Almond Koka อีกครั้งกับการส่งสินค้าใหม่สู่ตลาดไทยของ กูลิโกะ พร้อมขึ้น Top 3 ในปีแรก

เป็นเวลากว่า 7 ปี แล้วหลังไทย กูลิโกะ (glico) ได้ส่งสินค้าอย่างไอศกรีมเข้ามาชิงส่วนแบ่งตลาดไอศกรีมในไทย และปี 2023 นี้เป็นอีกครั้งที่ กูลิโกะ ส่งผลิตภัณฑ์ใหม่ “นมอัลมอนด์” ภายใต้แบรนด์ Almond Koka ที่เคลมว่ามีส่วนแบ่งตลาดในญี่ปุ่นมากถึง 90% มาเปิดตัวในไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

หากย้อนดูการทำธุรของ กูลิโกะ ประเทศญี่ปุ่น ปีนี้จะมีอายุครบ 101 ส่วนในประเทศไทย กูลิโกะ เข้ามาดำเนินธุรกิจแล้วกว่า 52 ปี เป็น 1 ในแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในตลาดขนมประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ Pocky, Pretz, Collon, Teenie, Almond Praline และยังมีแบรนด์อื่นๆ อีกมากมายรวมถึงไอศกรีม Palitte ที่เคยเป็นกระแสนิยมในช่วงการเปิดตัวในไทยครั้งแรก

สำหรับการบุกตลาดนมอัลมอนด์แบรนด์ Almond Koka ครั้งนี้ เฉลิมพงษ์ ดรงค์สุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย กูลิโกะ จำกัด มั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จ เพราะกูลิโกะนั้นไม่ได้พึ่งรู้จักการนำอัลมอนด์มาทำเป็นผลิตภัณฑ์ แต่ในอดีตที่ผ่านมาได้มีหลายผลิตภัณฑ์ที่ใช้อัลมอนด์เป็นส่วนผสม

ในปี 1930 ในช่วงแรกของการต่อตั้ง ริอิจิ เอซากิ ได้เริ่มต้นผลิต กูลิโกะ ที่มีส่วนผสมของอัลมอนด์เป็นครั้งแรก ต่อมาในปี 1950 ได้ออกผลิตภัณฑ์ กูลิโกะคาราเมล เป็นการผสมระหว่างช็อกโกแลตและอัลมอนด์ ต่อมาในปี 1958 ได้ปล่อย Chocolate Almond อีกครั้งเพื่อตอกย้ำว่า อัลมอนด์ คือ กูลิโกะ ก่อนที่ในปี 2014 จะเปิดตัว Almond Koka นำอัลมอนด์มาทำเป็นเครื่องดื่มครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น

“วิสัยทัศน์ของกูลิโกะ ไม่เพียงช่วยให้คนมีสุขภาพที่ดี มีชีวิตการเป็นอยู่ที่ดี ยังต้องทำสินค้าให้อร่อย” เฉลิมพงษ์ กล่าว

เฉลิมพงษ์ กล่าวต่อว่า อัลมอนด์เป็นถั่วที่มีประโยชน์ ช่วยลดระดับน้ำตาลและคอเลสเตอรอลในเลือด ป้องกันการเกิดเบาหวาน ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ เพิ่มไขมันดี ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ชะลอการเกิดริ้วรอย และ ช่วยเสริมสร้างเซลล์และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอให้ร่างกาย

ด้าน กลยุทธ์การตลาด ไทย กูลิโกะ จะเน้นการสร้างการรับรู้ผ่านสื่อโฆษณาทั้ง Spot โฆษณา สื่อ Outdoor ตามแนวรถไฟฟ้า ดึง “ใหม่ ดาวิกา” เป็นพรีเซนเตอร์

จัดกิจกรรมการตลาด เช่น การแจกสินค้าตัวอย่างโดยเน้นเจาะกลุ่มคนทั่วไป และคนที่เคยดื่มนมอัลมอนด์ หรือการประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ผู้บริโภค เช่น การนำนมอัลมอนด์ไปผสมกับอาหารแบบในญี่ปุ่น

นอกจากนี้ยังเดินหน้าวางสินค้าตามจุดขายสินค้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต หรือร้านสะดวกซื้อ ทั้งในขนาด 180 มล. (รสออริจินัล หวานน้อย และช็อกโกแลต) และขนาด 1 ลิตรภายในเดือนมิถุนายนปี 2566

และจากแผนดังกล่าวทั้งหมด ไทย กูลิโกะ เชื่อว่าการขยายธุรกิจในครั้งนี้จะเจาะตลาดกลุ่มวัยทำงานรักสุขภาพ และคนรุ่นใหม่ได้สำเร็จ

“เราวางแผนมาหลายปีเพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมผู้ริโภค เราศึกษาทั้งด้านรสชาติ ราคา และวัตถุดิบ เราเชื่อว่าจะทำการตลาดได้ดี สามารถชิงส่วนแบ่งตลาดขึ้นเป็น Top3 ได้สำเร็จ” เฉลิมพงษ์ กล่าวปิดท้าย

*ตลาด Cereal Milk (ไม่รวมนมถั่วเหลือง) ปี 2565 มีมูลค่ากว่า 960 ล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตไปสู่มูลค่า 3,000 ล้านบาท ในปี 2569 (อ้างอิง: Nielsen, Euromonitor)

• Facebook
• X
• Line