้ และความน่าเชื่อถือให้ผู้บริโภคทั่วโลก รวมทั้งเป็นการช่วยชูโรงในการนำผลิตภัณฑ์สมุนไพรตัวอื่น ๆ ออกสู่ตลาด โดยจากประสบการณ์การพัฒนาการปลูกสมุนไพรในฟาร์มออร์แกนิคมาตรฐานสากลกว่า 100 ไร่ มาร่วมกว่า 10 ปีของฉมา พบผลิตภัณฑ์สมุนไพร 5 ตำรับที่น่าสนใจคือ ยาเบญจโลกวิเชียร (ยาห้าราก) ยาจันทลีลา ยาตรีผลา ยาปราบชมพูทวีป และยาขิง ที่สามารถเป็นทางเลือกใหม่เพื่อดูแลสุขภาพผู้ป่วยตามอาการจากการติดเชื้อโควิด-19 กลุ่มสีเขียวหรืออาการเจ็บป่วยอื่น ๆ นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์สมุนไพรฟ้าทะลายโจร โดยผลิตภัณฑ์สมุนไพรแต่ละตัวมีความโดดเด่นต่างกัน”

ปรินดา กล่าวเพิ่มเติมว่า เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สมุนไพรทั้ง 5 ดังกล่าว จากการเก็บตัวอย่างการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว จากสถานพยาบาลในเครือฉมา โดยมีแพทย์แผนไทยประยุกต์เป็นผู้ดูแลกำกับการใช้ยาสมุนไพร โดยมีข้อมูลการใช้สมุนไพร 5 ตำรับดังนี้ 1. ถ้าผู้ป่วย มีอาการไข้สูงเกินกว่า 38 องศาเซลเซียส เมื่อเช็ดตัวแล้วไข้ไม่ลดลง ให้ใช้ยาเบญจโลกวิเชียร (ยาห้าราก) ตามขนาดที่แพทย์แผนไทยแนะนำ 2.ถ้าผู้ป่วยมีไข้ระหว่าง 37.5 – 38องศาเซลเซียส และมีอาการปวดเนื้อปวดตัว ปวดศีรษะให้ปรับใช้ยาจันทลีลาเพื่อบรรเทาอาการ 3.เมื่อมีอาการไอ มีเสมหะร่วมด้วยให้ใช้ยาตรีผลา คู่กับจิบยาขิง ชนิดชงดื่ม เพื่อบรรเทาอาการไอ เจ็บคอ และ 4.เมื่อมีน้ำมูกไหล หายใจลำบาก ให้ใช้ยาปราบชมพูทวีปร่วมด้วยเพื่อบรรเทาอาการดังกล่าว

นอกจากนี้ ข้อมูลจากสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุถึงแนวโน้มอนาคตของผู้บริโภคทั่วโลก พบว่า ผู้บริโภคมองหาผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อเป็นทางเลือกในด้านการป้องกันและดูแลรักษาสุขภาพมากขึ้น และพบว่ากว่าร้อยละ 70 ต้องการผลิตภัณฑ์สมุนไพรทางเลือกที่สามารถปรับสมดุลในร่างกาย โดยเน้นผลิตภัณฑ์สมุนไพรจากธรรมชาติและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์สมุนไพรออร์แกนิค ข้อมูลดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคในปัจจุบันเปิดรับผลผลิตที่มาจากธรรมชาติเพื่อใช้เป็นหนึ่งตัวเลือกสำหรับป้องกัน ดูแล และรักษาสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ทั้งยังพบข้อมูลจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ที่คาดการณ์ตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 59,500 ล้านบาท ภายในปี 2569 จากข้อมูลที่กล่าวมานับเป็นโอกาสของเกษตรกรไทย รวมทั้งผู้ประกอบการด้านการพัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยจะสามารถขยายตลาดออกไปรองรับความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อสุขภาพที่ได้มาตรฐานในภูมิภาค ยกระดับการแข่งขันของผลิตภัณฑ์สมุนไพร สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ และเป็นอีกหนึ่งหนทางในการผลักดันสมุนไพรให้เป็น “พืชเศรษฐกิจใหม่” ที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน

