นับเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือครั้งใหญ่แห่งปี หลัง AIS แถลงจับมือผู้ให้บริการด้านคลาวน์ระดับโลกอย่าง Oracle เปิดตัว Hyperscale Cloud ครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมให้บริการไตรมาส 1 ปี 68
การร่วมมือกันครั้งนี้ถือเป็นการผสานจุดแข็งของทั้ง 2 บริษัท มาพัฒนาเป็นบริการเพื่อตอบโจทย์การทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันและรองรับการขยายตัวของธุรกิจไทย ไม่ว่าจะเป็นบริการคลาวด์ของ Oracle ที่มีมากกว่า 100 บริการ ความสามารถด้าน AI และมาตรฐานความปลอดภัยในการปกป้องข้อมูลระดับสากล
หากมองลึกลงไปในเทคโนโลยี Cloud จะพบว่า Cloud ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ที่สำคัญต่อการทำงาน เป็นเบสิกเทคโนโลยีที่ธุรกิจต้องใช้ในปัจจุบัน เพื่อเป็นกลไกหลักในการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันที่ทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่ดิจิทัล 100% ไม่ว่าจะผ่าน Web Services, Mobile Application หรือกับเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่าง AI, Data Analytic, RPA หรือ IoT ต่างต้องพึ่งพาการประมวลผลที่รวดเร็วจาก Cloud ทั้งสิ้น
ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลจาก Globaldata ที่ระบุว่า Cloud จะเป็นเทคโนโลยีที่เติบโตเฉลี่ยประมาณปีละ 23% ไปจนถึงปี 2570
สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AIS กล่าวว่า ความร่วมมือกันครั้งนี้เป็นการประสานกำลังครั้งสำคัญในการนำจุดแข็งของทั้ง 2 องค์กร เพื่อให้บริการ Hyperscale Cloud ในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญที่เข้ามาสร้างการเปลี่ยนแปลงในวงกว้าง ในการนำดิจิทัลมาสู่องค์กรธุรกิจซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญไม่น้อยกว่ากลุ่มลูกค้าทั่วไป
โดยความร่วมมือในครั้งนี้ AIS และ Oracle ตั้งเป้ามอบบริการคลาวด์ที่มีความสามารถสูงและรองรับการขยายตัวของธุรกิจได้อย่างไร้ขีดจำกัด พร้อมมอบประโยชน์ที่ประเทศจะได้รับใน 4 ด้าน คือ
1.ยกระดับบุคลากรสายเทคไทย ผ่านความสามารถและบริการของ OCI
บริการ Oracle Cloud Infrastructure (OCI) นั้นมีบริการคลาวด์มากกว่า 100 บริการ รองรับการทำงานในหลากหลายรูปแบบ ทั้ง AI, Data Analytic, Robotic Process Automation (RPA), IoT เทียบชั้นบริการคลาวด์ระดับโลก ซึ่งเป็นครั้งแรกในไทยที่องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ภาคอุตสาหกรรม จะเข้าถึงและใช้บริการบนระดับ Hyperscale Cloud
นอกจากจะช่วยให้ธุรกิจทรานส์ฟอร์มเข้าสู่การใช้ Digital แล้ว บุคลากรก็จะได้รับการทรานส์ฟอร์มเช่นกัน ผ่านองค์ความรู้จาก Oracle จะเข้ามาช่วย Upskill ด้านดิจิทัลกับพนักงานให้มีทักษะที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลง
2.ตอบโจทย์ด้าน Security และ Privacy
การให้บริการ AIS Cloud ที่ทำงานบน AIS Data Center ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย บวกกับบริการ Sovereign Cloud ทำให้มั่นใจได้ว่าการใช้บริการบนคราวด์จากความร่วมมือครั้งนี้ จะมีความปลอดภัยและมีมาตรฐานการปกป้องข้อมูลที่เป็นไปตามข้อกำหนดด้านการจัดเก็บข้อมูลของประเทศไทย
3.พร้อมรับมือทุกการเปลี่ยนแปลง
อีกหนึ่งปัจจัยข้อกังวลของธุรกิจยุคนี้คือ เมื่อข้อมูลขึ้นไปอยู่บนคลาวด์ระบบสำรองข้อมูลและกู้คืนจะมีประสิทธิภาพหรือไม่ แต่ด้วยระบบ Disaster Recovery ที่เป็นระบบสำรองและกู้คืนข้อมูล จะช่วยให้ข้อมูลที่สำรองไว้ใช้งานได้ทันที ในกรณีที่ระบบเกิดความเสียหาย
4.เพิ่มความยืดหยุ่นในการขยายธุรกิจ
ระบบคลาวด์แบบกระจายของ Oracle ช่วยให้ธุรกิจมีตัวเลือกในการขยายธุรกิจมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น
–Public Cloud: ที่ตอบโจทย์องค์กรทุกขนาด รวมถึงองค์กรที่ต้องการการควบคุมความเป็นส่วนตัวในสหภาพยุโรป (GDPR) ซึ่ง Oracle นั้นมี Public Cloud อยู่ในทุกทวีปทั่วโลก https://www.oracle.com/emea/cloud/public-cloud-regions/
–Dedicated Cloud: เป็นระบบคลาวด์เฉพาะ ที่ช่วยให้ลูกค้าใช้งานบริการคลาวด์ของ OCI ทั้งหมดในศูนย์ข้อมูลด้วย OCI Dedicated Region ขณะที่พันธมิตรสามารถขายต่อบริการคลาวด์ของ OCI และปรับแต่งด้วย Oracle Alloy ได้ นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถนำไปใช้เป็น Sovereign Cloud หรือคลาวด์ที่อยู่ภายใต้ขอบเขตข้อบังคับทางกฎหมายของประเทศหรือภูมิภาคนั้นๆ ได้
–Hybrid Cloud: OCI ให้บริการคลาวด์หลักในสถานที่ของลูกค้าผ่าน Oracle Exadata Cloud@Customer และ Compute Cloud@Customer และกำลังจัดการการปรับใช้งานในกว่า 60 ประเทศ
–Multi Cloud: ช่วยให้ลูกค้าสามารถรวมความสามารถหลักจากคลาวด์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Oracle Database@Azure, HeatWave MySQL บน AWS และ Microsoft Azure, Oracle Interconnect สำหรับ Microsoft Azure และ Oracle Interconnect สำหรับ Google Cloud
“Hyperscale Cloud ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในไทย จะช่วยปลดล็อกศักยภาพการทำดิจิทัลทรานสฟอร์มเมชันอย่างมีประสิทธิภาพทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน จะช่วยเปลี่ยนแปลงการทำงานขององค์กรดังกล่าวให้มีศักยภาพพร้อมรับมือทุกโอกาส ความท้าทาย และการแข่งขัน ซึ่งจะมีส่วนสำคัญต่อการเพิ่มความได้เปรียบทางการแข่งขัน ดึงดูดนักลงทุน และติดสปีดเครื่องยนต์เศรษฐกิจไทยให้มีแรงขับเคลื่อนเพื่อสร้างการเติบโตได้อย่างยั่งยืน” สมชัย กล่าวทิ้งท้าย
–กรุงศรี ออโต้ เปิดตัว ‘แพลตฟอร์ม PromptBuy ศูนย์รวมสินค้ารักษ์โลก’ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้ใช้รถ
