ไมเนอร์ ฟู้ด ลุยเปิด Chick-A-Boom ป็อปอัพ สโตร์ รวดเดียว 15 สาขา

ไมเนอร์ ฟู้ด ลุยเปิด Chick-A-Boom ป็อปอัพ สโตร์ รวดเดียว 15 สาขา

ไมเนอร์ ฟู้ด เดินเครื่องความสนุกขยายสาขา ชิค-อะ-บูม ป็อปอัพ สโตร์ (Chick-A-Boom) ในรูปแบบไดน์อินครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดจำนวน 15 แห่ง ตลอดจนยังเปิดขายในรูปแบบไดน์อินและบริการซื้อกลับบ้าน (Take Away) ที่ร้าน เดอะ พิซซ่า คอมปะนี อีกกว่า 220 สาขาทั่วประเทศ ให้บรรดาแฟนคลับไก่ทอดได้มาสัมผัสรสชาติสุดเซอร์ไพรส์ของไก่ทอดสไตล์อเมริกันที่จะมาทลายทุกข้อจำกัดและทำให้การทานไก่จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปด้วยการชูจุดเด่นไก่ทอดหลากรสชาติ (Variety of flavor) ที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำใครเคียงคู่มากับซอสสูตรลับที่ปัจจุบันมีให้เลือกมากถึง 7 รสชาติสุดอร่อย และเซอร์ไพรส์ไปกับซอสรสชาติสูตรลับพิเศษที่จะออกมาให้ลิ้มลองไม่ซ้ำกันในแต่ละเดือนให้ได้ลิ้มลองจนลืมภาพไก่ทอดแบบเดิมที่เคยมีมา เพื่อมอบประสบการณ์ทานอาหารที่ร้านให้มีความสนุกแบบไร้ขีดจำกัด ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภค Gen Z ที่มีไลฟ์สไตล์ชอบความแปลกใหม่ โดยผู้สนใจสามารถสัมผัสรสชาติความอร่อยได้ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2565 เป็นต้นไป

NCC เปิดตัว ‘BALM’ รีเทลใน ‘ศูนย์ฯ สิริกิติ์’ คาดพร้อมให้บริการเดือน ก.ย. 65
SCB 10X ประกาศร่วมลงทุนใน Darwinbox ดันสู่ยูนิคอร์นรายล่าสุด

ภาณุศักดิ์ ซื่อสัตย์บุญ ผู้จัดการทั่วไป เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ภายใต้การดำเนินการของบริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากความสำเร็จของ เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ที่เปิดตัว “ชิค-อะ-บูม” (Chick-A-Boom) แบรนด์ไก่ทอดน้องใหม่ไปเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา พบว่า ได้รับกระแสตอบรับที่ดีและได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากผู้บริโภค จึงเป็นจุดเริ่มต้นการต่อยอดจนเกิดเป็น “ชิค-อะ-บูม ป็อปอัพ สโตร์” ขึ้นเป็นครั้งแรกในไทย เพื่อตอบรับกระแสความต้องการของผู้บริโภคที่ชื่นชอบความแปลกใหม่ โดยเดือนมกราคม เดือนเดียวกำหนดเปิดตัวชิค-อะ-บูม ป็อปอัพสโตร์ รวมกว่า 15 สาขา ทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่ อาทิ เชียงใหม่ พัทยา ขอนแก่น นครราชสีมา ฯลฯ  ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2565 นี้เป็นต้นไป อีกทั้งยังเปิดขายในรูปแบบไดน์อินและบริการซื้อกลับบ้าน (Take Away) ที่ร้านเดอะ พิซซ่า คอมปะนี อีกกว่า 220 สาขาทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงความอร่อยของรสชาติในหลากหลายมิติของ ชิค-อะ-บูม ได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าจากการขยายการให้บริการดังกล่าวจะสามารถเสริมทัพยอดขายเมนูไก่ในร้านเดอะ พิซซ่า คอมปะนี ให้เติบโตขึ้นได้อีกเท่าตัว

ความโดดเด่นและแตกต่างของ “ชิค-อะ-บูม คือการการปฏิวัติความจำเจของไก่ทอดให้มีความแปลกใหม่ ทำให้ลูกค้ารู้สึกสนุกสนานและได้มีประสบการณ์ร่วมไปกับแบรนด์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Limitless Fun Experience/ Never like others/ Never boring”  ด้วยการชูจุดเด่นไก่ทอดหลากรสชาติ (Variety of flavor) และเป็นรสชาติที่ไม่เคยมีมาก่อน  เพื่อสร้าง Customer Experience ทำให้ลูกค้ารู้สึกตื่นเต้นไปกับแบรนด์ในรูปแบบต่างๆ นอกจากนี้ยังได้มีการออกแบบมาสคอตที่ชื่อว่า ชิคกีร่า (Chickira) ให้แบรนด์เป็นที่จดจำของลูกค้ามากขึ้น ซึ่งคาแรคเตอร์ของชิคกีร่าจะเป็นแม่ไก่ที่มีลุคแบบผู้หญิงมั่นใจ ขี้เล่น แสบ ซน โดยแรงบันดาลใจในการออกแบบคาแรคเตอร์ชิคกีร่ามาจากเหล่าซูปเปอร์ฮีโร่ที่เป็นป็อปคัลเจอร์ของอเมริกาเพื่อมาเพิ่มสีสันให้แบรนด์ดูมีชีวิตชีวาแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร” นายภาณุศักดิ์ กล่าว