ทั้งนี้ ฉมา วางแผนการปลูกสมุนไพรออร์แกนิคที่ได้มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ระดับสากล จากการค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยออร์แกนิค ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มจากพัฒนาการปลูกพืชสมุนไพรในฟาร์มออร์แกนิคมาตรฐานสากลของ ฉมา เนื่องจากการสร้างมูลค่าเพิ่มสามารถเริ่มได้ตั้งแต่ต้นน้ำ โดยต้องควบคุมตั้งแต่คุณภาพอากาศ ดิน น้ำ เมล็ดพันธุ์ และปุ๋ยที่ใช้ในการปลูก ภายใต้การควบคุมตามมาตรฐานสากล เพื่อให้ได้มาซึ่งวัตถุดิบที่มีคุณภาพ สู่ผลผลิตที่ได้มาตรฐาน ซึ่งต้องให้ความสำคัญตั้งแต่แปลงปลูกจนถึงโรงงานแปรรูปที่ต้องผ่านการรับรองระดับสากล จะเป็นการสร้างมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยและส่งต่อผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย มีมาตรฐาน เป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค และมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยจะสามารถเติบโตในตลาดโลกได้อย่างแน่นอน

supersab

Recent Posts

China Unicom to Blanket 300+ Cities with 5G-Advanced by 2025, While Thailand Leads APAC’s 5G Revolution

China Unicom has launched its ambitious 5G-Advanced Action Plan, setting the stage for a significant…

28 minutes ago

AIS ผนึกกำลังพันธมิตรภาครัฐ เดินหน้าจัดระเบียบสายสื่อสาร ถนนวิทยุ สร้างมหานครสวยงาม ปลอดภัย

AIS จับมือ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.), กสทช., กรุงเทพมหานคร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระดมทีมวิศวกรเข้าดำเนินการจัดระเบียบสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้าและนำลงใต้ดิน บริเวณถนนวิทยุ ตั้งแต่แยกวิทยุ ถึงแยกเพลินจิต ทั้งสองฝั่ง ตลอดแนวถนน การดำเนินงานในครั้งนี้ มุ่งเน้นไปที่ความปลอดภัยของประชาชนและการลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ…

48 minutes ago

“Trumpism 2.0” กระแทกโลก! สกสว. ชี้ไทยต้องเร่งเครื่อง BCG Economy ดันนวัตกรรมรับมือ ตั้งเป้าปั้นไทยเป็นฮับเทคโนโลยีอาเซียน ดึงต่างชาติร่วมลงทุน

ในยุคที่ "Trumpism" กำลังเขย่าวงการโลกอีกครั้ง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ได้จัดเวทีเสวนา “Trump 2.0 วิกฤตหรือโอกาสของระบบ ววน. ไทย” เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบจากนโยบาย "America…

54 minutes ago

องค์กร 61% กังวลความปลอดภัยคลาวด์ ฟอร์ติเน็ตแนะใช้แพลตฟอร์มรวมศูนย์-เสริมทักษะรับมือภัยคุกคามยุคใหม่

ฟอร์ติเน็ต เปิดเผยผลสำรวจล่าสุดจากรายงานสถานะความปลอดภัยระบบคลาวด์ประจำปี 2568 (2025 State of Cloud Security Report) ซึ่งจัดทำโดย Cybersecurity Insiders ชี้ให้เห็นว่า องค์กรส่วนใหญ่กำลังเผชิญกับความท้าทายในการรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการปฏิบัติตามกฎระเบียบและการปกป้องข้อมูล…

58 minutes ago

เปิดเทรนด์ “Conscious Travel” สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

ยุคสมัยที่โรงแรมเป็นเพียง "ที่นอน" ได้ลาจากไปแล้ว! นักท่องเที่ยวไทยยุคใหม่กำลังมองหาประสบการณ์ที่มากกว่าการพักผ่อน พวกเขาต้องการสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น และใส่ใจความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม เทรนด์ "Conscious Travel" หรือการเดินทางอย่างมีสติกำลังมาแรง สะท้อนผ่านพฤติกรรมการพักผ่อนที่ยาวนานขึ้นในโรงแรม พร้อมแสวงหาประสบการณ์สุดพิเศษที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคล เจาะลึกเทรนด์นักท่องเที่ยว จากรายงาน Changing…

1 hour ago

ไชน่า ยูนิคอม ผนึกกำลัง หัวเว่ย เร่งเครื่อง 5G-Advanced ทั่วเอเชีย

ไชน่า ยูนิคอม ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญในการพัฒนาเครือข่าย 5G ไปอีกขั้น ด้วยการเปิดตัวแผนปฏิบัติการ 5G-Advanced อย่างเป็นทางการ ในงานแถลงข่าว "Powering the Asian Winter Games with…

1 hour ago