“ชิค-อะ-บูม” (Chick-A-Boom)  เกิดจากการมองเห็นศักยภาพของตลาดไก่ทอดในประเทศไทยซึ่งเป็นตลาดใหญ่ มีมูลค่าตลาดสูง และมีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นทุกปี ประกอบกับที่ผ่านมา เดอะ พิซซ่า คอมปะนี เราเป็นเจ้าตลาดปีกไก่ทอด (King of Wing) ทั้งไก่เกาหลี ไก่บาร์บีคิว ตั้งแต่ยุคแรกๆ ดังนั้นการสร้างแบรนด์ใหม่เพื่อมาชิงส่วนแบ่งการตลาดจึงเป็นเรื่องที่ท้าทาย”

ภาณุศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ความพิเศษของ ชิค-อะ-บูม ยังได้ออกประสบการณ์การเลือกรับทาน ตั้งแต่การเลือกเซ็ตไก่ ซอส และเครื่องเคียง โดยเซ็ตไก่จะแบ่งเป็น 3 แบบ ได้แก่ Chicka อร่อยเดี่ยว มีไก่ 6 ชิ้น ราคา 169 บาท Chicka Chicka อร่อยเป็นคู่ มีไก่ 12 ชิ้น ราคา 289 บาท และ Chicka Chicka Chicka อร่อยกัน มันส์เป็นทีม มีไก่ 18 ชิ้น ราคา 389 บาท จากนั้นลูกค้าสามารถเลือกเปิดสงครามรสชาติกันได้อย่างสะใจกับซอส 7 รสชาติ อาทิ 1.) วิมปี้ (Wimpy) รสชาติกระเทียมหอมๆ 2.) ฮันนี่บูม (Honey Boom) รสชาติหวานกลมกล่อมของน้ำผึ้ง เด็กกินได้ ผู้ใหญ่กินดี 3.) สโมคกี้ บอมบ์ (Smoky Bomb) กลิ่นรมควันหอมอบอวล 4.) ทรัฟเฟิล (Truffle) ซอสเห็ดทรัฟเฟิลหอมฟุ้งคลุ้งกระจาย 5.) บัฟฟาโล (Buffalo) รสชาติเปรี้ยวกลมกล่อมสไตล์อเมริกัน 6.) อะตอมมิค (Atomic) รสเผ็ดเข้มข้นผสมความหวานนิดๆ 7.) เซเว่น มิสซายล์ (7 Missiles) รสเผ็ดเข้มข้นที่สายแซ่บต้องโดน

 รวมถึงยังครีเอทเมนูไฮไลท์อย่าง เดอะ คิลเลอร์ (The Killer) ไก่สายโหด 4 ไม้ใหญ่ เสิร์ฟพร้อมคอร์นด็อกสุดฮิต ในราคา 399 บาท ที่นอกจากได้ไก่ไปแบบสุดคุ้มแล้วยังออกแบบมาให้เหมาะกับการถ่ายรูปลงโซเชียลเพื่อให้เกิดเป็นกระแสสร้างการรับรู้ในวงกว้าง ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภค Gen Z  กลุ่มวัยรุ่น และกลุ่มเฟิร์สจ็อบเบอร์ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก ซึ่งผู้บริโภคกลุ่มนี้ชอบมองหาประสบการณ์แปลกใหม่แหวกแนวเพื่อสร้างคอนเทนท์ในโซเชียลมีเดีย นอกจากนี้ เมื่อลูกค้ามาทานอาหารที่ร้านก็จะได้พบความสนุกตั้งแต่ทางเข้าร้านกับเสียงของชิคกีร่าเพื่อเรียกความสนใจ จากนั้นเมื่อไปนั่งที่โต๊ะก็จะพบกับ ธงสีสันต่างๆแสดงสัญลักษณ์ เพื่อเรียกพนักงาน ประกอบด้วย ธงสีแดง (Order) และ ธงสีเหลือง (SOS) เพียงแค่โบกธงพนักงานก็พร้อมบริการลูกค้าให้ได้รับความสะดวกตลอดการทานอาหาร อีกทั้งยังมีปลอกถุงมือนิ้วบริการเพื่อให้ลูกค้าอร่อยได้เต็มคำไม่ต้องกังวลว่าซอสจะเปื้อนนิ้ว ซึ่งผู้บริโภคจะได้รับประสบการณ์ความพิเศษเหล่านี้เหมือนกันทุกสาขาเมื่อมาทานที่ร้าน  “ชิค-อะ-บูม ป็อปอัพ สโตร์” ภาณุศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย

Scroll to Top